มีคนพบเห็นรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ที่มีลักษณะเหมือนรถ Kei car ของญี่ปุ่น ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 589,000 ล้านบาท ขณะทดสอบอยู่บนถนนและพรางตัวอย่างมิดชิด
BYD ยักษ์ใหญ่ยานยนต์ไฟฟ้าของจีน วางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไมโครคาร์ในปี 2025 โดยใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้นทุนต่ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระดับโลกที่กำลังขยายตัว Atsuki Tofukuji ประธานบริษัท BYD Japan ยืนยันในบทสัมภาษณ์กับ Financial Times ว่าบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดต่างประเทศเท่านั้น และไม่ขายในประเทศจีน
ตามที่รายงานก่อนหน้านี้ BYD วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัดในญี่ปุ่นหรือ Kei car ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยตั้งเป้าราคาไว้ที่ราว 2.5 ล้านเยน หรือประมาณ 566,000 บาท ถูกกว่า Dolphin ที่ขายในราคาประมาณ 2.9 ล้านเยน หรือประมาณ 658,000 บาท
รถ Kei Car รุ่นใหม่จะมีแบตเตอรี่ขนาด 20 kWh พร้อมระยะทางวิ่ง 180 กม. / WLTC รองรับการชาร์จเร็ว 100 กิโลวัตต์ และระบบปั๊มความร้อน HVAC มุ่งแข่งขันกับรถยนต์ Kei-car ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดของญี่ปุ่นอย่างตลาด Nissan Sakura และ Mitsubishi eK โดยในเดือนมีนาคม 2025 มียอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นไปแล้ว 4,530 คัน
การเคลื่อนไหวดังกล่าวสืบเนื่องมาจากความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นของ BYD ในตลาดต่างประเทศ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา BYD รายงานยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ประจำเดือน พ.ค. จำนวน 382,500 คัน เพิ่มขึ้น 15.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะในต่างประเทศอยู่ที่ 88,640 คัน เพิ่มขึ้น 133.6% จากปีที่ผ่านมา การส่งออก NEV ทั้งหมดในเดือนนี้อยู่ที่ 89,047 คัน และการติดตั้งแบตเตอรี่อยู่ที่ 28.48 GWh
BYD ขายรถยนต์ NEV ได้ 1.76 ล้านคันทั่วโลกในปีนี้ เพิ่มขึ้น 38.7% จากปีก่อน ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอยู่ที่ 1.74 ล้านคัน ขณะที่ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์พุ่งขึ้นกว่าห้าเท่าอยู่ที่ 27,726 คัน
BYD กำลังขยายฐานการผลิตในต่างประเทศ รวมถึงในประเทศไทยและอุซเบกิสถาน และมีการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในกัมพูชา บริษัทได้เปิดตัวกองเรือขนส่งรถยนต์เพื่อรองรับการส่งออก นายหน้าซื้อขายคาดการณ์ว่าการส่งออกของ BYD จะยังคงเพิ่มขึ้นในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งขึ้น และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ขยายตัว
ในเดือนเมษายน BYD แซงหน้า Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของยุโรปเป็นครั้งแรก ตามข้อมูลของ JATO Dynamics โดยสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 7,231 คันในยุโรป ซึ่งเพิ่มขึ้น 169% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ยอดขายของ Tesla ลดลงเหลือ 7,165 คัน ซึ่งลดลง 49%
นักวิเคราะห์คาดว่าการขยายตัวของ BYD ทั่วโลก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวยานยนต์อัจฉริยะและการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการผลิต จะช่วยผลักดันการเติบโตและผลกำไรที่ยั่งยืน ขณะที่เร่งส่งออกและเปิดตัวรุ่นเฉพาะภูมิภาค เช่น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กของญี่ปุ่นที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ BYD กำลังสร้างรากฐานให้กับตัวเองอย่างรวดเร็วในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
Source: CarNewsChina