More

    ผ้าเบรกรถยนต์ มีทั้งหมดกี่ชนิด พร้อมข้อดีและข้อเสีย

    ผ้าเบรกรถยนต์ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่คอยควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยนต์ซึ่งผู้ขับขี่และเจ้าของรถต้องใส่ใจดูแลตรวจสอบให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ วันนี้มาดูคุณสมบัติของผ้าเบรกรถยนต์กันว่า มีกี่ชนิด ใช้วัสดุอะไรกันบ้าง แบบไหนดีหรือไม่ดี

    ในกลุ่มโรงงานผลิตจะได้แบ่งประเภทของ ผ้าเบรกรถยนต์ เป็น 3 ประเภท ดังนี้

    1.Organic type (ประเภทอินทรีย์)

      • ASBESTOS (เนื้อใยหิน) ผ้าเบรกรถยนต์ ยุคเก่าที่ใช้สารใยหินเป็นองค์ประกอบหลัก ปัจจุบันผู้ผลิตผ้าเบรกระดับสากลของโลกได้ยกเลิกการผลิตไปแล้ว ตามข้อบังคับทางกฎหมาย สิ่งแวดล้อมและมาตรฐานของอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากมีสารก่อมะเร็ง

    ข้อดี

          • ราคาถูก
          • ทำงานได้ดีตั้งแต่ขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิไม่สูง จนกระทั่งสูง
          • ระบายความร้อนได้ระดับปานกลาง
          • เนื้อผ้าเบรกจะหมดช้า
          • ระยะเบรกสั้นลง
          • เหมาะกับการขับขี่ทั่วไป จนถึงการเบรกที่รุนแรง

    ข้อเสีย

          • ฝุ่นเยอะ แต่จะเป็นฝุ่นสีขาว
          • มีเสียง
          • กินจานเบรก
          • มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจต่อสิ่งมีชีวิตอย่างมาก
      • NON ASBESTOS (เนื้อไม่ใช่ใยหิน) โดยในกลุ่มนี้จะประกอบด้วยเนื้อผ้าเบรก 3 ชนิด   

    1.NAO (เนื้ออินทรีย์ + โลหะ 0-9%) เป็นกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบประกอบด้วยเส้นใยสังเคราะห์ต่างๆ ได้แก่ เส้นใยเคฟลาร์, เส้นใยเซรามิก, ยาง, แก้ว ฯลฯ เชื่อมต่อกับเรซิน อาจจะมีใยเหล็ก น้อยกว่า 10% ผสมอยู่ด้วย ซึ่งเนื้อผ้าเบรกชนิดนี้ เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในผ้าเบรกแท้ OEM (ใช้งานได้ดีที่อุณหภูมิน้อยกว่า 200 ℃ เบรกเฟดหรือจางลงที่อุณหภูมิประมาณ 300-400 ℃)

    ข้อดี

          • ราคาถูก
          • ฝุ่นน้อย
          • ไม่มีเสียง
          • กินจานเบรกน้อยมาก
          • เหมาะกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถแท็กซี่ ที่ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง

    ข้อเสีย

          • ทำงานได้ดีเฉพาะขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิไม่สูง
          • ระบายความร้อนได้น้อย
          • เนื้อผ้าเบรกจะหมดเร็ว
          • ระยะเบรกยาว

    2.LOW-METALLIC (เนื้ออินทรีย์ + โลหะ 10-49%) เป็นกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบประกอบด้วยเส้นใยสังเคราะห์ NAO, ใยเหล็ก ได้แก่ เหล็กกล้า, เหล็ก, ทองแดง และโลหะชนิดอื่นๆ 10-49% รวมเข้ากับน้ำมันหล่อลื่นกราไฟท์แล้วเติมสารเพิ่มแรงเสียด

    ข้อดี

          • ราคาปานกลาง
          • ทำงานได้ดีตั้งแต่ขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิไม่สูง จนกระทั่งสูง
          • ระบายความร้อนได้ดีกว่าแบบ NAO
          • เนื้อผ้าเบรกจะหมดช้ากว่าแบบ NAO
          • ระยะเบรกสั้นลงกว่าแบบ NAO
          • เหมาะกับรถยุโรปที่ใช้ความเร็วและต้องการความนุ่มนวลขณะเหยียบเบรก, รถที่ใช้งานบรรทุกของหนักๆ ปิ๊กอัพ (PICK-UP), เอสยูวี (SUV)

