เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ BMW 5 Series Touring เจเนใหม่พร้อมกับคู่หู BMW i5 Touring ครั้งแรกของบอดี้นี้ที่พกขุมพลังไฟฟ้ามาประจำการ
จะว่าจะไปแล้วหน้าตาของเวอร์ชันเอสเตทท้ายลาดรหัส G61 ไม่ต่างอะไรจากเวอร์ชันซีดาน รหัส G60 มากนัก ตั้งแต่เสา B ไปจนถึงด้านท้าย ออกแบบกรอบกระจกที่ใหญ่ขึ้นด้านท้ายต่างจากซีดานตั้งแต่ไฟท้าย LED รูปตัวแอล กันชนหลังออกแบบใหม่ตามสไตล์ของแต่ละรุ่น นอกนั้นเหมือนกันตั้งแต่กระจังหน้าทรงไตคู่พร้อมไฟ LED เรืองแสงล้อมกรอบกระจังหน้าแบบ ‘Iconic Glow’ คล้ายกับ BMW XM พร้อมไฟหน้า LED แบบ Adaptive โคมใหม่ดูดีสปอร์ตขึ้น พร้อมปรับไฟสูงอัตโนมัติแบบ Matrix High Beam พร้อมหน้าตาที่ทันสมัยและดีไซน์ใหม่หมดตั้งแต่ชุดกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตที่คล้ายๆรหัส G30
ที่เปิดประตูที่หวนกลับมาใช้แบบยกก้านแทนดึงก้านคล้าย BMW X1 และเสา C ติดตรารูปเลข 5 เพื่อบอกว่าคันนี้คือ 5 Series ไฟท้าย LED แบบเส้นคู่แต่ยังคงเป็นแบบแยกไม่แบบแนวลากยาวเหมือนรถยุคใหม่แต่ก็ให้ความโฉบเฉี่ยวกว่า ล้ออัลลอยลายใหม่ยังใช้ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/55R18, ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/45R19 ยางหลัง 275/40R19 และ 20 นิ้วพร้อมยางหน้า 245/40R20 และยางหลัง 275/35R20
มิติตัวรถใหญ่ขึ้นใกล้เคียงกับเวอร์ชันซีดานตั้งแต่ความยาว 5,060 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,900 มิลลิเมตร ความสูง 1,505-1,515 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,995 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 136-155 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,835-2,425 กิโลกรัมและความจุถังน้ำมัน 60 ลิตรในรุ่น 5 Series Touring
ภายในยกมาจาก BMW 5 Series ซีดานมาเกือบหมดตั้งแต่คอนโซลหน้าดีไซน์ล้ำใส่จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display ที่รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส 14.9 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัวมีระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.0 แถมผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant มาให้ จอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้าหรือ BMW Head-up Display มีแถบไฟ BMW Interaction Bar ในบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูสี่บาน
ปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถสามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW gesture control ใช้นิ้วในการเพิ่มลดเสียงเปลี่ยนเพลง มีสั่งงานด้วยเสียงพร้อมปุ่ม iDrive และเครื่องเสียงคุณภาพจากแบรนด์ดัง Harman Kardon พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชันพร้อมเบาะหนังแท้ เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอิสระที่คาดว่ามาให้ถึง 4 โซน
มี BMW lconicSounds Electric เสียงประกอบต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ผ่านความร่วมมือของ Hans Zimmer นักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังในรุ่น i5 พร้อมนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกกับระบบเปลี่ยนเลนด้วยตาหรือ Automated Lane Change ช่วยเหลือผู้ขับขี่เพียงแค่ใช้สายตาหันมองรถก็จะเปลี่ยนเลนให้อัตโนมัติโดยทำงานร่วมกับเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของตาผู้ขับขี่ ติดตั้งอยู่หลังพวงมาลัยทาด้านเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมพื้นที่สัมภาระด้านท้ายทั้งแบบไม่พับเบาะและพับเบาะมีพื้นที่มากถึง 570-1,700 ลิตร
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนสำหรับ BMW i5 เป็นระบบ eDrive เจเนอเรชันที่ 5 มีทั้งรุ่น i5 eDrive40 ประกอบด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุดมีความจุ 81.2 kWh ผสมผสานกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าให้พลังเป็น 340 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 0-5,000 รอบต่อนาที เข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังมอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 483-560 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
สามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 205 kW ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% ทำระยะทางได้ไกลถึง 149 กิโลเมตร ถ้าชาร์จเร็ว 10 นาที และกระแสสลับ AC สูงสุดได้ที่ 11 kW ใช้เวลาประมาณ 8.5 ชั่วโมง ในการชาร์จไฟจาก 0-100% อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกรุ่นกับ i5 M60 xDrive โดยมีความจุแบตเตอรี่แรงดันสูง 81.2 kWh ผสมผสานกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้กำลังรวม 601 แรงม้า แรงบิด 820 นิวตันเมตร ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลัง 261 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 365 นิวตันเมตรที่ 0-5,000 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง 340 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 0-5,000 รอบต่อนาที มอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 445-506 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
รองรับการชาร์จแบบ DC สามารถชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 205 kW ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% ทำระยะทางได้ไกลถึง 142 กิโลเมตร ถ้าชาร์จเร็ว 10 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุดได้ที่ 11 kW ใช้เวลาประมาณ 8.5 ชั่วโมง และ 22 kW ในเวลา 4.25 ขั่วโมง ในการชาร์จไฟจาก 0-100% อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทางด้านเครื่องยนต์สันดาปล้วนกับเสียบปลั๊กมีให้เลือกเช่นกันเริ่มที่รุ่น Plug-In Hybrid กับเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส B48B20A 190 แรงม้าที่ 4,400-6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 310 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลัง 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น 530e และในรุ่น 530e xDrive ขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่งเท่ากันและ ความเร็วสูงสุด 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พร้อมแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน Gen 4 รุ่นใหม่ ที่มีขนาดความจุ 12 kWh ความเร็วสูงสุด 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยโหมด HYBRID ที่ใช้พลังไฟฟ้าก่อนสลับไปเป็นพลังเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันในความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนโหมด ELECTRIC ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางขับขี่สูงสุดที่ 84-96 กิโลเมตร ในรุ่น 530e และ 79-89 กิโลเมตรในรุ่น 530e xDrive ขับเคลื่อนสี่ล้อ
ขุมพลังสันดาปล้วน BMW TwinPower Turbo มีทั้งดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส B47D20B 197 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 11 แรงม้า แรงบิด 25 นิวตันเมตรจากระบบ Mild Hybrid ที่มีขนาด 48 โวลต์ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบพละกำลังรวมสูงสุด 208 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 425 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.5 วินาที ในรุ่น 520d และความเร็วสูงสุด 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรุ่น 520d xDrive ขับเคลื่อนสี่ล้อ
รุ่น 540d xDrive ขับเคลื่อนสี่ล้อ กับดีเซลเทอร์โบใหญ่สุด 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร รหัส B57D30B ให้กำลังมากถึง 286 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาทีจากระบบ Mild Hybrid ขนาด 48 โวลต์พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 18 แรงม้า แรงบิด 20 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงถึง 304 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 5.4 วินาที
ทุกขนาดขุมพลังทุกความแรงไม่ว่าจะสันดาป Mild Hybrid และ Plug In Hybrid จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Sport Steptronic เบื่องต้น BMW 5 Series Touring และ BMW i5 Touring เจเนอเรชันใหม่ขายจริงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ส่วนรุ่น 530e กับ รุ่น 530e xDrive และรุ่น 540d xDrive ขายตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
ที่มา BMW
