นี่คือสเอสยูวีรุ่นใหญ่สุดในตระกูล X ใหญ่กว่า BMW X7 ก็เป็นได้สำหรับ BMW XM สปอร์ตเอสยูวีรุ่นล่าสุดจากค่ายรถเมืองมิวนิก
จากต้นแบบ BMW Concept XM กลายมาเป็น BMW XM ตัวจริงเสียงจริงจนได้ฉายา ซูเปอร์เอสยูวี รหัส G09 ที่ให้พลังจัดจ้านพร้อมฟาดฟันเหล่าเอสยูวีสมรรถนะสูงจากแบรนด์ชั้นนำได้เต็มรูปแบบหล่อทั้งคันตั้งแต่กระจังหน้าทรงไตคู่อภิมหาบิ๊กล้อมกรอบสีทองใหญ่ไส้ในสีเงิน กับตรา XM มุมขวาของกระจังหน้า ไฟหน้ามาแบบสองชั้นแบบ LED คล้ายกับ BMW 7 Series, X7 LCI และ i7 ส่วนบนจะเป็นไฟ LED Daytime พร้อมเส้นแนวนอนคั่นกลางไว้ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED ดีไซน์เพรียวลงกว่าเดิมรับชุดกับกันชนหน้าขนาดใหญ่ในชุดฝากระโปรงหน้าออกแบบมีเหลี่ยมสันแต่มองเห็นชัดเจนในยามขับขี่ หลังคารถที่ลาดลง มีช่องเสียบปลั๊กตรงบังโคลนด้านซ้ายพร้อมขอบเส้นสีทองกับตราสัญลักษณ์ XM ลากยาวไปถึงกรอบกระจกเสา C ที่เปิดประตูดีไซน์ใช้งานง่าย กับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ เลือกได้ทั้งขนาด 21 นิ้วพร้อมยางหน้า 275/45 R21 110Y XL และยางหลัง 315/40 R21 115Y XL และมีขนาด 22 กับ 23 นิ้ว ให้เลือก
ด้านท้ายดีไซน์แยบยลและดุดันกับไฟท้าย LED เส้นเล็กยาวสีดำเงา มีช่องระบายอากาศติดมาด้วยในชุดกันชนหลังใส่ลิ้นสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ฝังท่อไอเสียแนวตั้ง 4 ท่อ สองฝั่ง กรอบสีทองสองฝั่ง และตราโลโก้ BMW ฝังไว้ที่กระจกรถนับเป็นครั้งแรกของค่ายที่ติตตราโลโก้ในลักษณะนี้ ส่วนตำแหน่งเดิมตราโลโก้ฟ้าขาวกลายเป็นที่ติดโลโก้ XM สีทองแทน ตัวรถแน่นอนว่าใหญ่กว่า BMW X7 ตั้งแต่ความยาว 5,110 มม. ความกว้าง 2,005 มม. ความสูง 1,755 มม. ฐานล้อ 3,105 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 220 มม. น้ำหนักรถ 3,300 กก. ความจุถังน้ำมัน 69 ลิตร
ภายในคล้ายกับต้นแบบแต่ปรับเข้ากับความเป็นรถขายจริงด้วยจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant โดยจอโค้งนี้เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลประกอบด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส Control Display ขนาดใหญ่ 14.9 นิ้วรวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ รองรับความบันเทิงหลากรูปแบบทั้ง Apple Carplay/Android Auto พร้อมระบบ iDrive 8 ติดตั้งลำโพงคุณภาพจากแบรนด์ Harman Kardon และ Bowers & Wilkins ที่มีกำลังขับสูงสุด 1,500 W ทั้งหมด 20 จุดรอบคันรวมถึงตำแหน่งบนหลังคารถอีก 4 จุด เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอุณหภูมิมากถึง 4 จุด ส่วนบนของแผงคอนโซลหน้ามาพร้อมจอแสดงผล Head Up Display มาให้พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์คุ้นเคย วัสดุผิวสัมผัสของชุดแผงคอนโซลหน้า แผงประตูหุ้มด้วยหนังคุณภาพสีน้ำตาล Vintage Coffee Merino เบาะนั่ง 5 ที่นั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Soft Nappa คู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบความจำ เบาะหลังนั่งสบายแต่หมอนรองศีรษะกลายเป็นแบบตายตัวสามารถพับเก็บได้เพิ่มพื้นที่ในการขนของมากถึง 1,820 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 527 ลิตร ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lights มากถึง 100 สี และยังมีกุญแจแบบ BMW Digital Key Plus
ขุมพลังแน่นอนว่าเป็นเบนซินเทอร์โบ V8 M TwinPower Turbo M HYBRID แบบ Plug-In Hybrid รหัส S68 4.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 490 แรงม้าที่ 5,400-7,200 รอบ/นาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ BMW eDrive ที่ให้กำลังมากถึง 197 แรงม้าที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 100-5,000 รอบ/นาที แต่สร้างแรงบิดได้สูงสุด 450 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ามากถึง 653 แรงม้าที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิด 800 นิวตันเมตรที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. (270 กม./ชม. เมื่อเลือก l M Driver’s Package ซื้อเพิ่ม)
ในส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 25.7 kWh แถมให้ความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. ในโหมดไฟฟ้าล้วนและวิ่งไกลสุด 82-88 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) รองรับการชาร์จช้า 7.4 kW AC 0 – 100% ภายใน 4.25 ชั่วโมง ทุกความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic มีปุ่ม M Hybrid เลือกโหมดการขับขี่สามแบบทั้ง HYBRID, ELECTRIC และ eCONTROL ขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมปรับเสียงเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้แตกต่างกันในแต่ละโหมดเพื่อสร้างความมันในการขับขี่ BMW Iconic Sounds Electric ออกแบบโดย Hans Zimmer ผู้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ พร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive M suspension อิสระสี่ล้อ และความปลอดภัยจัดเต็ม
ยังแนะนำรุ่นโหดกว่า Label Red มาพร้อมขุมพลังเดียวกันแต่ให้กำลังมากกว่ารุ่นปกติ 585 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 197 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร เมื่อทั้งสองทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุดที่ 748 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร
BMW XM เข้าสู่สายการผลิตจริงช่วงเดือนธันวาคมนี้ ขายช่วงต้นปีหน้าเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ผลิตที่โรงงานของ BMW Spartanburg รัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เน้นตลาดที่ อเมริกา จีน และตะวันออกกลาง ส่วนเมืองไทยจะมีโอกาสเข้าขายหรือไม่ต้องติดตาม