ถุงลมนิรภัย มีกี่แบบ? รู้จักระบบความปลอดภัยที่อาจช่วยชีวิตคุณไว้ในวินาทีเดียว
เวลาซื้อรถใหม่ หลายคนมักมองหาความแรง ความหล่อ หรือฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้ามีอะไรที่ “มองไม่เห็น แต่สำคัญมาก” หนึ่งในนั้นคือ ถุงลมนิรภัย หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า “แอร์แบ็ก (Airbag)” นี่แหละ!
แล้วถุงลมนิรภัยในรถยนต์… จริง ๆ แล้วมันมีกี่แบบ? ทำงานยังไง? จำเป็นแค่ไหน? วันนี้ Car2Day สรุปให้เข้าใจง่ายในบทความเดียวจบ!
ถุงลมนิรภัยคืออะไร?
ก่อนอื่นขอทวนสั้น ๆ ถุงลมนิรภัยคืออุปกรณ์ความปลอดภัยในรถยนต์ ที่จะทำงาน ทันทีที่รถเกิดแรงกระแทกอย่างรุนแรง โดยจะพองตัวขึ้นมาในเสี้ยววินาทีเพื่อรองรับร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการกระแทกกับพวงมาลัย หน้าปัด หรือกระจกหน้า
ถุงลมนิรภัยมีกี่แบบ?
ถุงลมนิรภัยไม่ได้มีแค่ “คู่หน้า” อย่างที่หลายคนเข้าใจ รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มีให้หลายจุดมาก และแต่ละแบบก็ทำงานต่างกันด้วย
1. ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (Front Airbags)
ภาพจาก Volvo EX30
อยู่บริเวณพวงมาลัย (ฝั่งคนขับ) และแดชบอร์ด (ฝั่งผู้โดยสารหน้า)
หน้าที่: ช่วยรองรับหัวและหน้าอกเมื่อชนด้านหน้า
2. ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags)
ภาพจาก Volvo S90
มักติดอยู่ด้านในเบาะ หรือข้างประตู
หน้าที่: ป้องกันการกระแทกจากการชนด้านข้าง โดยเฉพาะลำตัวและสะโพก
3. ถุงลมนิรภัยม่านข้าง (Curtain Airbags)
ภาพจาก Honda
กางลงจากขอบหลังคาด้านบนครอบทั้งกระจกด้านข้าง
หน้าที่: ช่วยป้องกันศีรษะเวลารถถูกชนด้านข้างหรือพลิกคว่ำ
4. ถุงลมนิรภัยหัวเข่า (Knee Airbags)
ภาพจาก The Car Guide
อยู่ใต้คอนโซลฝั่งคนขับ หรือบางรุ่นมีทั้งสองฝั่ง
หน้าที่: ช่วยลดการบาดเจ็บที่หัวเข่าจากแรงกระแทก
5. ถุงลมนิรภัยกลางเบาะหน้า (Center Airbags)
ภาพจาก Autoliv
พบในรถบางรุ่นที่เน้นความปลอดภัยสูง
หน้าที่: กางออกมาระหว่างเบาะคนขับกับผู้โดยสารหน้า ช่วยลดการชนกันระหว่างผู้โดยสารสองฝั่งเวลาชนด้านข้าง
6. ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ภาพจาก Car and Driver
เริ่มมีในรถหรูบางรุ่น เช่น Mercedes-Benz S-Class เรียกว่า rear seat airbags หรือ SUV ขนาดใหญ่
หน้าที่: ป้องกันผู้โดยสารแถวหลังจากแรงกระแทกด้านหน้า
7. ถุงลมนิรภัยภายนอก (External Airbags)

ภาพจาก Motor Authority
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่กำลังพัฒนา
หน้าที่: กางจากด้านนอกตัวถังเพื่อลดแรงกระแทกก่อนชน
ถุงลมนิรภัยมีทุกคันไหม?
ไม่ใช่ทุกคันจะมีครบทุกตำแหน่ง โดยทั่วไป:
- รถเก๋งระดับเริ่มต้น: มี 2 ใบ (คู่หน้า)
- รถระดับกลาง–บน: มี 4–6 ใบ
- รถหรู/รถยุโรป: อาจมี 7–10 ใบ หรือมากกว่านั้น
ถุงลมนิรภัยจำเป็นแค่ไหน?
ถุงลมนิรภัยไม่ใช่ตัวช่วยป้องกันอุบัติเหตุ
แต่คือ “แผนสำรองที่ช่วยชีวิต” เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว
หลายกรณีมีรายงานว่า “ถุงลมนิรภัยที่ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัย” ช่วยลดการเสียชีวิตได้มากกว่า 50% จากการชนด้านหน้าโดยตรง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับถุงลมนิรภัย
- ถุงลมทำงาน เมื่อรถเกิดแรงกระแทกรุนแรงเท่านั้น (ชนเบา ๆ อาจไม่ทำงาน)
- ถ้ารถติดแก๊ส/เปลี่ยนพวงมาลัย อาจมีผลต่อเซ็นเซอร์ถุงลม
- รถเก่ามาก ๆ หรือมีการซ่อมผิดมาตรฐาน อาจทำให้ถุงลมไม่ทำงาน