นับเป็นเรื่องอื้อฉาวสุดของวงการรถยนต์เมื่อ DAIHATSU ในเครือ Toyota ออกมายอมารับว่าได้ปลอมแปลงข้อมูลการทดสอบความปลอดภัยมากว่า 30 ปี
ล่าสุดสื่อ CNN อเมริการายงานว่า DAIHATSU ส่งหยุดการประกอบรถที่โรงงานประกอบสี่แห่งที่ญี่ปุ่นรวมถึงโรงงานที่สำนักงานใหญ่เมือง โอซาก้า เป็นการชั่วคราวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า ส่งผลกระทบต่อพนักงานทั้งหมด 9,000 คน และอาจสูญเสียรายได้กว่า 1,000,000,000 Yen หรือราว 243,000,000 บาท
นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากที่ค่ายรถเล็กในเครือสามห่วงผจญกับเรื่องอื้อฉาวและส่งผลถึง Toyota ด้วยเพราะรถยนต์ที่ขายนั้นให้ทาง DAIHATSU เป็นเจ้าบ้านในการพัฒนาและจากเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม คณะกรรมการอิสระจากบุคคลภายนอกพบหลักฐานการดัดแปลงการทดสอบความปลอดภัยของรถยนต์ทั้ง DAIHATSU Toyota และแบรนด์อื่นๆ มากถึง 64 รุ่น ทำให้ตัดสินใจหยุดการผลิต การขาย และการส่งมอบทั้งในญี่ปุ่นและหลายประเทศที่เป็นฐานผลิตเป็นการชั่วคราว
นับตั้งแต่เรื่องการกรีดรอยบากบนแผงประตูรถเพื่อหวังผลความปลอดภัยของ Toyota Yaris ATIV เมื่อช่วงเดือนเมษายนจนต้องยุติขายและประธานใหญ่ Toyota บินมาขอโทษที่เมืองไทย หนึ่งเดือนถัดมา Toyota RAIZE และ Daihatsu ROCKY เจอปัญหาด้วยการใส่ข้อมูลการทดสอบด้านข้างแบบหมกเม็ดใส่ข้อมูลผลฝั่งคนนั่งและคนขับเป็นข้อมูลเดียวกันจนต้องหยุดขายชั่วคราวและล่าสุดจากกรณีของ Toyota Veloz หนึ่งใน 64 รุ่น ปรับแต่งชิ้นส่วนอย่างไม่เหมาะสมเพื่อให้ได้ใบรับรองการผ่านทดสอบความปลอดภัย
รวมถึงคดีเก่าช่วงปี 1989 พอกพูนขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่ปี 2014 รวมกรณีดังกล่าวส่งผลให้หุ้น Toyota ญี่ปุ่นร่วง 4% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังข่าวตั้งแต่นั้นมาหุ้นก็ขาดทุนบางส่วนและเพื่อเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงทาง Toyota มีความจำเป็นต้องจัดการสังคายนาค่าย DAIHATSU ขั้นเบื่องต้นด้วยการตรวจสอบการจัดการ การดำเนินงาน และปรับโครงสร้างของหน่วยอย่างโปร่งใส สะอาด แม้จะทำให้รากฐานของบริษัท Toyota สั่นคลอนไปแต่การสังคายนาครั้งนี้มีส่วนสำคัญทำให้ DAIHATSU พ้นมลทินต่อเรื่องอื้อฉาวแม้จะไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน
ที่มา CNN และ finance.yahoo.com
