10 โมเมนต์ที่เราจำไม่ลืมของ Ayrton Senna

Ayrton Senna เป็นหนึ่งในนักแข่ง Formula 1 ที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง และว่ากันว่าเขาคือนักแข่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลนับตั้งแต่ที่มีการแข่งขัน Formula 1 มา แต่เขาได้มาจากเราไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1994 จากอุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขันรายการ San Marino Grand Prix

ดังนั้น ในทุก ๆ ปีของวันที่ 1 พฤษภาคม ทาง F1 และแฟน ๆ ทั่วโลกก็มักจะมีการรำลึกถึงนักแข่งผู้ยิ่งใหญ่ชาวบราซิลคนนี้ โดยในบทความเราจะพาคุณไปรำลึกถึง 10 โมเมนต์ที่เราจำไม่ลืม กับวีรกรรมทั้งหลายของ Ayrton Senna

10. Japanese GP 1990

ถ้าให้แฟน ๆ ยุคเก่านึกถึงโมเมนต์ของ Senna ขึ้นมาทันที Japanese GP ก็น่าจะเป็นเรื่องราวแรก ๆ ที่แฟน ๆ แต่ละคนนึกถึง เพราะในสมัยก่อนนั้น ที่นี่คือสนามสุดท้ายของฤดูกาลแข่งขัน และการตัดสินแชมป์โลกมักจะเกิดขึ้นที่ Japanese GP อยู่บ่อยครั้ง

โมเมนต์ของเราในคราวนี้เกิดขึ้นในปี 1990 เมื่อ Ayrton Senna กับ Alain Prost คู่แข่งตัวฉกาจ ต้องมาตัดสินแชมป์โลกกันอีกครั้งที่นี่ หลังจากที่ปีก่อนหน้านั้น พวกเขาทั้งสองได้แย่งแชมป์โลกจนเกิดการชนกันอันลือลั่นที่ชิเคนในสนาม Suzuka ซึ่งในปี 1989 นั้น Senna ถูกริบผลการแข่งขันหลังจบการแข่งขันจนส่งผลให้ Prost เป็นแชมป์โลกไป

ในปี 1990 ที่การตัดสินแชมป์โลกกับคู่แข่งคนเดิม ในสนาม Suzuka ที่เดิม Senna แบกรับความคาดหวังและความโกรธแค้นมาอย่างเต็มเปี่ยม โดยก่อนการแข่งขัน เขาได้เข้าพบกับ FIA เพื่อเรียกร้องให้ตำแหน่งโพลนั้นอยู่ในฝั่งสะอาดของแทร็ค แต่ FIA ก็ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของ Senna ไป

“ถ้าหากพรุ่งนี้ Prost ชิงสตาร์ทขึ้นนำผม ขอให้แน่ใจได้เลยว่าเขาจะเข้าโค้งแรกไม่ได้ เพราะผมจะไปอยู่ตรงนั้นและจะทำทุกอย่างเพื่อชิงโค้งแรกมา” นักแข่งบราซิเลียนประกาศกร้าวต่อหน้าสื่อหลัง FIA ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเขา

และมันก็เป็นไปตามที่นักแข่งบราซิเลียนประกาศไว้ ในวันแข่งขัน Prost ชิงสตาร์ทขึ้นนำ Senna ได้ แต่เจ้าตัวก็พุ่งเข้าโค้งแรกไปโดยที่ไม่ยอมยกคันเร่งให้กับ Prost ทำให้ทั้งคู่ชนกันจนต้องออกจากการแข่งขัน และส่งผลให้ Senna คว้าแชมป์โลกในปี 1990 ไป

9. French GP 1992

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่าง Ayrton Senna และ Michael Schumacher ดาวรุ่งพุ่งแรงในตอนนั้น โดยมันเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องมาจาก Brazilian GP ซึ่ง Schumacher ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาถูก Senna ก่อกวนในระหว่างการแข่งขัน ทำให้ขึ้นไปไล่หัวแถวไม่ได้ ในขณะที่นักแข่งบราซิเลียนก็ออกมาตอบโต้ว่า รถของเขามีปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง

