More

    Subaru Legacy หยุดผลิตที่แดนมะกันปีหน้าเพราะลูกค้าหันไปนิยมเอสยูวี

    นับตั้งแต่จำหน่ายในปี 1989 ได้รับการตอบรับอย่างดีกลายเป็นรถท้าชก Toyota Camry Honda Accord Mazda 6 และ Hyundai Sonata อย่าง Subaru Legacy

    Subaruล่าสุดผู้จำหน่ายเป็นทางการอย่าง Subaru of America เตรียมยุติการผลิตและขาย Subaru Legacy ในช่วงต้นปี 2025 (ช่วงปลายเดือนมีนาคม-พฤษภาคม)และรุ่นสุดท้ายที่จะขายเป็นรุ่นปี 2025 ออกขายภายในช่วงต้นปีนี้ ในราคาเริ่มต้น $24,895 หรือราว 925,000 บาท

    เหตุผลที่ต้องยุตินั่นเนื่องด้วยข้อกำจัดการใช้งานของรถซีดานขนาดกลางทำให้ลูกค้าหันเหไปให้ความสนใจกับรถยนต์อเนกประสงค์ทั้ง เอสยูวี ครอสโอเวอร์ ความนิยมที่มีต่อ Legacy ลดลง แม้ยอดขายสะสมตั้งแต่เจนแรกทะลุ 1,300,000 คันในอเมริกา รวมถึงการเปลี่ยนผ่านที่เข้าสู่ยุครถไฟฟ้าล้วนทั้งการมาของรุ่น Solterra และอีวีรุ่นใหม่อีก 8 รุ่นภายในปี 2028

    Subaru Legacy ขายมาจนถึงเจเนอเรชันที่ 7 ตั้งแต่ปี 2020 ในรหัส BW และได้รับการปรับโฉมไปได้ไม่นานทั้งกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่พร้อมตราดาวลูกไก่ ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime LED รูปตัว C ในโคมเดียวกัน ชุดกันชนหน้าทรงสปอรฺตพร้อมกรอบไฟตัดหมอกหน้า LED รูปตัว G กระจกมองข้างดีไซน์ออกแบบติดขอบกระจก หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ

    ไฟท้าย LED พร้อมล้ออัลลอยเลือกได้ตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 245/50R17 และขนาดใหญ่ 18 นิ้วพร้อมยาง 225/50R18 และ 245/45R18

    suabruภายในมีระบบอินโฟเทนเมนท์ในชุดหน้าจอสัมผัสอัจฉริยะ LCD ขนาด 11.6 นิ้ว ความละเอียดสูงรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto ไร้สายทำให้การจัดการรถยนต์กับข้อมูลการขับขี่ เพลิดเพลินกับความบันเทิง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่​ MID​ แสดงข้อมูลได้มากขึ้นในชุดมาตรวัดเรืองแสงดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ปุ่มใหม่ ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงจะต้องหลงใหลระบบเสียงระดับพรีเมียมของชุดเครื่องเสียง Harman Kardon 11 จุด พร้อมซับวูฟเฟอร์ แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกทำจากอะลูมิเนียม เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold ที่ชาร์จมือถือไร้สาย และ SUBARU STARLINK สั่งการทำงานของฟังก์ชันต่างๆของรถผ่านสมาร์ตโฟน

    เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 12 ทิศทาง พร้อมดันหลังสำหรับคนขับและ 8 ทิศทางสำหรับคนนั่งหุ้มหนังแท้ Nappa ให้การการเดินทางไกลรื่นรมย์มากยิ่งขึ้น เบาะหลังพับได้แบบ 60/40

    เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ไดเรคอินเจคชันขนาด 2.5 ลิตร ในรหัส FB25DI สร้างกำลังสูง 185 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 239 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 9.6 วินาที และเบนซินเทอร์โบชาร์จรหัส  FA24F ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลัง 264 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที มาพร้อมแรงบิด 376 นิวตันเมตรและกราฟแรงบิดที่กว้างขึ้นด้วย ที่ 2,000–4,800 รอบต่อนาที

    ทั้งสองจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive แบบ Active Torque Split AWD s พร้อม X-Mode

    Subaruพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถคันนี้กับ Subaru EyeSight 4.0 รวบรวมความรู้ทางเทคนิคที่มีระบบจดจำภาพพร้อมกล้องสเตอริโอที่ให้ระยะการมองมุมกว้างขึ้นอีก 2 เท่า พร้อมทั้งพัฒนาระบบการทำงานเพื่อความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น ระบบบังคับเลี้ยวฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Steering บังคับรถให้อยู่กึ่งกลางถนนและบังคับพวงมาลัยตามรถด้านหน้า Lane Centering Control/ Preceeding Vehicle Adaptive Steering Control

    ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางแยก Pre-Collision Braking at Intersection บังคับพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Prevention Function แสดงการแจ้งเตือนสถานะความปลอดภัยบนกระจกหน้า EyeSight Assist Monitor ตรวจสอบผู้ขับ Driver Monitoring System (DMS)

    Suabru

    ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือลดความเสียหายซ้ำซ้อนหลังจากการปะทะ Post-Collision Brake Control ป้องกันการชนขณะถอยหลัง Reverse Automatic Braking ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด โดยประกอบที่โรงงาน Subaru of Indiana ในเมือง Lafayette รัฐ Indiana และส่งขายไปยัง 23 ประเทศ

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts