ค่ายรถ LDV เน้นทำตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ของออสเตรเลียในเครือ SAIC Motor ประกาศความพร้อมเตรียมเผยโฉมกระบะแกร่งทั้ง LDV TERRON 9 และ LDV eTERRON 9
การมาครั้งนี้มากันแบบครบทุกความต้องการของลูกค้าทั้งขุมพลังดีเซลและไฟฟ้าล้วนหวังครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากถึง 5-7% ยอดขายประมาณ 15,000 คันต่อปี
หล่อทั้งคันตั้งแต่ไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED ในโคมแนวตั้งพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ลายรังผึ้งในรุ่นเครื่องดีเซลและไฟหน้า LED รูปตัว C พร้อมกระจังหน้าทรงทึบติดตรา LDV ในรุ่นอีวี ฝากระโปรงหน้ามีขอบหนา ซุ้มล้อทรงเหลี่ยม
ราวหลังคาดีไซน์กลมกลืนกับหลังคารถ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ไฟท้าย LED แบบยูคว่ำ ล้ออัลลอยมีหลายขนาดตั้งแต่ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 245/65 R17, ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18 และขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 275/55R20
พิเศษในรุ่น eTERRON 9 มีพื้นที่บรรทุกภายในยาวถึง 2,400 มิลลิเมตรด้วยการใช้ฟังก์ชัน Multi-Flex Midgate กระบะท้ายเปิดทะลุไปจนถึงห้องโดยสารด้านหลัง ทั้งคู่มาในร่างกระบะ 4 ประตูทรงใหญ่ด้วยพื้นฐาน semi-monocoque และโครงสร้างเหล็ก ตั้งแต่
- ความยาว 5,500 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,997 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,860 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,300 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 220 มิลลิเมตร
- ช่องเก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า (FRUNK) 236 ลิตร ในรุ่นอีวี
- น้ำหนักบรรทุกในกระบะท้ายเพียง 620 กิโลกรัมในรุ่นอีวี
ภายในมาพร้อมจอคู่ที่รวมการทำงานทั้งมาตรวัดความเร็วและจอสัมผัสระบบความบันเทิงเต็มรูปแบบ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงท้ายตัด พร้อมเบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งโดยฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมอุ่นเบาะและนวดได้ และเบาะนั่งคู่หน้าปรับเอนเป็นเตียงนอนอเนกประสงค์ความยาว 170 เซนติเมตร
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนพัฒนาใหม่หมดแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวมถึง 442 แรงม้า จากมอเตอร์ล้อหน้า 188 แรงม้าและล้อหลัง 294 แรงม้าให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.8 วินาที ให้ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาด 102 kWh
วิ่งไกลสุดตามมาตรฐาน WLTP 430 กิโลเมตร คาดรองรับการชาร์จเร็ว DC สูงถึง 115 kW 20-80% ภายใน 40 นาที และชาร์จช้า AC พร้อมโหมดการขับขี่ All-Terrain System (ATS) 6 โหมดรวมโหมดปรับตั้งค่าเองเลือกปรับความสูงตัวรถ ปรับน้ำหนักพวงมาลัยไฟฟ้า การควบคุมรถ และตั้งค่ากำลังได้ตามใจชอบ
มาพร้อมฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าภายนอก V2L (Vehicle to Load) รองรับการจ่ายโหลดสูงสุด 2.2KW ~ 6.6KW ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อโดยด้านหลังมาแบบมัลติลิงค์พร้อมระบบถุงลมและปรับด้านท้ายเตี้ยลง 60 มิลลิเมตรในยามบรรทุกของด้วยฟังก์ชัน Easy Loadด้านสันดาปก็ไม่น้อยหน้ามาพร้อมดีเซลเทอร์โบขนาด 2.5 ลิตร รหัส SC25TA ให้กำลังมากถึง 224 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจาก ZF เพิ่มพลังลุยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time with Terrain Selection 4WD พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย electronic differential lock (EDL) ทั้งคู่สามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุด 3,320-3,500 กิโลกรัม
LDV TERRON 9 และ LDV eTERRON 9 กระบะแกร่ง 2 สไตล์เตรียมเปิดตัวที่ออสเตรเลียช่วงปี 2025 โดยรุ่นอีวีล้วนจะมาขายช่วงต้นปี 2025 ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะเปิดตัวพร้อมกันหรือไม่ทางด้านเมืองไทยค่าย MG ภายใต้ชื่อ MG Extender อาจหวนกลับมาทำตลาดอย่างจริงจังอีกครั้งหรือไม่นั้นต้องติดตาม