More

    BYD SONG L MY2025 เพิ่มระบบขับขี่อัจฉริยะเตรียมเผยจีน 30 สิงหาคม

    หลังทำตลาดที่เมืองจีนตั้งแต่ปีกลายสำหรับ BYD SONG L เอสยูวีไฟฟ้าทรงสปอร์ตที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมากตลอดจากชาวจีนผู้พิสมัยในเเรื่องเทคโนโลยี

    ล่าสุด BYD ส่งภาพ Official อย่างเป็นทางการโชว์ด้านท้ายทรงเสน่ห์สำหรับเอสยูวีรุ่นเด่นแห่งตระกูล Dynasty กับ BYD SONG L MY2025 หรือรุ่นปรับปรุงใหม่

    ภายนอก Exterior

    BYD

    หน้าตายังคงเดิมด้วยดีไซน์เด่นในร่าง Fastback SUV ชุดกันชนหน้าจุดซ้าย-ขวา มีไฟ DRL ทรงตัว T ติดตั้งอย่างหล่อและไม่มีครีบระบายอากาศที่มุมขอบกันชนหน้าไฟหน้า LED 3 ดวง กับตรา Song ภาษาจีน ที่เด่นสง่า ด้านข้างดุดันด้วยช่องระบายอากาศสีดำซ้าย-ขวากระจกมองข้างมาแบบทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเรียบเนียนกลมกลืนกับตัวถังรถ กระจกรถไร้กรอบแบบ Hardtop เป็นสไตล์โอเปร่าพร้อมเสา A ตกแต่งสีดำ

    ล้ออัลลอย 5 ก้านทรงเท่ ด้านท้ายสวยงามด้วยไฟท้าย LED แนวยาว ฝากระโปรงท้ายติดตั้งสปอยเลอร์แบบกางปีกออกได้ด้วยระบบไฟฟ้าและใต้ชุดไฟท้ายมาครั้งนี้ใช้โลโก้ตัวอักษร BYD แทนคำว่า Build Your Dreams สวยด้วยกันชนหลังออกแบบใหม่พร้อมลิ้นสปอยเลอร์สีดำใต้กันชนหลัง โดยมารูปแบบการดีไซน์แบบ Pioneering Longyan Aesthetics โดยยังใช้แพลตฟอร์ม e-platform 3.0 เช่นเดิม

    • ความยาว 4,840 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,950 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,560 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,930 มิลลิเมตร

    ภายใน Interior 

    BYD

    ล้ำกว่าเริ่มที่เริ่มชุดแผงคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายซ่อนความทันสมัยล้ำหน้าในตัวติดตั้งชุดมาตรวัดความเร็วแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้วตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่สามารถเป็นทั้งแนวตั้งและนอนสามารถหมุนจอได้ ขนาด 15.6 นิ้ว ถัดลงมาจะเป็นปุ่มใต้จอสามปุ่มช่องแอร์แล็กสี่ช่องแนวตั้ง หัวเกียร์คริสตัล ที่วางแก้วแม้กระทั่งที่ชาร์จมือถือแบบไร้สายในชุดคอนโซลลกางพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่สองชั้นคั่นกลางด้วยวัสดุหนังสัมผัสใต้ล่างจะเป็นช่องเสียบ USB C

    โทนสีการตกแต่งภายในจะออกแนวสีเทาเข้ม/สีเบจพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงท้ายตัดและเบานั่งทรงสปอร์ตโอบกระชับและเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 และจอแสดงข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า Head Up Display แบบ AR ขนาดใหญ่ 50 นิ้ว

    สมรรถนะ Performance

    พลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium iron phosphate (LFP) Blade Battery เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถเรียกว่า Cell To Body หรือ CTB แบบเดียวกันที่ใช้ใน BYD ATTO3, BYD SEAL และ BYD Dolphin

    มีด้วยกันสามรุ่นย่อยตั้งแต่รุ่น Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง RWD พร้อมความจุแบตเตอรี่ 71.8 kWh ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า วิ่งไกลสุด 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.6 วินาที

    ขยับมาที่รุ่น Extended Range ยังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังความจุแบตเตอรี่เท่ากันแต่ให้กำลังมากถึง 313 แรงม้า วิ่งไกลสุด 662 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที

    รุ่นท็อป AWD Performance ขับเคลื่อนสี่ล้อมเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมความจุแบตเตอรี่ 87.04 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 517 แรงม้า จากมอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 204 แรงม้า และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงม้าวิ่งไกลสุด 602 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.3 วินาที

    ทุกขนาดความแรงให้ความเร็วสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อชั่วโมงส่วนระยะเวลาการชาร์จทั้งแบบกระแสตรง DC กับ กระแสสลับ AC และรองรับ V2L เชื่อมต่อการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบอีกจุดเด่นที่จะเรียกเสียงฮือฮาได้นั่นก็คือช่วงล่างถุงลมแบบ DiSus-A เพื่อการเดินทางสะดวกสบาย

    ในรุ่นปรับปรุงใหม่ MY2025 มีการเพิ่มระบบขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง DiPilot 100 Eye of God อาศัยการทำงานร่วมกับเรดาห์อัลตราโซนิก 12 ตัว เรดาห์คลื่น 5 ตัว และกล้อง 11 ตัว พร้อมฟังก์ชันการขับเคลื่อนที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทางความเร็วสูง ช่วยจอดรถอัตโนมัติ ช่วยจอดรถระยะไกลและระยะใกล้ด้วยมือถือ การเปลี่ยนเลน เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย

    BYD Song L MY2025 คาดยังคงขาย 5 รุ่นย่อยที่เมืองจีนโดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 สิงหาคม ที่งาน Chengdu Auto Show 2024

    ที่มา AUTOHOME

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts