More

    ISUZU D-MAX x MU-X สร้างยอดขายแดนจิงโจ้กว่า 4.5 หมื่นคัน

    นอกจาก Ford และ Toyota สู้กันในยอดขายรถยนต์ออสเตรเลียขึ้นที่หนึ่งและที่สองแล้วยังมี ISUZU ส่ง ISUZU D-MAX และ MU-X ขึ้นเป็นที่สามอย่างสมบูรณ์

    ISUZUล่าสุด ISUZU UTE สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถยนต์ออสเตรเลียติดหนึ่งในสิบยอดขายรวมของออสเตรเลียประจำปี 2023 ด้วยตัวเลข 45,341 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 28.4% และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 3.7% เป็นอันดับที่สิบ จากยอดขายรวมทั้งหมด 1,216,780 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเพียง 12.5% (ปี 2017 ทำได้ 1,189,116 คัน) โดยยอดขายสี่หมื่นกว่าคันมาจาก ISUZU D-MAX ขายได้ 31,202 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 28% แบ่งเป็น 25,443 คัน เพิ่มขึ้น 26.4% เป็นอันดับที่สามของยอดขายกลุ่มรถปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อ และ 5,795 คัน เพิ่มขึ้น 36.7% เป็นอันดับที่สองของยอดขายกลุ่มรถปิกอัพขับเคลื่อนสองล้อ

    ติดอันดับที่สามกลุ่มรุ่นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของออสเตรเลียประจำปี 2023 และอันดับที่สามกลุ่มรถปิกอัพที่ขายดีที่สุดเช่นกันตามหลัง Ford Ranger และ Toyota Hilux นอกจากนี้รถเอสยูวี 7 ที่นั่ง ISUZU MU-X (เมืองไทยเรียกว่า PPV) ทำยอดขายได้ 14,139 คัน เพิ่มขึ้น 28.7% ตามหลัง Toyota Land Cruiser Prado และ Ford Everest จากตัวเลขยอดขายสี่หมื่นกว่าคัน

    ISUZU

    นับเป็นปีทองของ ISUZU UTE กว่าจะประสบความสำเร็จและผ่านอุปสรรคมามากมายไม่ใช่เรื่องง่ายจากปัญหาหลายประการของการส่งรถจากไทยมายังออสเตรเลียด้วยทางเรือและด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าผสมกับการทำงานอย่างหนักของพวกเราส่งผลให้การส่งมอบรถถึงมือลูกค้าทันกำหนดด้วยปริมาณสต็อกรถที่เพียงพอต่อการจำหน่ายของตัวแทนในแต่ละพื้นที่ส่งผลให้ยอดขายดีขึ้น

    จากความโดดเด่นของรถทั้งสองรุ่นจนได้รับการยอมรับจากเหล่าประชาคมอีซูซุออสซี่ว่าเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดที่จำหน่ายในปัจจุบันตลอด 15 ปีของการดำเนินธุรกิจมีประชากร ISUZU D-MAX และ ISUZU MU-X วิ่งบนท้องถนนออสเตรเลียมากถึง 311,641 คันแบ่งเป็น D-MAX 225,145 คันและ MU-X 86,496 คัน และในปี 2024 นี้จะทำให้ดียิ่งขึ้นจากคำกล่าวของ Junta Matsui กรรมการผู้จัดการ ISUZU UTE

    สำหรับรถใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของค่ายประเดิมด้วยปรับครั้งใหญ่ ISUZU D-MAX ปรับแบบเดียวกับไทยดีไซน์ภายนอกใหม่หมดสะกดทุกสายตา ตั้งแต่ฝากระโปรงจดกันชนหน้า กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวซ่อนรูป 2 ชั้น ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่ รับกับไฟหน้า Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน

    ISUZU

    ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เป็นหนึ่งเดียวกับกระจังหน้ามีช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมลายรังผึ้งพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า LED ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED ​กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว 6 ก้านคู่ ปัดเงา และสีเงิน ดีไซน์แบบ Turbine Spiral พร้อมยาง 265/60 R18 ส่วนล้อและยางขนาดอื่นยังคงเดิมทั้งล้ออัลลอยหกก้านลาย Aeroscrew และกระทะล้อสีเงิน พร้อมยาง 255/65R17 แบบ All-Terrain

    รุ่น X-Terrain 4×4 หรือ V-Cross 4×4 เวอร์ชันไทยสะท้อนเอกลักษณ์แห่งพรีเมียมสปอร์ตออฟโรดตั้งแต่กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สีเทาดำและ Black Chrome การ์ดเสริมกันชนหน้าออกแบบใหม่เรียบเนียนเข้ากับกันชนหน้า ล้ออัลลอย 6 ก้านขนาด 18 นิ้ว สีดำด้าน Matte Black ดีไซน์แบบ Rugged & Wild เท่ แกร่ง ดุดัน คิ้วขอบล้อ Fender Lip ดีไซน์ใหม่กลมกลืนกับลายล้อ ครบครันความเข้มอย่างเต็มรูปแบบด้วยชุดแต่งรอบคันทั้งกระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง แบบสีดำด้านไลเนอร์ปูกระบะ สปอร์ตบาร์ออกแบบพิเศษ และ คิ้วตกแต่งกันชนท้ายสีดำซ้าย-ขวา

    ISUZUภายในยกระดับความสะดวกสบายสไตล์พรีเมียมโดดเด่นด้วย “Miura” Design หรูหรามีมิติ แผงคอนโซลหน้า ออกแบบใหม่เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายตามหลัก Usability Design สร้างประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง ชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอ​ขนาดใหญ่​ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน พร้อมระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ขนาด 8 กับ 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง

    เบาะไฟฟ้าคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง มีปุ่มดันหลังด้วยไฟฟ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศปุ่มหมุนแบบ Full Mode Control พร้อมทิศทางลม 5 ตำแหน่งรวมตำแหน่งไล่ฝ้ากระจกหน้า ทั้งแบบหมุนและอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ระบบเสียงรอบทิศทางตั้งแต่ 4 ลำโพง 6 ลำโพง และสูงสุด 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร

    ขุมพลังเดิมทั้งดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo รุ่น 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที และดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGS ขนาด 1.9 ลิตร รุ่น RZ4E-TC  ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic และ Paddle Shift 

    เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ IDAS (ISUZU’s Intelligent Driver Assistance System) เพิ่มระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake)

    ISUZUนอกนั้นคงเดิมทั้งระบบอ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist) ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter) แจ้งเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ AA (Attention Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสภาวะฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)

    ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) เตือนเมื่อออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go ตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในกรณีเผลอเหยียบคันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ MAM (Mis Acceleration Mitigation) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Auto High Beams) ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist)

    ISUZU

    พร้อมออปชันความปลอดภัยพื้นฐานทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ควบคุมการทรงตัว ESC  ป้องการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)

    สัญญาณเตือนการจอด Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน ตัดการทำงานของ BSM และ RCTA แบบอัตโนมัติในกรณีลากจูง ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน และตรวจวัดลมยาง TPMS

    ที่มา Carexpert และ Carsales

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts