การขับขี่เป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยสมรรถภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างครบถ้วน โรคบางอย่างสามารถส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับรถ จนทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถได้รับใบอนุญาตขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้ใช้ถนนคนอื่น มาดูกันว่าโรคใดบ้างที่จัดอยู่ในกลุ่ม ” 9 โรคห้ามขับรถ”
1. โรคทางสมองและระบบประสาท
โรคทางสมองและระบบประสาท เช่น โรคสมองเสื่อม หรือโรคที่ทำให้การสั่งการและประสานงานของร่างกายผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อความจำ การตัดสินใจ และสมาธิ ผู้ป่วยอาจหลงลืมเส้นทาง หรือตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่ทันเวลา ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุที่รุนแรง
2. โรคเบาหวาน (ระยะควบคุมไม่ได้)
ในระยะที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจเกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำอย่างฉับพลัน ซึ่งส่งผลให้หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ตาพร่า หรือแม้กระทั่งหมดสติ อาการเหล่านี้เสี่ยงต่อการสูญเสียการควบคุมรถและก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
3. โรคลมชัก
โรคลมชักทำให้เกิดอาการชักโดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งมักเกิดจากความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าในสมอง หากผู้ป่วยเกิดอาการขณะขับรถ จะสูญเสียการควบคุมทันที และเพิ่มความเสี่ยงต่อการชนหรืออุบัติเหตุร้ายแรง
4. โรคความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ แขนขาอ่อนแรง หรือรุนแรงถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตก หากเกิดขึ้นในขณะขับรถ ผู้ป่วยอาจไม่สามารถบังคับรถได้ ส่งผลอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้อื่น
5. โรคหัวใจ
โรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ สามารถกำเริบได้จากความเครียดขณะขับรถ หากเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือหัวใจวายเฉียบพลัน จะทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
6. โรคข้ออักเสบหรือข้อเสื่อม
ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบหรือข้อเสื่อมอาจพบปัญหาในการเคลื่อนไหวและความสามารถในการควบคุมพวงมาลัย เบรก หรือคันเร่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว เช่น การจราจรหนาแน่น ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
7. โรคเกี่ยวกับสายตา
โรคที่ส่งผลต่อการมองเห็น เช่น ต้อกระจก ต้อหิน หรือจอประสาทตาเสื่อม ทำให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ลดลง และมีความเสี่ยงในการแยกแยะสิ่งกีดขวางหรือป้ายจราจรต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียง สามารถแก้ไขได้ด้วยการใส่แว่นตาที่เหมาะสม
8. โรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสันทำให้ผู้ป่วยมีอาการมือเท้าสั่นและกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ส่งผลต่อการควบคุมพวงมาลัยและการตอบสนองต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้า สมรรถภาพร่างกายที่ลดลงนี้ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุ
9. โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมองอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรง แขนขาไม่มีแรง หรือหมดสติในทันที หากเกิดอาการกำเริบขณะขับรถ จะส่งผลต่อการควบคุมรถยนต์และอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาที่คุณไปทำใบขับขี่จึงต้องมีเอกสารใบรับรองแพทย์ไปด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดความเสี่ยงจากโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อการควบคุมรถ การตรวจสุขภาพและปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความปลอดภัยของคุณเพียงคนเดียว แต่ยังช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ อีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ
รถแบบไหนนำมาวิ่งบนถนนไม่ได้? ห้ามฝ่าฝืนกฎหมาย ระวังโดนจับปรับ!
รู้หรือไม่ รถป้ายแดงห้ามขับออกต่างจังหวัด อัปเดตกฎหมายรถป้ายแดง 2567