โปรแกรม Red Bull Junior เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมปั้นนักขับเยาวชนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทุกวันนี้ มีผลผลิตชั้นยอดมากมายที่ถูกส่งออกมาจากโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Max Verstappen แชมป์โลก F1 คนปัจจุบัน, Sebastian Vettel แชมป์โลก F1 4 สมัย, หรือ Alexander Albon นักแข่งสัญชาติไทยคนแรกที่ได้ขึ้นโพเดียม F1
เข้าสู่ปี 2023 ทางค่าย Red Bull เองก็ยังคงมีนักขับเยาวชนอยู่เต็มสต็อก ซึ่งนักขับเหล่านี้ต่างต้องแย่งชิงกันทำผลงานเพื่อสร้างความประทับใจให้กับ Dr. Helmut Marko หัวหน้าโครงการ เพราะถ้าหากผลงานเข้าตา ด็อกเตอร์เองก็มีแผนที่จะดันพวกเขาเหล่านั้นให้ขึ้นไปถึง F1 เลยทีเดียว
Jonny Edgar
นักแข่งที่อยู่ในโครงการมานานที่สุดในบรรดานักแข่งปัจจุบัน Edgar นั้นถูกเซ็นเข้าโครงการตั้งแต่ปี 2017 หลังจากที่เขาคว้าแชมป์ CIK-FIA European Championship 2017 รุ่น Junior ได้ตั้งแต่ปีแรกที่ลงแข่งขัน เขาขยับขึ้นมา ADAC F4 ในปี 2019 และคว้าแชมป์ได้ในปี 2020
ในปี 2022 กับการแข่งขัน F3 เป็นปีที่สอง มันเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับ Edgar นักแข่งวัย 18 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโครห์น ทำให้เขาต้องพักรักษาอาการและฟื้นฟูร่างกาย ก่อนที่จะกลับมาแข่งขันได้และเริ่มเก็บคะแนนได้อย่างสม่ำเสมอในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล
เขาจะยังคงลงแข่งขัน F3 ในปี 2023 แต่จะย้ายสังกัดไปอยู่กับ MP Motorsport
Dennis Hauger
เป็นอีกคนที่ถูกดึงตัวเข้าร่วมโปรแกรมในปี 2017 และถูกดึงตัวในขณะที่เจ้าตัวยังคงแข่งขัน Go-kart นักแข่งนอร์วีเจียนได้แสดงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ Italian F4 ในปี 2019 กับ Van Amersfoort จากนั้นเขาก็คว้าแชมป์ F3 ในปี 2021 กับ Prema
Hauger ยังคงลงแข่งขันให้กับ Prema ต่อในปีถัดมากับรายการ F2 ที่ซึ่งเขาจบฤดูกาลในอันดับ 10 และคว้าชัยชนะมาได้ 2 ครั้ง โดยในปี 2023 เขาจะย้ายไปอยู่สังกัด MP Motorsport
Liam Lawson
ถูกเซ็นเข้าสู่โปรแกรม Red Bull junior ในช่วงต้นปี 2019 Lawson เป็นนักขับสำรองของทั้ง Red Bull และ AlphaTauri ในปี 2023 ซึ่งนักแข่งแดนนกกีวีจะปฏิบัติหน้าที่ข้างต้นควบคู่ไปกับการลงแข่งขันในแดนอาทิตย์อุทัยกับรายการ Super Formula
เส้นทางอาชีพของ Lawson นั้นก็ไม่ธรรมดา เขาถูกจับตามองจาก Red Bull ในปี 2018 หลังจากที่เขาคว้ารองแชมป์ ADAC F4 ได้ และยังถล่มคู่แข่งยับใน Asian F3 ซึ่งเขาลงแข่งขันเพียง 3 ครั้ง แต่ก็ชนะทุกสนามที่ลงแข่งขัน
ในปีถัดมา เขามีฤดูกาลที่ค่อนข้างธรรมดาใน F3 แต่แสดงศักยภาพให้เห็นในรายการอื่น ด้วยการคว้าแชมป์ Toyota Racing Series และรองแชมป์ Euroformula
นักแข่งวัย 20 ปี ทำผลงานใน F3 ได้ดีขึ้นในปี 2020 ด้วยอันดับ 5 กับ Hitech ทำให้เขาได้ไปต่อกับต้นสังกัดเดิมใน F2 ในปีถัดมา ควบคู่ไปกับการแข่งขัน DTM ในเยอรมนี ที่ซึ่งเขาจบการแข่งขันด้วยการเป็นรองแชมป์
Lawson กลับมาสานภารกิจพิชิต F2 ต่อในปี 2022 โดยในคราวนี้เขาลงแข่งขันให้กับ Carlin และคว้าชัยชนะไปได้ 4 ครั้ง ส่งผลให้เขาจบฤดูกาลในอันดับ 3
Jehan Daruvala
