Chevrolet แบรนด์เก่าแก่อีกแบรนด์หนึ่งกำลังจะออกจากตลาดจีน ภายใต้อดีตยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ SAIC-GM ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างจีนและอเมริกา กำลังเผชิญกับส่วนแบ่งการตลาดที่หดตัวลง และกำลังเตรียมที่จะ “ปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์” ให้กับแบรนด์ในประเทศจีน เพื่อหยุดการขาดทุน
ยอดขายของ Chevrolet ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปีติดต่อกันในประเทศจีน โดยในปี 2018 ขายรถได้กว่า 640,000 คัน ในขณะที่ในปี 2023 ขายได้เพียง 168,588 คันเท่านั้น ตามข้อมูลที่ติดตามโดย China EV DataTracker อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่จุดต่ำสุด เพราะในปี 2024 ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากยอดขายที่ลดลงถึง 68.7% เหลือแค่เพียง 52,774 คัน
และนั่นอาจยังไม่ถึงระดับต่ำสุด ใน 4 เดือนแรกของปี 2025 เชฟโรเลตขายรถได้เพียง 5,314 คัน ลดลงถึง 75.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็นยอดขายเฉลี่ย 1,300 คันต่อเดือน
ยอดขายปลีกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของเชฟโรเลตในจีนตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 – เมษายน 2025 เครดิต: China EV DataTracker
ตามรายงานจาก Zaker ซึ่งเป็นร้านค้าในจีน โปรเจ็กต์ของเชฟโรเลตทั้งหมดที่ไม่ใช่ SORP (Start of Regular Production) ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรืออาจจะเรียกได้ว่า ยกเลิก
รวมไปถึงรุ่นที่มีชื่อรหัสภายในว่า C223, C1YC-2 และ D2UC-2 ICE รายงานระบุว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่อยู่ในระหว่างการผลิตจำนวนมากจะถึง EOP (End of Production) ในเร็วๆ นี้
C223 ควรจะเป็นรถ SUV ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมด (Trail EV) ส่วน C1YC-2 เป็นรถ SUV เรือธง และ D2UC-2 ICE เป็นชื่อรหัสใหม่ของ TrailBlazer โมเดลที่ปรับสำหรับจีน ซึ่งโมเดลทั้งหมดนี้ พร้อมที่จะเปิดตัวสู่ตลาดจีนภายในสิ้นปี 2023 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาของ Chevy ในประเทศจีน ทำให้ไม่เปิดตัวและโครงการดังกล่าวก็ล้มเหลวในที่สุด
ในการตอบสนองต่อรายงานล่าสุด Lu Xiao ผู้จัดการทั่วไปของ SAIC-GM กล่าวว่า “ข่าวลือที่ว่าแบรนด์ จะถอนตัวออกจากจีนนั้นเป็นข่าวปลอม” และสัญญาว่า “เราจะไม่ยอมแพ้กับแบรนด์ Chevrolet”
Source: CarNewsChina