เมื่อมาถึง French GP นักแข่งเยอรมันทำพลาดเข้าไปชนท้ายนักแข่งบราซิเลียน ซึ่งในช่วงที่มีธงแดงเกิดขึ้นนั้น Senna ก็เลยเข้าไปพูดคุยกับ Schumacher ให้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่างมันเคลียร์เสียหน่อย และนั่นรวมถึงช็อตนี้

“ก่อนที่นายจะทำอะไรไม่เข้าท่าแบบที่บราซิล ฉันจะบอกนายไว้ก่อน ถ้านายมีปัญหาให้เดินเข้ามาพูดกับฉัน แต่อย่าทำอะไรไม่เข้าท่า (ให้สัมภาษณ์สื่อ) แบบนั้นอีก” Senna พูดด้วยอารมณ์คุกรุ่นจากการโดนชนท้าย

https://www.youtube.com/watch?v=zZ9CA-rb6nQ

8. Australian GP 1990

คราวนี้ Senna ได้มีการปะทะคารมกับนักแข่งรุ่นใหญ่ดีกรีแชมป์โลก 3 สมัย อย่าง Sir Jackie Stewart โดยท่านเซอร์นั้นได้รับหน้าที่ให้สัมภาษณ์ Senna ไล่ตั้งแต่การปะทะกับ Prost ในสนามก่อนหน้า จนถึงตั้งคำถามว่าเขาเป็นแชมป์โลกที่มีการปะทะกับนักแข่งคนอื่น ๆ มากกว่าแชมป์โลกคนก่อน ๆ รวมกัน และแน่นอนว่ามีหรือที่เจ้าตัวซึ่งถูกจี้ถามขนาดนี้จะยอมอยู่เฉย

“ผมพบว่ามันน่าทึ่งที่คุณถามอะไรแบบนี้นะ Stewart ทั้ง ๆ ที่คุณเองก็มีประสบการณ์ มีความรู้มากมายเกี่ยวกับการแข่งขัน และคุณควรจะรู้ว่า การเป็นนักแข่งรถนั้น คุณอยู่ภายใต้ความเสี่ยงตลอดเวลา การเป็นนักแข่งรถนั้น คุณต้องแข่งขันกับคนอื่น และถ้าคุณไม่ยอมแซงช่องที่มันเปิดอยู่ คุณก็ไม่ใช่นักแข่งรถ”

และ ‘ถ้าคุณไม่ยอมแซงช่องที่มันเปิดอยู่ คุณก็ไม่ใช่นักแข่งรถ’ ก็ได้กลายเป็นวาทะในตำนานที่กระตุกจิตกระชากใจใครหลาย ๆ คนจนถึงทุกวันนี้

7. Spanish GP 1991

ช็อตนี้คือการเบียดแย่งตำแหน่งกันระหว่าง Ayrton Senna กับ Nigel Mansell อีกหนึ่งคู่ปรับสำคัญของนักแข่งบราซิเลียน โดยในตอนนั้น สนาม Catalunya อยู่ในสภาพกึ่งเปียกกึ่งแห้ง Mansell ได้แซงขึ้นมาตีคู่กับ Senna บนทางตรงหน้าพิทเลน ทั้งคู่บดล้อห่างกันไม่ถึง 1 นิ้ว ที่ความเร็วระดับ 320 km/h ก่อนที่จะเบรกหนักเข้าโค้ง 1 ซึ่ง Mansell แซงขึ้นไปได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงสกิลการแข่งขันที่ดุดันของทั้งคู่ที่อยู่ในระดับสูงเลยทีเดียว

6. Japanese GP 1988

มันเป็นปีที่ Senna คว้าแชมป์โลกครั้งแรกได้ แต่มันก็ไม่ได้มาอย่างง่ายดายเสียทีเดียว เขาต้องต่อสู้อย่างหนักกับ Prost ที่เป็นเพื่อนร่วมทีม ทั้งคู่ต่างคว้าชัยกันไปคนละ 7 สนาม และถ้านักแข่งบราซิเลียนชนะในวันนี้ เขาก็จะไปถึงเป้าหมายในการเป็นแชมป์โลกนักแข่ง F1

แต่มีหรือที่ของที่มีค่าจะได้มาง่าย ๆ Senna เครื่องสะดุดในตอนออกตัวทำให้หล่นไปถึงอันดับ 8 และมันก็ทำให้ Prost ทิ้งห่างหนีหายไปจากสายตาตั้งแต่เริ่มสตาร์ท แต่เมื่อการแข่งขันผ่านไป ฝนก็ได้เริ่มโปรยปรายลงมาบนแทร็ค และมีหรือที่เทพเจ้าแห่งสายฝนจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ Senna ไล่บี้กลับมาแซง Prost ได้ คว้าชัยชนะและแชมป์โลกไปได้อย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

5. Brazilian GP 1991

ถึงแม้ว่า Senna จะเป็นแชมป์โลก F1 2 สมัย แล้วในตอนนั้น แต่เขากลับยังไม่เคยคว้าชัยชนะในบ้านเกิดที่บราซิลได้เลย ซึ่งมันเป็นอะไรที่ติดค้างคาใจเจ้าตัวอยู่นานมาก จนกระทั่งถึงรายการ Brazilian GP ในปี 1991

แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ Senna ออกตัวขึ้นนำได้ก็จริง แต่ Mansell ก็ไล่บี้หายใจรดต้นคอของเขาอยู่เกือบตลอดการแข่งขัน และเมื่อ Mansell เกิดปัญหากับตัวรถและออกจากการแข่งขันไป รถของ Senna เองก็เกิดปัญหากับชุดเกียร์ ซึ่งทำให้ตัวรถค้างอยู่ที่เกียร์ 6

และถ้าหากการขับเกียร์เดียวตลอดทั้งสนามและมีคู่แข่งไล่เข้ามารอบละ 6 วินาที ยังไม่พอ ฝนก็ได้กระหน่ำลงมาในช่วงท้ายของการแข่งขันอีก ซึ่ง Senna เลือกที่จะไม่เข้าพิทเปลี่ยนยาง และเจ้าตัวงัดทุกกระบวนท่าที่มีออกมาใช้จนหมดสิ้น จนในที่สุด เขาก็ผ่านเส้นชัยคันแรก คว้าชัยชนะในบ้านเกิดได้สำเร็จสมใจปรารถนา

ในตอนที่เขากลับมาถึงพิทนั้น Senna ถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรงและตะคริวกินมือจนปล่อยพวงมาลัยไม่ได้ และเขาก็แทบจะไม่มีแรงชูถ้วยรางวัลบนโพเดียมต่อหน้าแฟน ๆ เจ้าถิ่นเสียด้วยซ้ำ ซึ่งมันบ่งบอกถึงความทุ่มเทเกินขีดจำกัดของตำนานแชมป์โลก 3 สมัย ได้เป็นอย่างดี

4. Monaco GP 1984

มันเป็นรายการที่ทำให้เรารู้จักนักแข่งโนเนมที่พึ่งขึ้นมาขับ F1 นามว่า Ayrton Senna ในวันนั้นมีฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก นักแข่งชื่อดังหลายคนต่างเกิดอุบัติเหตุไม่จบการแข่งขัน แต่น้องใหม่ชาวบราซิลกลับซิ่งฝ่าสายฝน โชว์เทพในรถที่ไม่ว่าใครมองก็รู้ว่าไม่มีโอกาสแม้แต่จะขึ้นมาอยู่หัวแถวด้วยซ้ำ

Senna นั้นเริ่มร่ายเวทมนต์ของตัวเอง เขาไล่ทำอันดับขึ้นมาและมีจังหวะแซง Niki Lauda ซึ่งในตอนนั้นมีดีกรีเป็นแชมป์โลก และเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์โลกในปีนั้นด้วย เขากำลังไล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเกือบถึงผู้นำอย่าง Prost แต่นายสนามก็ได้ตีธงแดงเสียก่อน ทำให้ในวันนั้นเขารับอันดับ 2 กลับบ้านไป แต่ ณ จุด ๆ นั้น ทุกคนต่างรู้แล้วว่า ดาวดวงใหม่ได้ลงมาจุติเป็นที่เรียบร้อย

3. Portuguese GP 1985

ชัยชนะครั้งแรกในชีวิตนักแข่ง F1 ย่อมเป็นอะไรที่พิเศษเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการถล่มคู่แข่งแบบไม่เหลือชิ้นดีท่ามกลางสายฝนที่เป็นเหมือนเทพธิดาแห่งโชคของเจ้าตัว

หลังจากที่ Senna โชว์เทพในการขับฝนที่โมนาโกไปเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้เขาย้ายสังกัดมาร่วมกับทีม Lotus และเพียงสนามที่ 2 ของปี เขาก็คว้าชัยชนะได้แล้ว ซึ่งเป็นการนำม้วนเดียวจบจากตำแหน่งโพล และมีเพียงอันดับ 2 ที่จบการแข่งขันในรอบเดียวกับ Senna และมันยังได้กลายเป็นแกรนด์สแลมครั้งแรกของเจ้าตัวไปอีกด้วย

2. Monaco GP 1988

การควอลิฟายที่โมนาโกในปี 1988 ของ Senna นั้น เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ฉีกทุกกฎและเหนือขีดจำกัดของมนุษย์ก็ว่าได้ เขาทำเวลาโพลเร็วกว่าเพื่อนร่วมทีมดีกรีแชมป์โลกอย่าง Prost ไปเกือบ 1 วินาทีครึ่ง จนทำให้ได้รับการกล่าวขานว่า นี่คือ รอบการขับที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ F1

หลังจบการควอลิฟาย Senna ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับได้ขับด้วยสัญชาตญาณ ผมนั้นตกลงสู่มิติที่แตกต่าง ผมอยู่ในอุโมงค์ ลึกลงไปเกินกว่าจิตใต้สำนึก บางจังหวะผมรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดออกจากทุก ๆ สิ่ง”

1. European GP 1993

ถ้าหากว่าการควอลิฟายที่โมนาโก 1988 คือ ‘รอบการขับที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ F1’ European GP 1993 ก็จะเป็น ‘รอบแรกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ F1’ เช่นเดียวกัน

ในปีนั้น รถ McLaren ของ Senna มีศักยภาพที่เรียกได้ว่า ไม่สามารถต่อกรใด ๆ กับทีมหัวแถวได้ แต่เขาก็เสกเวทมนต์ขึ้นมาได้ในการแข่งขันที่นี่ และแน่นอนว่า ด้วยความช่วยเหลือจากเทพธิดาแห่งสายฝนเช่นเคย

ก่อนจะถึงโค้งแรกนั้น Senna สตาร์ทแล้วหล่นไปอยู่ในอันดับ 5 แต่เขาก็ครอสไลน์แซงเอาอันดับจาก Schumacher มาได้ทันทีหลังออกจากโค้ง 1 ในโค้งถัดมา เขาปาดแซง Karl Wendlinger จากด้านนอกและขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 อีก 2 โค้งถัดมา เขาแซง Damon Hill ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 สุดท้ายที่แฮร์พิน Senna เสียบใน Prost ขึ้นมานำ

หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง 50 นาที เขาก็ชนะการแข่งขัน โดยมี Hill ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลาห่างถึง 1 นาที 23 วินาที และน็อครอบตั้งแต่อันดับ 3 อย่าง Prost ลงไป ตอกย้ำความเป็นเทพเจ้าแห่งสายฝนอีกครั้งหนึ่ง