    ข้อเสีย

          • ฝุ่นเยอะ
          • มีเสียง
          • กินจานเบรกกว่าแบบ NAO

    3.SEMI-METALLIC (เนื้ออินทรีย์ + โลหะ 50% ขึ้นไป) เป็นกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบประกอบด้วยเส้นใยสังเคราะห์ NAO, ใยเหล็ก ได้แก่ เหล็กกล้า, เหล็ก, ทองแดง และโลหะชนิดอื่นๆ 50%ขึ้นไป รวมเข้ากับน้ำมันหล่อลื่นกราไฟท์แล้วเติมสารเพิ่มแรงเสียด (ใช้งานได้ไม่ดีที่อุณหภูมิน้อยกว่า 100 ℃, ใช้งานได้ดีที่อุณหภูมิมากกว่า 200 ℃ เบรกเฟดหรือจางลงที่อุณหภูมิประมาณ 450-700 ℃)

    ข้อดี

          • ราคาปานกลาง
          • ทำงานได้ดีตั้งแต่ขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิไม่สูง จนกระทั่งสูง
          • ระบายความร้อนได้ดีกว่าแบบ LOW-METALLIC
          • เนื้อผ้าเบรกจะหมดช้ากว่าแบบ LOW-METALLIC
          • ระยะเบรกสั้นลงกว่าแบบ LOW-METALLIC
          • เหมาะกับรถบรรทุก (Truck), รถบัส (Bus), รถตู้ (Van), รถขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD), รถที่ขับขึ้นลงภูเขาเป็นประจำ

    ข้อเสีย

          • ฝุ่นเยอะ
          • มีเสียง
          • กินจานเบรกกว่าแบบ LOW-METALLIC

    2. Metallic type (ประเภทโลหะ)

      • SINTERED (เนื้อผงโลหะ) เป็นกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบประกอบด้วยผงเหล็กละเอียดมาขึ้นรูปด้วยเทคนิคการซินเทอร์ริง (Sinter) ซึ่งเป็นการอัดขึ้นรูป ที่แรงดันสูง และ อุณหภูมิสูงปานกลาง

    ข้อดี

          • ทำงานได้ดีตั้งแต่ขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิไม่สูง จนกระทั่งสูงมาก
          • ระบายความร้อนได้ดีกว่าแบบ SEMI-METALLIC
          • เนื้อผ้าเบรกจะหมดช้ากว่าแบบ SEMI-METALLIC
          • ระยะเบรกสั้นลงกว่าแบบ SEMI-METALLIC
          • เหมาะกับการขับขี่ที่ต้องการให้หยุดทันที รถที่ใช้แข่งขัน, รถที่ใช้ความเร็วสูง

    ข้อเสีย

          • ราคาแพง
          • ฝุ่นเยอะ
          • มีเสียง
          • กินจานเบรกกว่าแบบ SEMI-METALLIC

    3. Inorganic type (ประเภทอนินทรีย์)

      • PRE-CERAMIC / CARBON (เนื้อพรี-เซรามิก / เนื้อคาร์บอน) เป็นกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบประกอบด้วยเซรามิกที่คล้ายกับเซรามิกที่ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผา แต่มีความหนาแน่นและทนทานกว่ามาก ผสมกับใยเหล็ก ได้แก่ ทองแดง

    ข้อดี

          • ทำงานได้ดีตั้งแต่ขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิไม่สูง จนกระทั่งสูงมาก
          • เนื้อผ้าเบรกจะหมดช้า
          • ระยะเบรกสั้นลง
          • ฝุ่นน้อย
          • ไม่มีเสียง
          • ไม่กินจานเบรก
          • เหมาะกับเครื่องบิน, รถไฟความเร็วสูง ที่ไม่ได้มีการใช้เบรกบ่อยๆ

    ข้อเสีย

          • ราคาแพงมาก
          • ทำงานได้ไม่ดีขณะที่ผ้าเบรกอุณหภูมิต่ำ เช่น ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นมาก
          • ระบายความร้อนได้ไม่ดี

    คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย ของเนื้อผ้าเบรกแต่ละชนิดในนี้ป็นเพียงข้อมูลพื้นฐาน ที่ช่วยในการตัดสินใจบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากในส่วนผสมของเนื้อผ้าเบรกแต่ละยี่ห้อที่มีขายตามท้องตลาด จะมีความแตกต่างกันออกไปในเนื้อผ้าเบรกชนิดเดียวกัน ซึ่งอาจจะเป็นความลับทางธุรกิจของแต่ละแบรนด์


    CR : BJPThailand , Asiacare ,
            

        

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts