แผนเปิดตัวรถใหม่ปีหน้าค่าย MG เรียกว่าครบทุกความต้องการทั้งรถเก๋ง รถเอสยูวี มาทุกขุมพลังทั้งสันดาปและอีวี หนึ่งในนั้นมี MG ZS เจนใหม่
จากเดิมจะมีทั้งโมเดลใหม่ได้แก่ MG3 กับ MG HS ด้านรุ่นปรับโฉมและรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ Major Change มีทั้ง MG5 Estate (บอดี้เดียวกับ MG EP กับ MG ES เวอร์ชันไทย) MG7 เก๋งใหญ่ และการปรับโฉมของ MG4 Electric กลับมาที่ MG ZS เจเนอเรชันที่สองแน่นอนว่ามาแทนเจนที่แล้วที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2017 กับภาพสิทธิบัตรแบบเต็มๆที่ว่ากันว่าหลุดมาจาก สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งยุโรป (EUIPO) ชุดเดียวกันที่ MG HS เจนใหม่และเรนเดอร์สร้างสีใหม่ให้โดดเด่น
หน้าตาทั้งคันใหญ่กว่า MG ZS เจนปัจจุบันและหน้าตายกมาจากรุ่น HS เจนใหม่หล่อหรูด้วยไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านหน้าด้วยช่องระบายอากาศทรงรังผึ้งขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED โลโก้ MG ติดบนกระจังหน้ากริตเตอร์ขอบใหญ่ขอบสีเดียวกับตัวรถ ประกบไฟหน้า LED ทรงสปอร์ต ด้านข้างกลมกลืนด้วยเส้นสายลงตัว พร้อมกระจกมองข้างติดไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดึงก้าน ราวหลังคา ล้ออัลลอยดีไซน์เท่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R17 และขนาดเล็ก 16 นิ้ว นิ้วพร้อมยาง 215/60 R16 ไฟท้าย LED แบ่งเป็นสองฝั่งไม่แนวยาว ย้ายตำแหน่งป้ายทะเบียนท้ายมาอยู่ข้างๆไฟท้าย พร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ ทั้งเวอร์ชันสันดาปและไฟฟ้าตามารายงานอาจใช้แพลต์ฟอร์มต่างกันโดยเฉพาะ MG ZS EV อาจได้ใช้แพลต์ฟอร์ม Modular Scalable แบบเดียวกับ MG4 Electric
ขุมพลังอาจยกมาจากเจนปัจจุบันแต่ปรับเรี่ยวแรงใหม่ดังนี้ เบนซินเทอร์โบหัวฉีด TGI 1.3 ลิตร ให้กำลังมากสุด 156 แรงม้าที่ 5,200-5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,800-4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร VTi–TECH รหัส 15S4C ให้กำลัง 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด
เครื่องยนต์ไฮบริดก็มีกับรหัส 15S4C 1.5 ลิตร 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดลดลงไปอีก 8 นิวตันเมตรที่ 142 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้าที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรแบตเตอรี่ Lithium-Ion เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT โหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport
รุ่น ZS EV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWh ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport โดย MG ZS เจเนอเรชันใหม่เตรียมเปิดตัวในช่วงปี 2024 ส่วนเมืองไทยมีแนวโน้มเช่นกัน
ที่มา Whichcar
ที่มาภาพ Theottle
