ในที่สุด MG ในเครือ SAIC Motor เปิดตัวโรสเตอร์เปิดประทุนพลังไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายอย่างเป็นทางการที่งาน Shanghai Auto Show 2023
ภายใต้ชื่อ MG Cyberster แถมเป็นรถสปอร์ตอีวีสมรรถนะสูงที่ MG เคยทำมาและเป็นรุ่นแรกของค่ายที่หวนกลับมาทำตลาดรถกลุ่มนี้อีกครั้งหลังการจากไปของ MG TF และตั้งใจจะบุกตลาดโลกอย่างเต็มรูปแบบหน้าตานั้นได้ MGB Roadster เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์ หล่อด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Laser Belt กระจังหน้าเรียวยาวพร้อมตรา MG ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ล้ออัลลอยลาย Hacker Blade คาดว่าจะเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/45 R19 และยางหลัง275/40 R19 หรือ 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40 R20 และยางหลัง 275/35 R20
ด้านท้ายแบบ Kammback ชุดไฟท้าย LED Red Wing ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนสุดล้ำ ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร สปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันลงตัวด้วยกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำ และประตูรถออกแบบมาเปิดแบบปีกนกหรือ Scissor Doors โดยตัวรถมาในแบบโรสเตอร์เปิดประทุนที่มีความยาว 4,535 มม. ความกว้าง 1,913 มม. ความสูง 1,329 มม. ระยะฐานล้อ 2,690 มม. และน้ำหนัก 2,075 และ 2,210 กก.
ภายในปรับดีไซน์ให้ใช้งานง่ายจับสะดวกตามสไตล์แบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกันแผงคอนโซลหน้ามีแผงจอแสดงดิจิทัลขนาดใหญ่ LCD เป็นทั้งมาตรวัดและจอสัมผัสในตัว พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสไตล์ครึ่งวง หรือ Yoke-Style Steering พร้อมปุ่มโหมดการขับขี่ Super Sport สีแดงไว้ด้วย คอนโซลกลางประดับด้วยแผงควบคุมต่างๆรวมถึงคันเกียร์และที่วางแก้วน้ำและเบาะนั่งสปอร์ตแบบ Zero-gravity Seat โดยรวมของภายในจะคล้ายกับรถมัสเซิลคาร์แดนมะกันอย่าง Chevrolet Corvette C8
ขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวมมากสุด 544 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าให้กำลัง 204 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าหลังให้กำลัง 340 แรงม้า สามารถวิ่งไกลสุด 800 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที
และยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลังรวมมากสุด 314 แรงม้า โดยให้ความเร็วสูงสุด 193-200 กม./ชม. แต่ยังไม่เผยข้อมูลความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน lithium-ion battery ว่ามีความจุเท่าไหร่พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัปเกรดแบบ Active-upgrading และ Smart Cockpit และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3
MG Cyberster จ่อขายช่วงต้นปีหน้าทั้งในอังกฤษและกลุ่มประเทศโซนยุโรป ส่วนตลาดบ้านเกิดเมืองจีนและไทยคาดว่าเร็วๆนี้ได้พบกัน
ที่มา Motor 1