More

    ทำอย่างไร?? เมื่อน้ำเข้ารถตอนฝนตกหนัก

    เข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว หลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่จนบ้านเรือนเสียหายเดือดร้อน สำหรับบางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเดินทางออกไปทำงาน ออกไปหาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค หนำซ้ำหลายๆคน ยังประสบปัญหาน้ำเข้ารถอีก วันนี้เรามาหาสาเหตุและวิธีแก้ไปด้วยกัน

    สังเกตว่าน้ำเข้ารถคือยังไง คือเราจะสามารถรู้สึกได้ว่าหากขับรถผ่านน้ำท่วมสูงมา พรมปูพื้นจะมีน้ำแฉะๆ ขังอยู่ หรืออาจจะได้กลิ่นอับจากน้ำท่วมขังที่พรมวางเท้า หรืออาจจะเปิดพรมที่วางเท้าดูตรวจสอบทุกครั้งที่ขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมมา หรือที่หนักๆเลย อาจมีเชื้อราขึ้นเกาะผนังรถ อันนี้หนักเลย

    สาเหตุของน้ำเข้ารถ

    ยางขอบประตูรถเสื่อม สังเกตง่ายๆคือ หากขับรถแล้วเสียงลมเข้าดังกว่าปกติ เสียงด้านนอกเข้าดังกว่าปกติ ให้คิดไว้เลยว่าขอบยางประตูเสื่อม หรืออีกวิธีหากระดาษหรือแบงค์มาลองสอดขั้นกลางไว้ให้ประตูหนีบ หากสามารถเลื่อนได้แปลว่าขอบยางเสื่อมสภาพแล้ว ควรไปเปลี่ยน

     

     

     

    จุกยางระบายน้ำที่พื้นตัวรถหลุด จุกยางพลาสติกสำหรับระบายน้ำจะมีอยู่ในรถทุกคัน เพื่อที่เวลาน้ำท่วมตัวรถจะได้ไม่ลอย และสามารถบังคับทิศทางได้ หากจุกยางนี้หลุดหายไป จะทำให้น้ำสามารถเข้ารถได้ด้วยเช่นกัน

     

     

     

    พลาสติกที่ซุ้มล้อแตกหรือรั่ว  อันนี้เราอาจจะขับรถไปกระแทกหรือมีอะไรมากระทบซุ้มล้ออย่างแรง จนทำให้เกิดรอยแตกร้าวหรือรั่ว จนทำให้น้ำสามารถซึมเข้ามาในตัวรถได้ ตรงนี้จะสังเกตภายนอกได้ยาก อาจจะต้องนำรถไปตรวจสอบที่อู่หรือศูนย์บริการ หรืออาจจะสังเกตจากด้านในตัวรถว่ามีน้ำซึมเข้ามาช่วงไหน

     

     

    วิธีแก้ไขเมื่อน้ำเข้ารถ
    วิธีแรก นำพรมวางเท้าไปผึ่งแดดให้แห้ง เปิดประตูรถไล่กลิ่นออกทั้งสี่ด้าน อาจจะต้องเอารถไปจอดตากแดดทิ้งไว้สัก 1-2 วัน เพื่อไล่ความชื้น หรืออาจจะใช้เครื่องเป่าลมช่วยอีกแรงก็ได้ แต่อย่าใช้ลมร้อนเอาไปเป่าพรมนานหรือจ่อใกล้จนเกินไปนะคะ เพราะอาจทำให้พรมไหม้ได้

    วิธีที่สอง นำรถไปซักที่ร้านเบาะหรือให้คาร์แคร์ทำความสะอาดแบบครบวงจรให้ และนำไปเช็คที่ศูนย์ บอกอาการจุดที่รั่วซึม เช็คระบบไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อน เพื่อซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพที่พร้อมใช้งาน อันนี้อาจจะใช้เวลานานนิดนึง

    ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้รถหรือมีทางเลือกในการเดินทางช่วงฤดูฝนตกหนัก ก็ขอแนะนำให้ไปใช้การเดินทางผ่านรถสาธารณะต่างๆ เพื่อป้องกัน ดูแลรถไม่ให้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมกันจะดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องแก้ปัญหากันบานปลาย นอกจากน้ำจะเข้ารถได้แล้ว ตัวเครื่องยนต์อาจมีปัญหาไปด้วยก็ได้ เพราะฉะนั้นเลี่ยงได้เลี่ยงเลยจ้า


     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts