การเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าของ Honda เริ่มต้นอย่างยากลำบาก แต่แผนต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการแล้วเพื่ออนาคตที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้สรุปกลยุทธ์ EV ในระหว่างการประชุมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยสัญญาว่าจะเปิดตัวรถยนต์ 7 รุ่นทั่วโลกภายในปี 2030
แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะประกาศข่าวเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจที่ดึงดูดความสนใจของเรา Honda จะใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้าน Formula 1 เพื่อทำให้ EV รุ่นต่อไปมีน้ำหนักเบาลง เป้าหมายคือกำจัดน้ำหนักออกประมาณ 220 ปอนด์ หรือ 100 กก. เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกๆ ไม่เพียงแต่เป็นการชดเชยน้ำหนักให้กับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น แต่เป็นการพัฒนาที่โดดเด่นด้วย
ในการลดน้ำหนัก จะมีโครงสร้างตัวถังที่เบากว่าและมอเตอร์ไฟฟ้าที่บางลง ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่โดยใช้ความรู้ความชำนาญของ F1 วิศวกรจะติดตั้งมอเตอร์และแบตเตอรี่ให้ต่ำลง อยู่ตำแหน่งตรงกลางของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะลดจุดศูนย์ถ่วงลงเพื่อเพิ่มการควบคุม
Honda ยังให้คำมั่นที่จะส่งมอบ “ประสิทธิภาพการใช้รถยนต์ไฟฟ้าระดับชั้นนำของโลก” หลังจากการลดน้ำหนักแล้ว 0 Series จะมีระยะทางมากกว่า 482 กม. ต่อรอบการทดสอบของ EPA
Honda มุ่งเน้นให้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต จะส่งมอบ “การขับขี่แบบสปอร์ตที่นำไปสู่ความสุขในการขับขี่” นอกเหนือจากการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว เรายังได้รับสัญญาว่าจะมีรถสปอร์ตไฟฟ้าอีกด้วย โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซีอีโอของบริษัท Toshihiro Mibe กล่าวว่า EV ที่สนุกสนานกำลังอยู่ในการพัฒนา และจะ “มีรสนิยมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” เมื่อเทียบกับ Honda รุ่นสปอร์ตในอดีต
ภาพที่เห็นคือคอนเซ็ปต์คาร์ 2017 Sports EV Concept ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่เคยได้ผลิตจริง ตามความเป็นจริงแล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะได้เห็น NSX เจนฯ 3 ซึ่งเป็นแบบไฟฟ้าล้วน แต่เราหวังว่าจะมีรุ่นที่มีราคาไม่แพงกว่านี้อยู่ในแผนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแผนการเปิดตัวรถยนต์แล้ว ฮอนด้าจะเน้นไปที่รถครอสโอเวอร์และรถ SUV เป็นหลัก
รถยนต์ 0 Series รุ่นแรกมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ อเมริกาเหนือจะได้พบกับรุ่นแรกในปี 2026 ก่อนที่ฮอนด้าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดประเทศอื่นๆ รถซีดาน (ดูตัวอย่างในแนวคิด 0 Series Saloon), รถ SUV ขนาดกลาง และรถ SUV ระดับเริ่มต้นจะเปิดตัวในปี 2026 ส่วนรถ SUV สามแถวขนาดใหญ่ จะเปิดตัวในปี 2027 ตามมาด้วยรถ SUV ขนาดคอมแพคในปี 2028ต่กจากนั้นจะเป็น SUV ขนาดเล็กในปี 2029 และรถยนต์ซีดานขนาดเล็กในปี 2030
Source: Motor1