มีรายงานข่าวออนไลน์แพร่สะพัดในจีนว่า BYD Sealion 6 (หรือที่รู้จักกันในจีนในชื่อ BYD Song Plus) ซึ่งทำยอดขายสะสมทั่วโลกไปแล้วกว่า 1.57 ล้านคัน กำลังจะยุติการผลิตในประเทศจีนในเร็ว ๆ นี้
ทางบริษัท BYD ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อ 21st Century Business Herald โดยยืนยันว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเพียง “การเปลี่ยนผ่านผลิตภัณฑ์ตามปกติ” เนื่องจากรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Sealion 06 (เป็นคนละรุ่นกับ Sealion 6) ได้ถูกเปิดตัวเข้ามาแทนที่ในไลน์อัปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Song Plus/ Sealion 6 เปิดตัวในปี 2021 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Ocean Network ของ BYD ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชื่อธีม “มหาสมุทร” และ “ดิจิทัล” โดย ณ เดือนพฤษภาคม 2568 เครือข่าย Ocean Network มียอดขายรวมสะสมถึง 4.85 ล้านคัน ซึ่ง Song Plus ถือเป็นแกนหลักที่ทำยอดขายสูงมาก
Sealion 06: ตัวตายตัวแทนที่ใหญ่กว่าและล้ำกว่า
BYD Sealion 06 SUV ถูกเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2568 และจะเข้ามารับหน้าที่เป็นทายาทโดยตรงของ Song Plus โดยมาพร้อมตัวเลือกทั้งรุ่น Plug-in Hybrid (DM-i) และรุ่น ไฟฟ้าล้วน (EV)
ราคาในจีน:
- PHEV : 139,800 – 156,800 หยวน (ประมาณ 636,662 – 714,082 บาท)
- EV : 143,800 – 163,800 หยวน (ประมาณ 654,878 – 745,960 บาท )
สเปกเด่นของ Sealion 06
1. ภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี:
- หน้าจอสัมผัสแบบลอยตัวขนาด 15.6 นิ้ว
- มาพร้อมระบบ DiLink 100 Infotainment ของ BYD
- อุปกรณ์มาตรฐานรวมถึง เบาะหน้ามีระบบทำความร้อนและระบายอากาศ, หลังคาพาโนรามิก 1.73 ตร.ม., และระบบเครื่องเสียง Dynaudio
2. ขุมพลัง:
- รุ่น Hybrid (DM-i): ใช้ระบบส่งกำลัง DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ของ BYD โดยจับคู่เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 160 kW เคลมระยะทางวิ่งรวม (Total Range) สูงถึง 1,670 กม.
- รุ่น EV (ไฟฟ้าล้วน): สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V พร้อมระบบขับเคลื่อน 12-in-1 และรองรับการชาร์จสูงสุดถึง 237 kW
วิเคราะห์การเปลี่ยนรุ่น
ถึงแม้ว่าจะมีเอกสารภายในหลุดออกมาว่าการผลิต Song Plus จะยุติลงหลัง “การจัดการวัสดุ” และ BYD ได้ยืนยันแค่เป็นการเปลี่ยนผ่านรุ่น แต่ Song Plus ก็ยังคงเป็นรถที่ขายดีอย่างต่อเนื่อง โดยทำยอดขายในจีนไปถึง 13,098 คัน ในเดือนสิงหาคม 2025
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมมองว่า การเปลี่ยนรุ่นนี้สอดคล้องกับโครงสร้างแบรนด์คู่ของ BYD ที่แยกไลน์อัป “Dynasty” และ “Ocean” ออกจากกัน และแม้ว่าชื่อ Song Plus อาจจะค่อย ๆ หายไปจากตลาดจีน แต่คาดว่าจะ ยังคงทำตลาดในต่างประเทศต่อไป เนื่องจากรุ่นนี้เป็น รุ่นส่งออกหลัก ของ BYD โดยมียอดส่งออกในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2025 ถึง 166,699 คัน
Source: CarNewsChina
