เปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกอย่างเป็นทางการสำหรับ TESLA Model 3 Performance รุ่นปรับโฉมโดยประเทศไทยเปิดราคาจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รุ่นท็อปสุดปรับโฉม สิ่งที่เปลี่ยนไปนั่นคือกันชนหน้าทรงเข้มดุดันกว่ารุ่นอื่นๆ ล้ออัลลอยลายใหม่ Wrap ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Pirelli P Zero ขนาด 235/35R20 ด้านหลังเป็นสปอยเลอร์ขนาดเล็กดีไซน์บิ้วอินกับฝาท้ายและลิ้นสปอยเลอร์หลังออกแบบใหม่ในชุดกันชนหนลัง และป้ายชื่อ Ludicrous ท้ายรถ
ภายนอก Exterior
บนพื้นฐานออปชันเดิมๆเช่นไฟหน้า Full LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ดีไซน์ใหม่ออกแบบอย่างลงตัวรับกับกันชนหน้าดีไซน์ช่องระบายอากาศยังอยู่ในตำแหน่งเดิมเน้นความเรียบง่าย รับกับฝากระโปรหน้าโค้งมน เส้นสายด้านข้างเรียบง่ายและหรูหรา หลังคาท้ายลาดในสไตล์รถ Fastback มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบเนียนกับตัวถังรถด้านท้ายออกแบบใหม่ทั้งกะปิตั้งแต่ไฟท้าย LED รูปตัว C ดีไซน์ใหม่รับกับฝาท้ายใหม่และกันชนหลัง พร้อมพื้นที่สัมภาระด้านหน้า 88 ลิตร มิติตัวรถปรับเล็กน้อยตั้งแต่
- ความยาว 4,720 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,933 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,431 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,875 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 128 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,851 กิโลกรัม
ภายใน Interior
ปรับออปชันเช่นเบาะนั่งทรงสปอร์ตใหม่ ชุดแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่เรียบง่ายกว่าเดิมพร้อมชุดแต่งแผงคอนโซลหน้านแนวนอน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านติดตราโลโก้ตัวอักษร TESLA แทนโลโก้ตัวทีควบคุมแบบ Joy Stick 2 ปุ่มช่วยลดความยุ่งยากในการขับขี่ ผู้ขับขี่สามารถคลิกเพียงครั้งเดียวเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญต่างๆ เช่น สัญญาณไฟเลี้ยวและไฟสูง นอกจากนี้ ตัวควบคุมทางฝั่งด้านซ้ายยังสามารถปรับโหมดการเร่งความเร็ว ความสว่างหน้าจอ และการตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย
จอสัมผัสขนาดใหญ่ออกแบบใหม่ใหญ่ขึ้น 15.4 นิ้วจากเดิม 15 นิ้ว ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของตัวรถทั้งคันไว้ในจอเดียวเป็นทั้งระบบความบันเทิง การนำทาง และเครื่องปรับอากาศ รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ Over-the-air ผ่านทางดาวเทียมจะคอยอัปเกรดฟังก์ชันคุณสมบัติ การทำงานต่างๆ และประสิทธิภาพใหม่ตลอดเวลา เพิ่มจอหลังขนาด 8 นิ้วรองรับความสบายของผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมโหมดสนามแข่ง V3 ปรับเทียบใหม่หมดสำหรับระบบส่งกำลังและระบบกันสะเทือนแบบปรับได้เพื่อให้คุณควบคุมรถได้ตามใจนึกมากขึ้น
เพิ่มไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร หรือ Ambient Light เบาะนั่งหนังแท้แบบเจาะรูพร้อมเป่าอุ่นเบาะในตัว และกระจกเป็นแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass หนา 2 ชั้น พร้อมลำโพงคุณภาพ 17 จุด รวมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟายเออร์คู่ เพื่อไดนามิกของเสียงภายในที่เทียบได้กับสตูดิโอบันทึกเสียง แท่นชาร์จมือถือไร้สาย หลังคาแก้วแบบพาโนรามิกที่กว้างช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะป้องกันรังสียูวี แป้นเหยียบแบบอะลูมิเนียมอัลลอยเพื่อเพิ่มความลงตัว และพื้นที่เก็บสัมภาระ 682 ลิตร
สมรรถนะ Performance
สำหรับสเปกไทยให้กำลัง 460 แรงม้า แรงบิด 741 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ NMC 79 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 528 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP การเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 3.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 262 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้านการชาร์จมีสองแบบชาร์จแบบ DC กระแสตรง รองรับการชาร์จสูงสุด 250 kW ได้นานถึง 15 นาทีเพิ่มระยะทางวิ่งได้สูงสุด 282 กิโลเมตร ส่วนชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW 8.15 ชั่วโมง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1-speed fixed gear รวมถึงพัฒนาช่วงล่างใหม่ และคาลิเปอร์เบรกเป็นสีแดง
ความปลอดภัย Safety
เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดออกแบบตัวถังที่มีมาตรฐานสูงและโครงสร้างประตูที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เสริมด้วยถุงลมนิรภัยด้านข้างที่นั่งแบบใหม่ที่ช่วยลดการบาดเจ็บของทั้งคนขับและผู้โดยสารหากมีการชน ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีการปรับปรุงเรื่องการลดเสียงรบกวนด้วยการซีลแบบใหม่ รวมถึงกระจกกันเสียงแบบ 360 องศาถึงสองชั้น ช่วยเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสาร และสามารถลดเสียงรบกวนจากถนนสู่ภายในได้มากถึง 31% ในช่วง 50-1000 Hz
TESLA Model 3 Performance จำหน่ายในราคา 2,149,000 บาท พร้อมการรับประกันรถยนต์พื้นฐาน 4 ปี หรือ 80,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รับประกันแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน 8 ปี หรือ 192,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อนมีสีภายนอกรถให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่
- สีแดง Ultra Red
- สีเทา Stealth Grey
- สีดำ Solid Black
- สีน้ำเงิน Deep Blue Metallic
- สีขาวมุก Pearl White