นอกจากจะมีรถใหม่อย่าง WULING BINGUO EV เปิดเดือนพฤษภาคมแล้วช่วงสิ้นปี 2024 จะเสริมทัพอีกรุ่นจากแบรนด์ WULING นั่นคือ WULING Cloud EV
WULING Cloud EV เปิดตัวเวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่งาน IIMS 2024 หรืองาน Indonesia International Motor Show ด้วยรูปร่างหน้าตาคล้ายกับต้นฉบับ BAOJUN Cloud EV เปลี่ยนตรามาเป็นแบรนด์ WULING คล้ายๆกับรุ่น AIR EV ตั้งแต่ แถบไฟ LED DRL แนวยาว ติดตั้งกล้องมองภาพด้านหน้าใต้โลโก้ มีไฟหน้า Projector แบบ LED ทรงหกเหลี่ยม พร้อมแถบแนวนอนโครเมียมในชุดโคมไฟหน้า
ด้านข้างสะท้อนรูปลักษณ์แห่งความทันสมัยด้วยหลังคารถที่ลาดลง กระจกตั้งแต่เสาเอไปจนถึงเสาซีขนาดใหญ่ด้วยสีดำเข้ม ล้อมกรอบโครเมียม กระจกมองข้างทรงสปูนติดไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถ ด้านท้ายมาพร้อมแถบไฟท้าย LED ดีไซน์เรียบง่ายแนวยาวเชื่อมไฟท้าย LED ซ้าย-ขวา
กันชนหลังดีไซน์ลงตัวพร้อมแถบสีเงินใต้ป้ายทะเบียนและล้อและยางมีตั้งแต่กระทะล้อพร้อมฝาครอบล้อแบบเต็มขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R17และล้ออัลลอยห้าก้านทูโทนขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R18
ด้วยตัวรถมาในร่างเก๋งห้าประตูมีขนาดใหญ่โตใกล้เคียงกับคู่แข่ง BYD Dolphin ตั้งแต่ความยาว 4,295 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ความสูง 1,652 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,495-1,615 กิโลกรัม
ภายในล้ำสมัยกว่าเพื่อนร่วมค่ายสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นรถหรูยุมากขึ้นใหญ่ พร้อมการตกแต่งโทนดำเข้ม ผสมสีน้ำตาลอ่อนในชุดแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัส คิ้วขอบประตูกับลำโพงในชุดแผงประตูหุ้มหนัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังสองก้านทรงท้ายตัด พร้อมที่ท้าวแขนในชุดคอนโซลเกียร์หุ้มหนัง จอมาตรวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 8.8 นิ้ว จอสัมผัสควบคุมระบบความบันเทิงและควบคุมตัวรถขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วแบบลอยตัว
ชุดเบาะนั่งหุ้มวัสดุกึ่งหน้งแท้ลายเดียวกับโซฟาชั้นดี Italian Bubble Sofa Style เด่นด้วยเบาะนั่งด้านหน้าปรับเอนได้ถึง 135 องศา และเบาะหลังพับได้มีพื้นที่มากถึง 1,707 ลิตรแต่ถ้าไม่พับมีพื้นที่ 382 ลิตร เลยทีเดียว สร้างความอบอุ่นสบายตาด้วยไฟสร้างบรรยากาศภายในมากถึง 258 สี และไฟภายในแบบ LED ให้ความสว่างในยามค่ำคืนหรืออยู่ที่มืด
ขุมพลังเป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุแบตเตอรี่ lithium-iron phosphate 50.8 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร ให้ระยะทางไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ 460 และ 505 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จสองรูปแบบเริ่มที่กระแสสลับ AC กำลังชาร์จสูงสุด 8.8 kW สามารถชาร์จ 20-100% ได้ 8 ชั่วโมงและชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ภายในเวลา 30 นาที
โหมดการขับขี่เลือกได้ถึงสี่โหมดทั้ง ECO, ECO +, Sport, และ Normal และเกียร์อัตโนมัติ Single Reduction Gear ความปลอดภัยทั้งที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold ควบคุมการทรงตัว ESC ตรวจวัดลมยาง TPMS ดิสก์เบรกสี่ล้อ ISOFIX เสริมที่นั่งเด็ก และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
งานนี้คู่แข่งร่วมชาติเตรียมสะเทือน เพราะคันนี้ประกอบที่อินโดนีเซียเตรียมขายจริงเร็วๆนี้และเมืองไทยพร้อมเผยตัวจริงสิ้นปี 2024 และเตรียมส่งมอบตั้งแต่ต้นปี 2025