More

    ปัญหาไฟแนนซ์ส่งผลตลาดรถยนต์ 11 เดือนซึมต่อไม่ถึง 6 แสนคัน

    ตลอด 11 เดือนที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ไทยยังชะลตัวเช่นเดิมและคาดว่ายอดขายทั้งปีจะไม่ถึง 6 แสนคันอย่างแน่นอนจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจกำลังซื้อจำกัดและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่ยังเป็นปัญหาเรื้อรัง

    Toyotqa

    ส่งผลให้ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน (มกราคม-พฤศจิกายน 2567) 518,659 คัน ลดลง 26.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขายสะสม 203,421 คัน ลดลง 23.6% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 315,328 คัน ลดลง 28.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน รวม PPV ยอดขายทั้งหมด 181,286 คัน ลดลง 39.8%

    เดือนพฤศจิกายนลดลงติดต่อกัน 42,309 คัน ลดลง 31.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,000 คัน ชะลอตัวที่ 26.7% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 24,309 คัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 34.4% และรถกระบะขนาด 1 ตันรวม PPV มียอดขาย 14,435 คัน ลดลง 34.7%

    ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 14,988 คัน คิดเป็นสัดส่วน 35% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV 8,373 คัน คิดเป็นสัดส่วน 56% ของตลาด xEV ทั้งหมดเติบโตลดลง 20% และยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 5,870 คัน คิดเป็นสัดส่วน 39% จากยอดขายในกลุ่ม xEV ทั้งหมด ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    ตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น จากยอดจองทั้งหมดรวมทุกยี่ห้อและประเภทรถยนต์ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่มาพร้อมกับรถยนต์รุ่นใหม่และแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายปลายปี ที่แต่ละค่ายต่างขนกันมาแบบจัดเต็ม ทำยอดจองได้ถึง 54,513 คัน เติบโตขึ้น 2.38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการผลักดันตลาดรถยนต์เดือนธันวาคมให้เติบโตขึ้นได้

    BYDเป็นที่น่าสังเกตุว่ายอดขายรถยนต์สะสม 11 เดือนในส่วนของรถยนต์นั่งทาง BYD ทำยอดโตลดลง 127.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.8% จากตัวเลข 17,951 คัน จากปริมาณการขายรวม 203,421 คัน ลดลง 23.6% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วปีนี้ถึง 259.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.8% จากตัวเลข 16,230 คัน จากปริมาณการขายรวม 185,421 คัน ลดลง 23.3%

    เหตุผลเดิมนั่นคือมีการเปิดรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีทั้งแบบนำเข้าและประกอบไทยทั้ง BYD ATTO 3 MY2024, BYD Dolphin MY2024 CKD, BYD SEALION 6 DM-i CKD, BYD M6 และ BYD SEALION 7 ที่เปิดตัวในงาน Motor Expo 2024

    Mitsubishi

    ทางด้าน Mitsubishi ในตลาดรถยนต์นั่งกลับเติบโต 67.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1% ด้วยต้วเลข 1,461 คัน ทำให้สะสม 111 เดือนทำได้ 16,640 คัน เพิ่มขึ้น 16.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.2% จากอภินิหาร Mitsubishi XPANDER HEV มาเรื่อยๆแต่โตต่อเนื่อง

    ISUZU

    นอกจากนี้กลุ่มรถอเนกประสงค์ดัดแปลงจากรถปิกอัพหรือ PPV ISUZU MU-X The Next Peak หลังเปิดขายตั้งแต่ 18 มิถุนนายน กลับเสียแชมป์ PPV อันดับ 1 ที่ครองมาถึง 4 เดือน (มิถุนายน-ตุลาคม) โดยเดือนพฤศจิกายนตกมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยตัวเลข 918 คัน ลดลง 38.8% ส่วนแบ่งการตลาด 31.1% ทำให้สะสม 11 เดือนทำได้ 11,121 คัน ลดลง 43.1% ส่วนแบ่งตลาด 34.4% จากยอดขาย 32,349 คัน ลดลง 42.0%

    สาเหตุเป็นช่วงคาบเกี่ยวการเปิดตัวรุ่นเครื่องใหม่ 2.2 Ddi MAX FORCE พร้อมกับปิกอัพ D-MAX จับตาขุมพลังใหม่..กำหนดโลกจะสามารถกลับมาเป็นที่ 1 ได้หรือไม่?

    ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2567

    Toyota

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า           17,107 คัน  ลดลง  21.2%  ส่วนแบ่งตลาด  40.4%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 6,068 คัน  ลดลง  41.7%  ส่วนแบ่งตลาด  14.3%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า              4,874 คัน  ลดลง  33.5%  ส่วนแบ่งตลาด  11.5%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ             2,155 คัน  ลดลง  1.4%   ส่วนแบ่งตลาด  5.1%

    อันดับที่ 5 บีวายดี               1,998 คัน  ลดลง 55.7% ส่วนแบ่งตลาด  4.7%

    BYD

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,000 คัน ลดลง 26.7%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             5,751 คัน  ลดลง  23.4% ส่วนแบ่งตลาด  32.0%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า              3,829 คัน  ลดลง  2.5%  ส่วนแบ่งตลาด  21.3%

    อันดับที่ 3 บีวายดี               1,721 คัน  ลดลง  48.9% ส่วนแบ่งตลาด  9.6%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ              1,461 คัน เพิ่มขึ้น  67.5% ส่วนแบ่งตลาด  8.1%

    อันดับที่ 5 เอ็มจี                   977 คัน  ลดลง  47.1% ส่วนแบ่งตลาด  5.4%

    Toyota

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 24,309 คัน ลดลง 34.4%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             11,356 คัน  ลดลง   20.0%  ส่วนแบ่งตลาด  46.7%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                   6,068 คัน  ลดลง  41.7%  ส่วนแบ่งตลาด  25.0%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                  1,603 คัน  ลดลง   31.0%  ส่วนแบ่งตลาด   6.6%

    อันดับที่ 4 ฮอนด้า                 1,045 คัน ลดลง   69.3%   ส่วนแบ่งตลาด   4.3%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ                  694 คัน ลดลง   47.2%   ส่วนแบ่งตลาด   2.9%

    ISUZU

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pickup กับรถ PPV) ปริมาณการขาย 14,435 คัน ลดลง 34.7%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             6,521 คัน  ลดลง   23.7%   ส่วนแบ่งตลาด   45.2%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 5,251 คัน  ลดลง   44.0%   ส่วนแบ่งตลาด  36.4%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                1,603 คัน  ลดลง   31.0%   ส่วนแบ่งตลาด  11.1%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                694 คัน  ลดลง   47.1%   ส่วนแบ่งตลาด   4.8%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   203 คัน  ลดลง   55.1%   ส่วนแบ่งตลาด  1.4%

    Ford

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,481 คัน ลดลง 35.7%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             5,327 คัน  ลดลง   25.2%   ส่วนแบ่งตลาด   46.4%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 4,333 คัน  ลดลง   45.0%   ส่วนแบ่งตลาด   37.7%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                  963 คัน   ลดลง   34.9%  ส่วนแบ่งตลาด   8.4%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                545 คัน  ลดลง   39.8%   ส่วนแบ่งตลาด   4.7%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                  150 คัน  ลดลง   59.9%   ส่วนแบ่งตลาด  1.3%

    ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ปริมาณการขาย 2,954 คัน ลดลง 30.5%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า          1,194 คัน  ลดลง   16.0%   ส่วนแบ่งตลาด  40.4%

    อันดับที่ 1 อีซูซุ                 918 คัน  ลดลง   38.8%   ส่วนแบ่งตลาด  31.1%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                640 คัน  ลดลง   24.3%   ส่วนแบ่งตลาด   21.7%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ              149 คัน  ลดลง   63.3%  ส่วนแบ่งตลาด   5.0%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                 53 คัน  ลดลง   32.1%   ส่วนแบ่งตลาด   1.8%

    สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567

    Honda

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 518,659 คัน ลดลง 26.7 %

    อันดับที่ 1 โตโยต้า            199,487 คัน  ลดลง  17.5%   ส่วนแบ่งตลาด  38.5%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 77,429 คัน   ลดลง  45.3%   ส่วนแบ่งตลาด  14.9%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า              67,322 คัน   ลดลง  20.3%   ส่วนแบ่งตลาด 13.0%

    อันดับที่ 4 บีวายดี              25,530 คัน   ลดลง 3.2%     ส่วนแบ่งตลาด  4.9%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ             24,640 คัน   ลดลง 19.1%    ส่วนแบ่งตลาด  4.8%

    MG

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 203,421 คัน ลดลง 23.6%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             59,784 คัน  ลดลง  35.0%  ส่วนแบ่งตลาด  29.4%

    อันดับที่ 2 ฮอนด้า              41,169 คัน  ลดลง  19.7%  ส่วนแบ่งตลาด  20.2%

    อันดับที่ 3 บีวายดี              17,951 คัน  เพิ่มขึ้น 127.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.8%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ             16,640 คัน เพิ่มขึ้น 16.4%  ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

    อันดับที่ 5 เอ็มจี                11,500 คัน  ลดลง 33.6% ส่วนแบ่งตลาด  5.7%

    Mitsubishi

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 315,238 คัน ลดลง 28.5%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า           139,703 คัน ลดลง   6.7%    ส่วนแบ่งตลาด  44.3%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                77,429 คัน  ลดลง   45.3%   ส่วนแบ่งตลาด  24.6%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า              26,153 คัน  ลดลง   21.3%    ส่วนแบ่งตลาด  8.6%

    อันดับที่ 4 ฟอร์ด                19,023 คัน  ลดลง   43.4%   ส่วนแบ่งตลาด  6.0%

    อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ               8,000 คัน  ลดลง   50.5%  ส่วนแบ่งตลาด   2.5%

    Nissan

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pickup และรถ PPV) ปริมาณการขาย 181,286 คัน ลดลง 39.8%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า            82,940 คัน  ลดลง   29.8%   ส่วนแบ่งตลาด   45.8%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                67,267 คัน  ลดลง   47.1%   ส่วนแบ่งตลาด   37.1%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด               19,023 คัน  ลดลง   43.4%   ส่วนแบ่งตลาด  10.5%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                7,951 คัน  ลดลง   50.6%   ส่วนแบ่งตลาด   4.4%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                  2,684 คัน  ลดลง   37.1%   ส่วนแบ่งตลาด   1.5%

    ISUZU

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 148,937 คัน ลดลง 39.3%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             71,464 คัน  ลดลง   26.9%   ส่วนแบ่งตลาด  48.0%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 56,146 คัน  ลดลง   47.9%   ส่วนแบ่งตลาด  37.7%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                 11,736 คัน  ลดลง   48.2%   ส่วนแบ่งตลาด   7.9%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ                5,913 คัน  ลดลง   51.3%   ส่วนแบ่งตลาด   4.0%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   2,257 คัน  ลดลง  29.5%   ส่วนแบ่งตลาด   1.5%

    ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ปริมาณการขาย 32,349 คัน ลดลง 43.0%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า             11,476 คัน  ลดลง   43.5%   ส่วนแบ่งตลาด   35.5%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ                 11,121 คัน  ลดลง   43.1%   ส่วนแบ่งตลาด  34.4%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด                7,287 คัน  ลดลง   33.5%   ส่วนแบ่งตลาด   22.5%

    อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ              2,038 คัน  ลดลง   48.1%   ส่วนแบ่งตลาด   6.3%

    อันดับที่ 5 นิสสัน                   427 คัน  ลดลง  59.9%   ส่วนแบ่งตลาด   1.3%

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts