ต้องยอมรับเลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทในเมืองไทยมากขึ้น จากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ถาโถมเข้ามา
ทำให้เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนไทยที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถคันใหม่รุ่นใหม่หันมามองรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนเป็นที่แพร่หลายและรู้จักหลายแบรนด์ทั้งแบรนด์ที่อยู่มานานและน้องใหม่ และยิ่งช่วงนี้ได้อานิสงส์จากมาตรการจูงใจให้ซื้อรถไฟฟ้าในราคาที่ถูกลงทำให้ตัดสินใจซื้ออย่างง่ายดายวันนี้จึงรวบรวมรถไฟฟ้าจากจีน ที่โดนใจคนไทยที่สุดกันถึง 5 รุ่น 5 ยี่ห้อ
ORA Good Cat GT
น้องเหมียวที่แสนดีมาคราวนี้เปิดตัวน้องชายที่หน้าตาสปอร์ตดุขึ้นไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนด้านหลังโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้วพร้อมยางขนาด 215/50 R18 มาพร้อมกับดิสก์เบรกคาลิปเปอร์สีแดง ชุดแต่งสเกิร์ตหน้ากับหลัง หล่อเท่พร้อมการตกแต่งภายในแบบสีแดง-ดำอันเป็นเอกลักษณ์ สะดวกสบายไปกับเบาะคนขับที่ติดตั้งระบบบันทึกตำแหน่งและฟังก์ชัน Welcome Seat พร้อมเบาะระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าระบบแฮนด์ฟรี หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอ รองรับ Apple CarPlay และ Siri รองรับ Android Auto และ Google Assistant พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้าน พร้อมลำโพง 6 จุด เบาะหลังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 858 ลิตร มีระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)
ขุมพลังได้พัฒนาใหม่เป็นความจุแบตเตอรี่ Lithium-Ternary (NMC) 59.1 kWh แถมให้กำลังมากถึง 171 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง วิ่งไกลสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.9 วินาที พร้อม Fast Charge แค่ 30 นาที ได้มากถึง 30 – 80% เจ้าเหมียวสุดซาส์นี้มาโชว์ดักคอที่งาน Bangkok Motor Show 2022 ส่วนจะมีโอกาสขายจริงนั้นคาดว่าภายในปีนี้คงได้พบกัน
MG ZS EV
หนึ่งในค่ายรถเมืองจีนที่ได้รับอานิสงส์ของมาตรการฯ ด้วยหน้าตาใหม่ดีขึ้นกว่าเดิม ดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด และมีเสน่ห์ กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN ทรงปิดทึบ พร้อมขยับที่ชาร์จไปไว้ที่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ไฟท้ายแบบและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อม ราวหลังคาและหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ
ภายในปรับออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ โดยมีพื้นที่จุของ 448 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะลง60/40 จะมีพิ้นที่มากขึ้นเป็น 1,166 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อม พร้อม ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่พร้อมทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน
ขุมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นเร้าใจขึ้นวิ่งไกลขึ้นกว่าเดิมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWh ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport
การชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ โดย ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที ลกับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
– รุ่น D ราคาปกติ 1,189,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 949,000 บาท
– รุ่น X ราคาปกติ 1,269,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,023,000 บาท
Neta V
อีกหนึ่งของเอสยูวีไฟฟ้าที่จะเปิดราคาหลังจบงาน Bangkok Motor Show 2022 เด่นด้วยระบบ V2L สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งจ่ายไฟจากแบตเตอรี 3.3 kW พร้อมพลังไฟฟ้าโดยมีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดี่ยว single electric motor กับความจุแบตเตอรี่ Ternary Lithium Battery 38.54 kWh ให้กำลังมากถึง 95 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร โดยวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 380 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ความเร็วสูงสุด 101 กม./ชม. พร้อมการชาร์จปกติแบบ AC 0-100% ได้ 8 ชั่วโมงและชาร์จเร็ว DC 30-80% ได้ประมาณ 30 นาที ภายในครบครันด้วยความสบาย 5 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง จอสัมผัสขนาดใหญ่แนวตั้ง 14.6 นิ้ว รองรับคำสั่งภาษาไทย ที่เก็บสัมภาระด้านหลังก็กว้างจุใจ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดเล็กแต่มองชัดเจน พร้อมสีภายนอกถึง 5 สี ทั้ง สีฟ้าเซรามิก / สีฟ้าคราม / สีขาวไวท์สตรอม / สีเทา / สีชมพูซากุระ
BYD E6
เอ็มพีวีเจนใหม่พลังงานไฟฟ้า มาพร้อมขนาดตัวถังความยาว 4,690 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,670 มม. และระยะฐานล้อ 2,800 มม. ภายในเด่นที่หน้าจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ที่สามารถหมุนปรับจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ด้วย มาพร้อมเบาะแบบ 5 ที่นั่ง เบาะหนังปรับมือ ลายไม้สีดำเงาโดดเด่น พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 580 ลิตร ใช้แป้นเกียร์และเบรคมือแบบสวิตช์ไฟฟ้า ช่องแอร์หลัง และมีระบบกรองอากาศ CN95 ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ ทำให้คุณขับรถอย่างปลอดภัย ไร้กังวลเรื่องมลภาวะทางอากาศ แบตเตอรี่เป็นแบบ Blade Battery หรือแบตเตอรี่ทรงใบมีดที่ออกแบบให้บางและยาว มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดการลุกไหม้ ในส่วนของระยะการขับต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถขับได้ไกล 520 กิโลเมตร โดยมีความจุแบต 71.7 kWh ให้กำลังมากถึง 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. โดยราคาจำหน่ายคาดว่าอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท
Seres 5
เอสยูวีทรงหรูในเครือ DFSK หรือตงฟง เวอร์ชั่นไฟฟ้าด้วยความจุแบตเตอรี่ 90 kWh ให้กำลังมากถึง 694 แรงม้า แรงบิด 1,039 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 500 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.5 วินาที โดยเปิดตัวในไทยภายในปีนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางโรงงานผลิตทีจีนจะผลิตเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาออกมาหรือไม่