เป็นเคสสุดประหลาด เตือนใจผู้ใช้รถ EV ทุกท่านได้เป็นอย่างดี เมื่อการนำรถยนต์มาติดฟิล์ม ดันบานปลายกลายเป็นเหตุให้แบตรถเหลือ 0% จะชาร์จก็ชาร์จไม่เข้า เลยต้องส่งรถเข้าศูนย์ยกใหญ่เลยทีเดียว!
โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น เมื่อหนุ่มเจ้าของรถ EV คันหนึ่งนำรถมาติดฟิล์มกันรอยที่ร้านติดตั้งฟิล์ม ณ ตอนนั้น แบตเตอรี่รถอยู่ที่ประมาณ 35% ก็ดูจะไม่มีอะไร
แต่หลังจากร้านติดฟิล์มเสร็จเรียบร้อย และกำลังนำรถเคลื่อนขึ้นรถสไลด์เพื่อส่งคืน ปรากฏว่าแบตเตอรี่รถดันเหลือ 0% โดยไม่รู้สาเหตุ เท่านั้นไม่พอ พยายามชาร์จฉุกเฉินก็แล้ว แต่กลายเป็นว่าชาร์จไม่เข้าเสียอย่างนั้น!
หนุ่มเจ้าของรถเลยต้องสไลด์รถไปที่ศูนย์บริการแห่งแรกที่ใกล้ที่สุด แต่ช่างไม่สะดวกมาดูให้ เลยต้องจอดรถจนแบตเตอรี่ 12V หมดอีก สาเหตุมาจากการที่เจ้าของไม่ได้ล็อครถ เพราะกลัวจะเปิดรถไม่ได้
รถจึงถูกส่งต่อไปยังศูนย์หลัก (ที่ออกรถ) พร้อมส่งกุญแจสำรองให้ โดยเบื้องต้น ช่างที่ศูนย์หลักวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดจากการเปิดระบบหรือเปิดโหมดกลางทิ้งไว้หลายวันระหว่างติดฟิล์ม ทำให้แบตหลักส่งไฟไปเลี้ยงแบต 12V จนหมด พอช่างศูนย์หลักเปลี่ยนแบต 12V ระบบจึงกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ทำการเริ่มชาร์จฉุกเฉินอีกครั้ง ช่างแจ้งว่าไฟเริ่มเข้าแล้ว แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 9-12 ชม.
เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าของรถโทรสอบถามกับทางศูนย์หลัก แต่ปรากฏว่ายังไม่ได้เริ่มทำการชาร์จ เพราะกลัวว่าถ้าชาร์จตอนกลางคืนจะมีปัญหา เจ้าของรถจึงรอจนช่วงบ่ายจึงโทรถามอีกรอบ ปรากฏว่าเกิดปัญหาชาร์จไม่เข้า ตรวจหาสาเหตุไม่พบ และต้องรอช่างจากส่วนกลางมาตรวจสอบให้ แต่ยังไม่ทราบกำหนดชัดเจน
ด้านร้านติดฟิล์ม แจ้งว่าดับเครื่องและล็อครถเสมอถ้าไม่ได้เปิดประตู พร้อมล็อครถทุกครั้งทั้งก่อนและหลังเลิกงาน ตอนเริ่มงานทุกครั้งก็จะสตาร์ทรถประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้แบตวิ่งไปเลี้ยงลูกเล็ก
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก log ระบบรถ พบว่ามีการปลดล็อกและไม่ได้ล็อกตลอดวันที่ 8 ส่งผลให้แบตเตอรี่ค่อย ๆ ลดลงเรื่อยๆ วันที่ 9 มีการแจ้งเตือนว่า ต่ำกว่า 10% และวันที่ 10 จึงเหลือ 0% และดับสนิท
แม้จะยังไม่พบสาเหตุแน่ชัด แต่คาดว่าสาเหตุหลักมาจากการที่รถไม่ได้เข้าสู่โหมด Sleep หลายวันระหว่างติดฟิล์ม ทำให้ระบบไฟและแบตเตอรี่ 12V ถูกใช้งานต่อเนื่องจนแบตเตอรี่หลักหมด ประกอบกับระบบ BMS ไม่มีการตัดไฟอัตโนมัติเมื่อแบตต่ำสุด เกิดภาวะ Deep Discharge ส่งผลให้ชาร์จไฟไม่เข้า
เหตุการณ์นี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การเปิดระบบค้างหลายวันแม้ไม่ขับจริงก็สามารถทำให้แบตเตอรี่หมดได้ ระบบรถจึงควรมาตรการป้องกันการคายประจุและการชาร์จกลับที่ปลอดภัย เพื่อให้การใช้งานรถไฟฟ้าปลอดภัยและมีมาตรฐานมากขึ้น ไม่พบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้
เรื่องราวจากคุณ Sumrerng Kongsudee