การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล MotoGP World Championship 2022 ได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว แต่ละค่ายต่างงัดอาวุธลับที่ตัวเองวิจัยไว้ออกมาติดตั้งบนรถและลงวิ่งทดสอบ ซึ่งค่ายที่น่าสนใจที่สุดยังคงเป็น Ducati ค่ายแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่
การปรับมาใช้ ECU ส่วนกลางในปี 2016 และระบบแช่แข็งการพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับค่ายที่ทำผลงานได้ดี นั่นทำให้ค่ายต่างๆ นั้นหันมาควานหาประสิทธิภาพตัวรถจากส่วนอื่นๆ แทนเพื่อให้สามารถคงความได้เปรียบเหนือค่ายอื่น และประเด็นนี้นั้นเป็นสิ่งที่ Ducati ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเทรนด์เสมอมา
Ducati ได้ริเริ่มการพัฒนาส่วนต่างๆ ของรถนอกเหนือจากเครื่องยนต์ ในปี 2015 พวกเขาริเริ่มนำหลักอากาศพลศาสตร์มาใช้โดยการติดตั้งวิงเลตไว้ที่ส่วนหน้าของรถ ทำให้หลายทีมต่างพากันก็อปปี้ ก่อนที่จะถูกสั่งห้ามการใช้หลังจบปี 2016 เนื่องจากค่าใช้จ่ายของแต่ละทีมที่พุ่งสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่อาจหยุดยั้งการใช้อากาศพลศาสตร์กับตัวรถได้ โดยทีมแข่งต่างๆ หันไปปรับเปลี่ยนแฟริ่งให้มีลักษณะในการสร้างคุณประโยชน์ทางอากาศพลศาสตร์แทน และนั่นทำให้ทางผู้จัดการแข่งขันต้องออกกฎใหม่มาอีกครั้ง โดยจำกัดการเปลี่ยนแอโรแฟริ่งเพียง 1 ครั้ง/ปี
จากนั้นในปี 2018 Ducati ก็ได้ริเริ่มการนำอุปกรณ์โฮลช็อตมาใช้ ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์ทางแมคานิคที่ไว้ใช้ปรับเปลี่ยนความสูงของส่วนท้ายรถ (อุปกรณ์การปรับเปลี่ยนความสูงทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นถูกสั่งห้ามใช้)
แนวคิดของโฮลช็อตก็คือ การลด CG ของตัวรถลงเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนหน้ารถยกลอยขึ้นมาในขณะออกตัว ซึ่งมันเป็นหลักการเดียวกันกับแอโรแฟริ่งที่ช่วยสร้างแรงกดในส่วนหน้ารถเอาไว้ Ducati ได้พัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้จนสามารถใช้งานเมื่อรถแข่งออกจากโค้งได้ นอกเหนือจากเพียงแค่ใช้ในการออกตัว
เมื่อความสูงของรถถูกกดต่ำลง รวมกับดาวน์ฟอร์ซที่ได้จากปีกบนแฟริ่ง Ducati จึงไม่ต้องทำระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้องกันล้อหน้าลอย อีกทั้งยังช่วยให้ความเร็วสูงสุดของตัวรถเพิ่มขึ้นไปอีก
อุปกรณ์ปรับความสูงของรถนี้จะคืนค่าปกติของช่วงล่างเมื่อนักบิดทำการเบรก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า Ducati จะไม่ยุติการพัฒนาเพียงเท่านั้น ที่เซปังหลายคนได้สังเกตเห็นอุปกรณ์ปรับความสูงของรถ Ducati ใหม่ โดยมันสามารถกดระดับความสูงทั้งหน้าและหลังรถในการวิ่งรอบสนามได้
“ใช่… เรากำลังปรับแต่งให้มันทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งมันต้องใช้เวลา” Johann Zarco นักบิดสังกัด Pramac เปิดเผยออกมาเล็กน้อย
ชัดเจนว่า Ducati นั้นยังคงต้องการความเร็วสุงสุดเพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งๆ ที่ตอนนี้พวกเขาเป็นค่ายที่มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดบนกริด โดย Francesco Bagnaia นั้นทำความเร็วสูงสุดในระหว่างการทดสอบได้ 336.4 km/h เป็นรองเพียงแค่ Honda ของ Marc Marquez ที่ทำความเร็วสูงสุดไว้ 337.5 km/h
อ้างอิง : motorsport.com
