การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกของคนที่อยากประหยัดหรือยังไม่พร้อมออกรถใหม่ป้ายแดง แต่นอกจากตรวจเช็กสภาพรถ ลองขับ หรือตรวจสอบประวัติรถแล้ว “เลขไมล์” ก็มีความสำคัญและเป็นจุดสังเกตที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกรถมือสองเช่นกัน วันนี้ลองมาดูวิธีการสังเกตุดูเลขไมล์ก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองกันดูค่ะ
สาเหตุที่เลขไมล์มีความสำคัญ เป็นเพราะตัวเลขไมล์หรือเลขบอกระยะทางเป็นตัวเลขแสดงจำนวนระยะทางการใช้งานของรถคันนั้น ซึ่งระยะทางการใช้งานก็ส่งผลต่อความสึกหรอหรืออายุการใช้งานของตัวรถ ดังนั้นการดูเลขไมล์ก่อนซื้อรถมือสองจึงเป็นตัวช่วยบอกได้ว่าหากซื้อรถคันนั้นไปต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการซ่อมบำรุงที่อาจตามมาในอนาคต
โดยทั่วไปแล้วรถคันหนึ่งหากวิ่งทุกวันอาจมีเลขไมล์เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 10,000-20,000 กิโลเมตร ส่วนเงื่อนไขการรับประกันรถโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 100,000 กิโลเมตรหรือ 3 ปี ซึ่งเลขไมล์เหล่านี้เป็นตัวช่วยประเมินได้ว่ารถคันนั้นใช้งานมาหนักมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับอายุของรถ
ตัวอย่างเช่น หากรถออกปี 2018 เลขไมล์อยู่ที่ 120,000 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นปี 2022 ซึ่งผ่านอายุการใช้งานที่รับประกันคือ 3 ปีมาแล้ว ส่วนเลขไมล์อยู่ที่ 120,000 กิโลเมตรซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย เท่ากับว่ารถคันนั้นอาจผ่านการใช้งานมาหนักกว่ารถทั่วไป อุปกรณ์ต่าง ๆ ย่อมสึกหรอมากกว่าปกติ
ดังนั้นหากต้องการซื้อรถมือสองแล้ว การมองหารถมือสองที่มีอายุการใช้งานไม่นานจนเกินไปก็อาจคุ้มกว่า และไม่ต้องกังวลกับการซ่อมจุกจิก เพราะเลขไมล์สามารถบอกการใช้งานของรถมือสองได้นี่เองทำให้ผู้ขายหลายคนหัวหมอทำการกรอเลขไมล์เพื่อหลอกให้ดูเหมือนรถผ่านการใช้งานมาไม่หนัก
หากต้องการนำข้อมูลเลขไมล์มาช่วยตัดสินใจในการซื้อรถมือสองจริง ๆ ก็สามารถตรวจสอบผ่าน Book Service เพราะทุกครั้งเมื่อนำรถเข้าศูนย์ ทางศูนย์บริการจะต้องบันทึกข้อมูลของรถที่เข้ารับบริการทุกครั้งรวมถึงเลขไมล์เมื่อนำรถไปตรวจเช็กด้วย วิธีนี้ก็จะช่วยให้เห็นทั้งเลขไมล์ของรถและได้เช็กว่ารถคันนั้นผ่านการซ่อมอะไรมาบ้าง
หากใครคิดจะซื้อรถมือสองอย่าลืมดูเลขไมล์ นำเลขไมล์ไปเปรียบเทียบกับสภาพรถ และตรวจเช็กสภาพของรถก่อนตัดสินใจซื้อด้วย เพื่อให้ได้รถมือสองที่สภาพดี คุ้มค่าน่าใช้งานมากที่สุด หากไม่อยากเสี่ยงในการซื้อรถมือสองแล้วโดนย้อมแมวขาย การซื้อรถมือสองกับศูนย์บริการรถยนต์ที่ไว้ใจได้ก็น่าจะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์มากกว่า
สนใจดูรถมือสองคุณภาพพรีเมี่ยม ได้ที่ : Car2day มือสอง