Porsche Taycan นั้นอยู่ในไลน์ผลิตมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งมันไม่ได้มีการอัพเดทมาอย่างยาวนาน แต่การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยรุ่นที่มาใหม่นี้จะมีพละกำลังมากขึ้น ทันสมัยขึ้น และประสิทธิภาพดีขึ้น
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพ Porsche ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ตระกูล Taycan ทุกรุ่นนั้นมีอัตราเร่งเร็วขึ้นกว่ารุ่นที่พวกมันมาแทนที่ โดยรุ่นพื้นฐานขับเคลื่อนล้อหลังได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด อัตราเร่งจากหยุดนิ่งถึง 96 km/h ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที ซึ่งมันเร็วขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 0.6 วินาที
สำหรับรุ่นที่ทำอัตราเร่ง 0-96 km/h เร็วที่สุด เป็นของ Taycan Turbo S ซึ่งเร็วขึ้นจากรุ่นเก่า 0.3 วินาที ไปอยู่ที่ 2.3 วินาที และไม่เพียงแต่ทำให้มันกลายเป็น Taycan ที่เร่งได้เร็วที่สุด มันยังกลายเป็นรุ่นผลิตจริงที่เร็วที่สุดเท่าที่ Porsche เคยผลิตมา
ไม่ต้องแปลกใจที่เห็น Taycan Turbo S เร่งได้เร็วเช่นนี้ นั่นสืบเนื่องมาจากการเพิ่มพละกำลังโดยรวม โดยรุ่นปี 2025 มีกำลังแตะถึงระดับ 939 hp (700 kW/952 PS) และการที่พละกำลังเพิ่มขึ้นนั้น Porsche กล่าวว่า พวกเขาได้ทำงานอย่างหนักในการปรับปรุงมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งทำให้มันส่งกำลังไปที่ล้อหลังได้มากกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 107 hp (80 kW/109 PS)
นอกจากนี้ หากคุณซื้อแพ็คเกจ ‘Sport Chrono’ คุณจะได้รับปุ่มกด ‘แซง’ ซึ่งจะทำให้ตัวรถมีพละกำลังเพิ่มขึ้น 94 hp (70 kW/95 PS) เป็นเวลา 10 วินาที
Porsche ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความเร็วทางตรงเท่านั้น Taycan ใหม่ทุกคันจะติดตั้งระบบกันสะเทือนโช้คลมปรับได้ และทางเจ้าของรถยังสามารถสั่งซื้อระบบกันสะเทือน ‘Porsche Active Ride’ ซึ่งมีมาให้เป็นตัวเลือกสำหรับรุ่น AWD
สำหรับ Porsche Active Ride จะช่วยให้ตัวรถรักษาระดับไว้ได้ตลอดเวลา มันจะดูดซับแรงกระแทกจากผิวถนนทำให้ผู้โดยสารนั่งสบาย ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการโคลงเคลงของตัวรถ กระจายน้ำหนักของรถไปยังล้อทั้งสี่เท่า ๆ กัน ซึ่งช่วยให้การยึดเกาะดีขึ้นเมื่อรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
นอกจากนี้ ทุกรุ่นยังจะมาพร้อมกับล้อใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์ และยางที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านทานการหมุน และเมื่อชะลอรถลง Taycan ยังสามารถกู้คืนพลังงานสูงสุด 400 kW ซึ่งเร็วกว่ารุ่นปัจจุบันมากกว่า 30%
การชาร์จที่เร็วขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงระหว่างการเบรกเท่านั้น Porsche กล่าวว่าระบบชาร์จไฟใหม่ 800 V จะกู้คืนพลังงานได้สูงสุด 320 kW หรือมากกว่าเดิม 50 kW และนั่นหมายความว่ามันสามารถชาร์จเร็วจาก 10% – 80% ได้ภายใน 18 นาที เท่านั้น ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ขึ้น เนื่องจากแบตเตอรี่รุ่นใหม่มีความจุ 105 kWh จากเดิม 93 kWh
เบื้องต้น Porsche ได้ทำการทดสอบการวิ่งต่อการชาร์จไฟด้วยตนเอง และพบว่ามันวิ่งได้ 587 km หรือไกลขึ้นจากที่ถูกวัดด้วยมาตรฐาน EPA ของรุ่นเดิม 191 km
ทางด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก 2025 Taycan จะมาพร้อมกับ ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, พวงมาลัยปรับอุณหภูมิได้, ไฟส่องสว่างโดยรอบห้องโดยสาร, กระจกมองข้างพับไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างรอบกระจก, ระบบระบายความร้อนใหม่, ระบบจัดการระยะวิ่งไฟฟ้าอัจฉริยะ, ถาดสมาร์ทโฟน, การชาร์จแบบไร้สายสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยทั้งหมดนี้ถูกใส่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
การออกแบบภายนอกยังได้รับการปรับปรุงด้วยไฟท้ายและไฟหน้าใหม่ ที่ด้านหน้ามีระบบไฟส่องสว่างดีไซน์ ‘HD-Matrix’ ส่วนด้านหลังมีโลโก้ Porsche ติดอยู่ในแถบไฟท้ายมองเห็นเป็น 3 มิติ
Taycan รุ่นปี 2025 ยังมาพร้อมตัวเลือกสีใหม่ โดยรุ่น Turbo และ Turbo S ได้รับการตกแต่งแบบ ‘Turbonite’ สุดพิเศษ เพื่อให้มันโดดเด่นจากรุ่นอื่น ๆ
ในส่วนของภายในนั้น มันถูกติดตั้งจอแสดงผลใหม่พร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งมีคันโยกอยู่หลังพวงมาลัย เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ Apple CarPlay ถูกใส่เข้าไปในระบบสาระบันเทิง และฟังก์ชันวิดีโอใหม่ช่วยให้สามารถสตรีมบนจอแสดงผลส่วนกลางและจอแสดงผลของผู้โดยสารที่เป็นอุปกรณ์เสริม
ที่น่าสนใจกว่าคือ มีการนำเสนอตัวเลือกภายใน ‘ไร้หนัง’ ใหม่ 2 แบบ โดยมีให้เลือกในแบบสีดำและสีดำ/เทา และแทนที่ด้วย Race-Tex คุณภาพสูงและผ้าทอผสมขนสัตว์ที่ถูกถักทอเป็นลวดลาย Pepita อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ซื้อรุ่นพื้นฐานและ 4S จะต้องจ่ายเงินสำหรับตัวเลือกดังกล่าว แต่ผู้ที่ซื้อรุ่น Turbo หรือ Turbo S สามารถเลือกได้ฟรี
ลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งซื้อ 2025 Taycan ใหม่ ได้แล้วในวันนี้ และคาดว่า Taycan จะเริ่มเข้าถึงตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐฯ ช่วงฤดูร้อน โดยเสนอราคาเริ่มต้นที่ 99,400 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเป็น 211,700 ดอลลาร์ สำหรับรุ่นท็อป
อ้างอิง : carscoops.com