นักแข่งที่อายุมากที่สุดในโครงการด้วยวัย 24 ปี Daruvala เข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่ต้นปี 2020 อย่างไรก็ตาม จากผลงานที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของ Dr. Marko ในปี 2022 ทำให้ในปีนี้อาจเป็นปีสุดท้ายที่นักแข่งอินเดียนจะยังคงอยู่ในโครงการ โดยใน 3 ปีที่เขาอยู่ในโปรแกรมและลงแข่งขัน F2 มา เขาทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 7 จากปี 2021 และ 2022 เท่านั้น
Jak Crawford
นักแข่งอเมริกันได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Red Bull Junior เมื่อต้นปี 2020 ในฤดูกาลที่เขาตะลุยแข่ง F4 ทั้งฝั่งเยอรมนีและอิตาลี เขาขยับขึ้น F3 ในปี 2021 และจบฤดูกาลอันดับ 13 แต่เขาได้แสดงศักยภาพมากกว่ากับการแข่งขัน Euroformula Open ที่ซึ่งเขาจบฤดูกาลในอันดับ 3
Crawford ยังคงแข่งขัน F3 ในปี 2022 กับ Prema แต่ในปีนี้เขาทำผลงานดีขึ้นกับอันดับ 7 เมื่อจบฤดูกาล
เขามีกำหนดที่จะขยับขึ้น F2 ในปี 2023 โดยคาดว่าเจ้าตัวจะได้รับการยืนยันลงแข่งขันกับ Hitech ในเร็ว ๆ นี้
Ayumu Iwasa
Iwasa ไต่เต้าขึ้นมาเป็นนักแข่งชั้นนำในโปรแกรม Red Bull Junior ด้วยความรวดเร็ว นักแข่งญี่ปุ่นถูกเซ็นเข้าร่วมโครงการไปไม่นานเมื่อต้นปี 2021 นี้เอง สด ๆ ร้อน ๆ หลังจากที่เขาพึ่งคว้าแชมป์ French F4 ในปีก่อนหน้านั้น
Iwasa ได้รับการหนุนหลังจากทั้ง Red Bull และ Honda เจ้าตัวจบฤดูกาล F3 2021 ในอันดับ 12 และได้รับการโปรโมตขึ้น F2 ในปี 2022 ที่ซึ่งเขาได้แสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เขาคว้าชัยชนะได้ 2 ครั้ง และขึ้นโพเดียมไปถึง 6 ครั้ง ในฤดูกาลรูกี้ของเขา ทำให้ในปี 2023 นักแข่งญี่ปุ่นได้รับการจับตามองให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์โลกในปีนี้
Isack Hadjar
นักแข่งวัย 18 ปี ถูกเซ็นเข้าสังกัด Red Bull Junior ในช่วงกลางปี 2021 ฤดูกาลที่เขาลงแข่งขัน Formula Regional Europe และจบฤดูกาลในอันดับ 5 Hadjar เป็นอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะถูกคาดหวังเป็นอย่างสูงจาก Dr. Marko โดยบอสผู้ดูแลโครงการ Red Bull Junior ตั้งฉายาให้กับเขาว่า ‘little Prost’
ในปี 2022 นักแข่งสัญชาติฝรั่งเศสทำผลงานได้เข้าเป้า ทั้ง Formula Regional Asian ที่เขาจบฤดูกาลในอันดับ 3 และ F3 ในอันดับ 4 โดยในปีนี้ Hadjar เตรียมที่จะลงแข่งขันใน F2 แต่ยังไม่มีการยืนยันออกมาว่าเขาจะไปอยู่ในสังกัดใด
Souta Arao
มาเริ่มกันที่นักแข่งคนแรกที่ถูกเซ็นเข้าโปรแกรม Red Bull Junior ในปี 2022 Arao ลงแข่งขัน French F4 ในปีนั้น โดยนักแข่งญี่ปุ่นจบอันดับ 3 โอเวอร์ออล ซึ่งเป็นผลงานที่ดูดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังคงไม่เปิดเผยแผนการแข่งขันในปี 2023 ออกมา
Ren Sato
ผลผลิตของโครงการ Formula Dream จาก Honda, Sato ในวัย 21 ปี ได้เข้าร่วมโปรแกรม Red Bull Junior ในปีที่แล้ว ที่ซึ่งเขาลงแข่งขัน Super Formula และจบฤดูกาลในอันดับ 12
ในปีนี้ นักแข่งญี่ปุ่นก็ยังคงมีแผนการที่จะลงแข่งขันใน Super Formula ต่อ โดยเขาเตรียมที่จะย้ายไปเข้าสังกัด TCS Nakajima อย่างไรก็ตาม สำหรับ Sato แล้ว เขาออกจะเป็นนักแข่งที่อายุเริ่มเยอะ และยังมีประสบการณ์แข่งขันนอกญี่ปุ่นเพียงแค่รายการ French F4 ที่ซึ่งเขาจบฤดูกาลรองจาก Ayumu Iwasa นั่นอาจทำให้เส้นทางสู่ F1 ในอนาคตของเขานั้นเป็นไปได้ยากกว่าคนอื่น ๆ ในโครงการ
Enzo Fittipaldi
หนึ่งในน้องใหม่ประจำโครงการ Red Bull Junior, Enzo Fittipaldi ผู้ซึ่งเป็นน้องชายของ Pietro Fittipaldi นักขับสำรองของ Haas F1 และหลานชายของแชมป์โลก F1 Emerson Fittipaldi ได้ถูกเซ็นเข้าร่วมโครงการไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
นักแข่งวัย 21 ปี จะลงแข่งขัน F2 ให้กับ Carlin ในปี 2023 หลังจากที่เขามีฤดูกาลที่แข็งแกร่งกับ Charouz ในปี 2022 โดยเขามีผลงานที่ดีที่สุดด้วยการเป็นแชมป์ Italian F4 ในปี 2018 และรองแชมป์ Formula Regional European ในปี 2019
Zane Maloney
เข้าร่วมโครงการ Red Bull Junior อย่างเป็นทางการในปี 2023 Maloney ได้สร้างความประทับใจให้กับ Red Bull ด้วยการเป็นรองแชมป์โลก F3 ในปี 2022 โดยในปีนี้เขาจะลงแข่งขัน F2 แต่ยังคงไม่มีการเปิดเผยออกมาว่าเขาจะอยู่กับสังกัดใด แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ นักแข่งวัย 19 ปี จะมีบทบาทในการเป็นนักขับสำรองให้กับ Red Bull F1 ในปี 2023 ด้วย
Enzo Tarnvanichkul
น้องใหม่ที่อายุน้อยที่สุดในโครงการ Red Bull Junior ในตอนนี้ และที่สำคัญเป็นเด็กจากบ้านเรานี่เอง โดยน้องเอ็นโซถูกเซ็นเข้าร่วมโครงการหลังคว้าแชมป์โลก CIK-FIA World Championship 2022 รุ่น OK-Junior ซึ่งนักแข่งไทยวัย 13 ปี ถูกกำหนดเป้าหมายจาก Dr. Marko ให้ขึ้นสู่ F1 ในปี 2027
“เราใช้เวลานานมากครับกับเส้นทางที่ผ่านมา ผมภูมิใจมากที่ชนะใน World Championship ภายใต้ธงชาติไทย และเป็นนักขับเชื้อสายไทย มันเป็นความภูมิใจนะครับ เพราะว่าน้อยครั้งที่จะมีคนไทยแข่งในระดับโลก และในต่างประเทศ ผมดีใจมากที่ได้แสดงให้ชาวต่างชาติเห็นว่า ‘คนไทย’ ก็ขับรถเก่ง พอเราไป World Championship เรากำลังทำให้ทุกคนทั่วโลกเห็นว่าประเทศของเราของเรามีศักยภาพแค่ไหน”
“วันนี้ใส่เสื้อ Red Bull มาก็ภูมิใจมากครับ เพราะถ้าพูดถึงทีม F1 Red Bull คือทีมที่ดีที่สุดและมีรถเร็วที่สุดในมอเตอร์สปอร์ต เราต้องมุ่งมั่นสู้ต่อไปครับ ต้องคิดถึงอนาคต และแสดงศักยภาพออกมาให้ทุกคนได้เห็น”
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ อีก 4 ปีนับจากนี้ เอ็นโซ อยากจะแข่ง F2 ให้ได้ในอายุ 17 ปี Red Bull ก็คุยกับเราหลายอย่าง ผมคิดว่าถ้าผมเก่งพอ ผมจะไปถึง F1 ได้กับ Red Bull ซึ่งเราจะได้เห็นกันครับ ผมฝันไว้ว่าวันหนึ่งเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย จะมีแฟน ๆ มาต้อนรับที่หน้าเกตในสนามบิน และในวันนั้นผมจะได้ขับใน F1 ครับ”
Sebastian Montoya
น้องใหม่สุดของโครงการ Red Bull Junior เพราะพึ่งมีการแถลงข่าวยืนยันอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมานี้เอง เห็นนามสกุลแล้วแฟน ๆ F1 รุ่นเก๋าก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือลูกชายของอดีตนักแข่ง F1 Juan Pablo Montoya โดยนักแข่งวัย 17 ปี จะลงแข่งขัน F3 ในปีนี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันต้นสังกัดออกมา ควบคู่ไปกับการแข่งขัน Formula Regional Middle East ในสังกัด Hitech
อ้างอิง : planetf1.com , f1.com , motorsport.com , autosport.com