ออสเตรเลียประกาศเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ KIA Carnival รุ่นปรับโฉมที่ตครั้งนี้มาครบทั้งสันดาปล้วนและฟูลไฮบริดเทอร์โบ
หน้าตาปรับใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้ายนำแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Sorento ตั้งแต่ไฟหน้ารูปตัว T ประกอบด้วยไฟหน้า LED แนวตั้งพร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Daytime แบบ LED ลากยาวมาจากขอบไฟด้านข้างมาถึงด้านหน้าทั้งบนและล่าง กระจังหน้าลายเสือหรือ Tiger Face แบบขอบสีเงินพร้อมตราโลโก้ KIA ย้ายไปอยู่ขอบฝากระโปรง รับกับกันชนหน้ารูปตัว H พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED แทรกในช่องระบายอากาศส่วนล่างใต้ป้ายทะเบียนเสริมคิ้วกันชนหน้าสีเงินสไตล์เด่นและช่องระบายอากาศแนวตั้งสองฝั่ง
กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยลายใหม่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60R18 และขนาดใหญ่สีทูโทน 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55 R19 ไฟท้าย LED ออกแบบใหม่ทรงตัวทีเส้นแนวนอนกับตำแหน่งป้ายทะเบียนใหม่ พร้อมกันชนหลังใหม่ทูโทนเสริมคิ้วสีเงินและตัดที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
ภายในอัปเกรดใหม่เห็นได้ชัดที่คอนโซลกลางได้รับการปรับปรุงให้ดูเรียบง่ายขึ้นโดยการลดจำนวนปุ่มการใช้งานฟังก์ชันต่างๆลง มีแผงสัมผัสแบบเดียวกับระบบควบคุมสภาพอากาศเหมือนกับ KIA รุ่นอื่นๆ เช่น Sportage, Niro และ Sorento เน้นเส้นสายสีเหลืองบนแผงหน้าปัดและการ์ดประตูหน้า ปรับเปลี่ยนกุญแจเป็นแบบดิจิทัล
รองรับการอัพเดตแบบ over-the-air ที่ดีขึ้น จอคู่ขนาด 12.3 นิ้วทั้งมาตรวัดดิจิทัลดีไซน์ใหม่และจอสัมผัสความบันเทิงอัปเกรดระบบปฏิบัติการ ccNC ที่ Hyundai-Kia พัฒนาเอง ในชุดคอนโซลหน้า มีจอแสดงผลเหนือแผงคอนโซลหน้า HUD ขนาด 11 นิ้วและเซนเซอร์ลายนิ้วมือ เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold ระบบเสียงจาก BOSE® รอบคันถึง 12 ตำแหน่ง จุดชาร์จ USB ทั้งหมด 6 จุด Mood Light ที่แผงประตูด้านหน้า ซันรูฟไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคุมแบบสัมผัสเย็นทั้งคัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์หรูหรา
องค์ประกอบเด่นที่ยังครองใจครอบครัวนั่นคือห้องโดยสาร 8 ที่นั่งเบาะนั่งดีไซน์แบบ ‘ergo Motion’ เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถปรับพับเรียบได้สนิท Pop-up Sinking Seat เพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่มากถึง 2,905 ลิตร ประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door ประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate พร้อมระบบ Away-Auto Close สามารถเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อยืนอยู่ใกล้ตัวรถและปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเดินห่างออกจากตัวรถพร้อม One-Touch Remote เพียงแค่กดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ประตูสไลด์ไฟฟ้าและประตูท้ายจะเปิดพร้อมกันโดยอัตโนมัติ
ขุมพลังทาง KIA ยังใช้เครื่องยนต์เดิมดีเซลเทอร์โบแปรผัน CRDI Smartsteam 2.2 ลิตร 201 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,750–2,750 รอบต่อนาที และเบนซิน Smartstream V6 GDI 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 294 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบต่อนาทีบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและโหมดแมนวลในรูปแบบเกียร์แบบหมุน Dial Type–Shift by Wire (SBW) และเกียร์แบบคันโยก
ส่วนขุมพลังใหม่ Hybrid ยกมาจากรุ่น Sorento ด้วยขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร Smartstream G T-GDI 180 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 265 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาทีจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 54 แรงม้าที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที แรงบิด 264 นิวตันเมตรที่ 0-1,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Active AWD พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 1.5 kWh ให้กำลังรวม 230 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร
พร้อมความปลอดภัยรอบคันติดตั้งระบบ Highway Driving Assist 2 ซึ่งให้ความช่วยเหลือในการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติ เทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือ DRIVE WiSE ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function (FCA-JT) ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ เมื่อมีรถยนต์ด้านหลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขณะที่กำลังถอยรถ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA) ช่วยจอดรถอัจฉริยะ Remote Smart Parking Assist (RSPA)
ป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist (SEA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Following Assist (LFA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist หรือ กล้องมองภาพจุดอับสายตาเมื่อผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายหรือขวา Blind-Spot View Monitor (BVM) กล้องมองภาพรอบคัน Surround View Monitor (SVM) เซนเซอร์ช่วยจอด PDW (Parking Distance Warning) ถุงลมนิรภัยรอบคันรวม 8 จุด ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ที่มาพร้อมกับเบรก (ABS) ป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) และช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC)
รุ่นปรับโฉมของ KIA Carnival เปิดขายออสเตรเลียมีทั้งหมด 11 รุ่นย่อย 5 เกรดความหรูทั้ง ทั้งรุ่น S, Sport, Sport+, GT-Line Lite, GT-Line เริ่มต้น $50,150- $76,210 เป็นราคารถไม่รวมค่า on-road ของออสเตรเลีย หรือราว 1,215,000-1,845,000 บาท
ที่มา Carexpert