ปัญหาการใช้งานรถใหม่เกิดขึ้นได้หลากหลายเหตุการณ์หลากหลายปัจจัยทั้งจากตัวลูกค้าเองหรือจากทางผู้ผลิตจนต้องหาทางออกแก้ปัญหาเพื่อให้เรื่องราวจบลง
แต่งานนี้สะเทือนอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา นักธุรกิจสาวอายุ 42 ปี กับรถยนต์ Ford Everest ถือชะแลงปีนขึ้นบนกระโปรงรถของตนก่อนจะทุบที่กระจกหน้ารถแตกละเอียด เพื่อประชดประชันศูนย์ Ford ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากเพิ่งซื้อรถป้ายแดงมาใหม่ด้วยเงินสด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และใช้รถไปได้แค่ 938 กิโลเมตร ก็มีปัญหาหลายอย่างโดยปัญหาหลักคือ การแจ้งเตือนเซนเซอร์ตรวจจับลมยางบกพร่อง ส่วนปัญหาอื่นๆมีทั้ง หน้าจอไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน android ได้ เซนเซอร์เปิดปิดฝาท้ายไม่ได้ สตาร์ทรถเครื่องสั่นทั้งคัน ระบบเกียร์ถอยหลังมีปัญหา พอนำรถไปแจ้งศูนย์ฯเพื่อตรวจเช็คแต่ได้คำตอบกลับมาว่า รถปกติดี นักธุรกิจสาวประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่เรื่องเงียบจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ล่าสุดทาง Ford ประเทศไทย ออกคำชี้แจงเหตุการณ์ที่ลูกค้าในจังหวัดนครราชสีมาทุบรถยนต์ว่า จากเหตุการณ์ที่ลูกค้าฟอร์ดในจังหวัดนครราชสีมาทุบรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ บริษัทขอชี้แจงดังนี้
จากการที่ลูกค้ามีความกังวลใจเรื่องการแสดงสัญญาณแจ้งเตือนของระบบตรวจวัดแรงดันลมยางไม่ถูกต้อง บริษัทได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลูกค้ามีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์บางรุ่นอาจส่งคลื่นความถี่ที่มีผลต่อระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) บริษัทจึงแนะนำให้ลูกค้าถอดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวออก ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ และได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนกับคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าต่อไป
ที่มา ฮักนะโคราช2
