More

    Mercedes-Benz GLC Coupé สายลุยทรงคูเป้ขายไทย 4.34 ล้านบาท

    เปิดตัวแล้วที่งาน Bangkok Motor Show 2024 สำหรับ Mercedes-Benz GLC Coupé เจนที่ 2 อย่างเป็นทางการและยังเป็นรถประกอบไทย

    Mercedes-Benzสำหรบรุ่นที่ขายไทยนั้นเป็น Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic พื้นฐานจากรุ่น GLC (X254) มาตัดส่วนครึ่งหลังออกไปต่อเติมด้วยหลังคารถที่ลาดลงและสปอร์ตกว่าเจนที่แล้ว

    ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Line ติดตั้งไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT พร้อม Adaptive Highbeam Assist ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร กระจังหน้า diamond radiator grille ประกอบด้วยเส้นเดี่ยวแนวนอน และ ตราสัญลักษณ์ของ Mercedes-Benz ตรงกลาง กันชนหน้าออกแบบใหม่ ด้านบนเพิ่มหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า

    ไฟท้าย LED รวมถึงดีไซน์ด้านท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยโลโก้ดาวสามแฉก ออกแบบใหม่หมด รับกับกันชนหลังติดกรอบป้ายทะเบียน มีลิ้นสปอยเลอร์ในตัวแบบโครเมียมพร้อมท่อไอเสียคู่สองฝั่ง ส่วนช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง หน้า 255/45R20 และยางหลัง 285/40ZR20 ผสานการทำงานของ Air comfort suspension in rear

    ในรหัส C254 มาพร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานถึง 0.27 Cd ซึ่งต่ำกว่ารุ่น GLC ปกติเพียง 0.30 Cd แถมมีความยาวมากกว่ารุ่น GLC Coupe เจนที่แล้วถึง 31 มิลลิเมตร เป็น 4,769 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,920 มิลลิเมตร ความสูง 1,606 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,888 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,360 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 62 ลิตร

    Mercedes-Benzภายในเหมือนรุ่น GLC เอสยูวีท้ายตัดภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบสปอร์ตผสมความหรูแบบ AMG Interior Package ที่มอบ Mood & Tone สไตล์สปอร์ตแต่ยังคงความหรูหราด้วยเบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อม memory seat 3 ตำแหน่งระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support

    แผงคอนโซลกลางใช้วัสดุแบบ High-Gloss Black สีดำเงา และ Metal Structure trim คอนโซลหน้าและแผงประตูหุ้มหนัง ARTICO man-made ตกแต่งลวดลายแบบ Nappa พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันเจเนอเรชั่นที่ 5 ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 มีการดีไซน์พื้นที่บรรทุกสัมภาระใหม่แบบ Flat trunk floor ความจุสูงถึง 390-1,335 ลิตร

    ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ที่ทรงพลังด้วยลำโพง 15 ตำแหน่ง ไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบ Premium Ambient Lighting ปรับได้ 64 เฉดสี ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC พร้อมฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบ Wireless charging

    ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอีกหลายรายการที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน ผสานระบบการเชื่อมต่อและการสื่อสารที่เหนือระดับในยุคดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อโดยมีการดีไซน์การใช้งานในรูปแบบ Digital cockpit เพิ่มความลงตัวในการควบคุมระบบต่างๆ ภายในรถMercedes-Benz

    ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Instrument cluster ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอตรงกลางความละเอียดสูงขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมผ่านระบบสัมผัส ทำงานควบคู่กับ MBUX7 ที่สามารถเรียนรู้ผู้ใช้งานด้วยระบบ AI และปรับระบบการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงการประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างระบบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น

    ผสานการทำงานกับระบบ Mercedes me connect ในการเชื่อมต่อกับโลกของอินเทอร์เน็ตอย่างไร้ขีดจำกัด รองรับการสั่งงานด้วยเสียงถึง 27 ภาษา ทั้งยังปลอดภัยด้วยการเข้าใช้งาน User profile แบบ Fingerprint scanner ที่ใช้ลายนิ้วมือยืนยันผู้ใช้งานในตำแหน่งผู้ขับขี่ผ่านการเชื่อมข้อมูลใน Mercedes me PIN บนโทรศัพท์มือถือ

    ระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation แสดงผลแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ MBUX Augmented Reality ที่ผสานเทคโนโลยี AR แสดงภาพสัญลักษณ์การนำทางบน Navigation display ที่แสดงภาพถนนจริง ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการนำทางมากยิ่งขึ้น

    Mercedes-Benzขุมพลังที่จำหน่ายในไทยเป็นเบนซินเทอร์โบ รหัส M254 ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลัง 136 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร

    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-Ion) ขนาด 31.2 kWhเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากถึง 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าหากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) 10-80% รองรับการชาร์จด้วยกำลังสูงถึง 60 kW จะใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) 0-100% จะใช้เวลาราว 2.45 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยกำลังสูงถึง 11 kW ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC

    Mercedes-Benzสำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครันพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety อาทิ ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)

    แจ้งเตือนก่อนออกจากรถแบบ exit warning ช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ รักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ รักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร แจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)

    กล้องรอบคัน 360° ที่ให้การแสดงผลแบบ Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถ ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus) ปรับไฟหน้าตามองศาการเลี้ยวรถ (Cornering light)

    Mercedes-Benz

    เสริมความปลอดภัยขณะขับขี่ไปอีกขั้นด้วยระบบเตือนให้ขับอยู่ในเส้นทาง (Lane Tracking Package) นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์การขับขี่แบบ Off-Road ด้วยการติดตั้ง Off-Road Engineering Package ที่มีการเสริมเหล็กใต้ท้องรถแบบ Underbody protection พร้อมกล้องรอบคัน 360° ที่ให้การแสดงผลใหม่แบบ Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพจริงที่บริเวณพื้นด้านหน้ารถและใต้ท้องรถในขณะขับขี่ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยที่มีการติดตั้งมาอย่างเต็มระบบ

    มีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีน้ำเงิน (Nautic Blue) สีเทา (Graphite Grey) สีเงิน (Mojave Silver) สีเงิน (High-tech Silver) และสีดำ (Obsidian Black) ในราคา 4,340,000 บาท

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts