More

    AITO M7 ULTRA สายหรูส่งมอบชาวจีนมากกว่า 1 หมื่นคัน ภายใน 18 วัน

    AITO ค่ายรถยนต์จากการร่วมทุนของ Huawei และ SERES เปิดตัวทางเลือกใหม่แนะนำ AITO M7 ULTRA รุ่นท็อปสุดได้ไม่นาน

    AITO

    ล่าสุดทางค่ายส่งข่าวดีมาฝากแฟนๆที่สนใจว่าเริ่มส่งมอบมากกว่า 10,000 คันภายใน 18 วันหลังจากเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการถือเป็นสถิติที่ไม่มีใครกล้าทำและจากงานแถลงข่าวการเปิดตัวคราวก่อนนาย Yu Chengdong, ประธานกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของ Huawei กล่าวว่ารุ่นนี้ผลิตไปแล้ว 10,000 คันและพร้อมส่งมอบในช่วงสัปดาห์แรก 4,349 คัน แม้เปิดตัวขายมา 2 ปีก็ตาม

    ด้วยหน้าตาต่างจากรุ่น M7 Plus และ M7 Max พอสมควรตั้งแต่กระจังหน้าสีเข้มผสมเส้นสายสีเงินโครเมียมติดตราโลโก้ขนาดใหญ่พร้อมชุดไฟน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง DRL Turn Signal หน้าและหลัง มีครีบระบายอากาศแนวตั้งข้างๆในชุดกันชนหน้า ด้านข้างเป็นหลังคาทรงกล่องประดับประดาด้วยคิ้วโครเมียมครอบกระจกตั้งแต่เสา A ไปถึง เสา D มีราวหลังคาดีไซน์บางๆไม่เกะกะสายตา มีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ ราวหลังคา กระจกมองข้าง ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง พร้อมบันไดข้างไฟฟ้าสัมพันธ์กับประตูรถ เปิดประตูจะมีบันไดยื่นลงมา และเมื่อปิดประตูบันไดข้างก็จะพับเก็บเข้าที่

    ไฟท้าย LED ซ้าย-ขวา เชื่อมต่อเส้นแนวนอนระหว่างไฟท้ายติดตราตัวอักษร AITO เสริมหรูด้วยคิ้วโครเมียมเสริมเสน่ห์ พร้อมกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถกลมกลืนกับตัวรถอย่างแยบยล และล้ออัลลอยขนาดใหญ่  20 นิ้ว พร้อมยาง 255/50R20 และขนาด 21 พร้อมยาง 265/45R21 ตัวรถใหญ่โตสมฐานะพร้อมมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 5,020 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,945 มิลลิเมตร ความสูง 1,760 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,820 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,370-2,460 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร

    AITOภายในหรูย่อส่วนจากรุ่น AITO M9 แต่แตกต่างทางด้านการออกแบบเริ่มที่คอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัสสีทูโทนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน ทรงท้ายตัด ติดตั้งจอใหญ่ถึงสามจอยาวทั้งแผงเริ่มที่ จอมาตรวัดความเร็วสี LCD 10.25 นิ้ว จอกลางแสดงระบบความบันเทิงและระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว คมชัดแบบ 2K มีจอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้า AR-HUD มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Harmony OS ของ Huawei เท่านั้นยังไม่พอ ตอนที่สอง มีจอติดหลังเบาะขนาดใหญ่ 13.2 นิ้ว พร้อมลำโพงรอบคัน 21 จุด แบ่งเป็นภายใน 19 จุด และภายนอก 2 จุด จาก HUAWEI SOUND Excellence Series มีช่องชาร์จมือถือไร้สายสองจุดกำลัง 50 kW และช่องเสียบ USB และขนาด 12 V

    AITOภายในเหนือกว่าด้วยห้องโดยสารนั่งสบายแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง และ 3 ตอน 7 ที่นั่ง หุ้มหนังแท้ NAPPA ตัดเย็บสวยหรูปรับด้วยไฟฟ้าทุกที่นั่งเริ่มที่ฝั่งคนขับปรับได้ 12 ทิศทางฝั่งคนนั่ง 8 ทิศทาง เบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับไฟฟ้าถึง 14 ทิศทาง พับได้แบบ 60/40 และตอนที่ 3 พับแบบ 50/50 มีพื้นที่วางของเบาะหลังตอนสาม 188 ลิตรและเมื่อพับเบาะตอนสามด้วยไฟฟ้ามีพื้นที่มากถึง 775 ลิตร ระบายอากาศและนวดได้ทั้งตอนหน้าและตอนที่ 2 พร้อมโทนสีทั้งสีดำ/สีครีม และสีดำ/สีส้มแดง ให้เลือก

    ขุมพลังเป็นแบบ PHEV-EVR (Extended Range Hybrid) ไฟฟ้าล้วนมาแบบมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อม V2L และ V2V โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร รหัส H15RT ทำหน้าที่ในการปั่นไฟ พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 42 kWh ให้ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบ่งเป็น 2 ทางเลือกเริ่มที่

    • รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้าในภาคเครื่องยนต์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง TZ210XY584 Huawei DriveONE motor ให้กำลังรวม 272 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนต่อการชาร์จ 1 ครั้งทำได้ 240 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 200 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC และถ้าชาร์จ 1 ครั้งกับน้ำมัน 1 ถังรวมกันวิ่งไกล 1,300 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 1,150 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.8 วินาที
    • รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้าในภาคเครื่องยนต์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Huawei DriveONE motor ล้อหน้าให้กำลัง 177 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง TZ210XY584 ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 449 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนต่อการชาร์จ 1 ครั้งทำได้ 210 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 175 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC และถ้าชาร์จ 1 ครั้งกับน้ำมัน 1 ถังรวมกันวิ่งไกล 1,250 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 1,050 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.8 วินาที

    AITO

    ทั้งคู่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ single speed electric motor direct drive ชาร์จได้สองรูปแบบทั้ง กระแสตรง DC ชาร์จภายใน 30 นาที 30-80% และชาร์จกระแสสลับ AC ภายใน 5 ชั่วโมง 20-90% ความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ Huawei ADS 2.0 และ LIDAR 192 จุด มาครบทั้งระบบช่วยเตือนจุดอับสายตาขณะขับขี่ Blind spot monitoring and warning (BSD), ช่วยเตือนการเปิดประตู Door opening warning (DOW), แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW), ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic emergency braking (AEB),  เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด Rear Cross Collision Alert (RCTA), ช่วยเตือนและเบรกเมือมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Collision Braking (RCTB),  เตือนการชนด้านหน้า Forward Cross Collision Alert (FCTA), เตือนการชนด้านหลัง Forward Cross Collision Braking (FCTB)

    ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหลังขณะขับขี่  Rear Collision Warning (RCW) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอยหลัง Rear Automatic Emergency Braking (RAEB), ช่วยเบรกอัตโนมัติยามฉุกเฉินในช่วงความเร็วต่ำ Low-speed automatic emergency braking (LAEB), แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW), ควบคุมรถให้อยู่ในเลน  Lane Keeping Assist (LKA), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน Emergency Lane Keeping Assist (ELKA)

    บอกข้อมูลป้ายสัญญาณจราจรและป้ายจำกัดความเร็ว Traffic Sign Recognition (TSR), แจ้งเตือนและลดความเร็ว Speeding Alert (TSA), เตือนสัญญารไฟจราจร Traffic light recognition (TLR), ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Assist (ACC), Lateral Obstacle Collision Prevention (LOCP), Automatic Emergency Braking (GAEB) for Abnormal Obstacles และหน่วงพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ Emergency Steering Assist (ESA) พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศาพ่วงกล้องมองหลัง

    AITO

    AITO M7 ULTRA ผลิตที่โรงงาน SERES โดยทาง Huawei ส่งอะไหล่ชิ้นส่วนของตัวรถ ซอฟท์แวร์ไปให้ เริ่มต้น ¥289,800- ¥329,800 หรือราว 1,475,000-1,679,000 บาท

    ที่มา CarNewsChina

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts