GEELY นอกจากส่งแบรนด์ลูกน้องใหม่อย่าง RIDDARA แล้วยังมีอีกแบรนด์ที่พึ่งเปิดตัวและทำความรูจักในไทยไม่นานด้วย ZEEKR กับ ZEEKR X
ล่าสุดทางเพจ ติ่ง TiY ได้เผยภาพรถยนต์รุ่นหนึ่งไม่พรางตัวทั้งคันติดป้าย QC วิ่งทดสอบที่ถนนพระราม 3 ซึ่งนั่นก็คือ ZEEKR X เอสยูวีตัวเล็กหน้าตาออกแบบสไตล์หรูโดยออกแบบที่เมืองโกเธนเบิร์ก สวีเดน ออกแบบโดย Stefan Sielaff หน้าตาเท่เดียวกันกับ ZEEKR 001 ตั้งแต่ไฟหน้า LED ที่แยกส่วนกันทั้งบนฝากระโปรงและด้านหน้า ชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต พร้อมคิ้วขอบล้อสีดำเข้ม กระจกมองข้างดีไซน์เอกลักษณ์แบบไร้กรอบ กรอบเสา C ขนาดเล็ก ยาวไปถึงกระจกหลังพร้อมสปอยเลอร์หลัง ไฟท้าย LED แนวยาว โลโก้ตัวอักษร ZEEKR เรืองแสง กับกันชนหลังทูโทนทรงเท่แต่มาแปลกตรงที่ไม่มีที่จับประตู พร้อมฝาปิดที่ชาร์จแบบซ่อนรูปกับตัวถัง พร้อมล้ออัลลอยให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R18 ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R19 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R20
เอสยูวีคันนี้ใช้แพลตฟอร์ม SEA หรือ Sustainable Experience Architecture Platform แบบ SEA-E ใช้ร่วมกับ Volvo EX30 SMART#1 และ SMART#3 โดยมีความยาว 4,450 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,836 มิลลิเมตร ความสูง 1,572 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,885-1,945 กิโลกรัม และเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมค่ายอย่าง Smart #1 พบว่าความยาวกว่า Smart 180 มิลลิเมตร แต่ระยะฐานล้อเท่ากัน
ภายในมาพร้อมความทันสมัยด้วยแผงคอนโซลหน้ารูปตัวทีดีไซน์เรียบง่ายมาพร้อม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านแบบท้ายตัด มาตรวัดความเร็วแบบ LCD 8.8 นิ้ว จอสัมผัสตรงกลางขนาดใหหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้าแบบ AR-HUD ขนาด 24.3 นิ้ว พร้อมลำโพงคุณภาพจาก YAMAHA มากถึง 13 จุด รองรับการเชื่อมต่อแบบอิสระ Bluetooth 5.0 ประมวลผลรวดเร็วจากชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ที่ชาร์จมือถือไร้สายแบบ 50 W หลังคากระจกพาโนรามิกรูฟความยาว 1.21 เมตร กล่องเก็บแว่นตาติดหลังคารถทำมาจากผ้าจากไมโครไฟเบอร์และหลังคาขึ้นรูปจากวัสดุจากผ้าไมโครไฟเบอร์ มีตู้เย็นขนาด 5.7 ลิตรทำความเย็นชื่นใจถึง 15 องศา และเบาะนั่งดีไซน์ล้ำแบบ zero-gravity seat มีระบบระบายอากาศและอุ่นเบาะถึงสามระดับ ปรับไฟฟ้าสูงสุด 22 ทิศทาง ปรับเอนได้ 28 องศา เลือกได้ทั้งแบบสี่กับห้าที่นั่งและมีพื้นที่ด้านหลังจุของได้ถึง 362 ลิตร
ขุมพลังไฟฟ้าจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ nickel-cobalt-manganese 66 kWh มีให้เลือกถึงสองรูปแบบเริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังถึง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตรวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จทำได้ 440 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.6 วินาที รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังถึง 428 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จทำได้ 400 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาที
ทั้งคู่ชาร์จได้สองรูปแบบทั้ง DC กระแสตรง รองรับกำลังการชาร์จ 150 kW ภายใน 28 นาที เพิ่มระยะทาง 530 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรุ่น RWD และ 510 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น AWD และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW ภายใน 3.30 ชั่วโมง เบื่องต้นจะมีการเปิดตัวและราคาในช่วงไตรมาสที่สองหรือไตรมาสที่สามของปีนี้ และจะโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้ ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี คาดว่าราคาจำหน่ายเริ่มต้น 1,200,000-1,500,000 บาท
ที่มาภาพ TiY
