หลังจากเผยภาพหลุดทั้งคันไปสำหรับ Honda Accord ไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของเจเนอเรชันที่ 11 ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวและขายที่เมืองจีน
หน้าใหม่ในร่างเก๋งใหญ่เจนที่ 11 รหัส CY1 กับ CY2 สำหรับ Honda Accord ไมเนอร์เชนจ์ปรับหน้าตาภายนอกใหม่ให้สปอร์ตโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม
เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ใหม่เป็นแนวนอนโครเมียม กรอบดำเงาวาวพร้อมตราโลโก้ H ขนาดใหญ่ รับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เสริมเขี้ยวสองข้างสีเดียวกับตัวรถและเส้นสีดำลากยาวรับกับช่องระบายอากาศทรงสีเหลี่ยมคางหมูใหม่ พร้อมไฟหน้า LED แนวยาว พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED มาแนวรมดำ
ด้านข้างเปลี่ยนแปลงในส่วนคิ้วชายล่างจากสีดำมาเป็นสีเดียวกับตัวรถคงเดิมมีความสปอร์ตคล้าย Civic FE โดยเฉพาะเส้นสายที่ชายประตูล่างรวมถึงกระจกโอเปร่าสไตล์เด่นโดยภาพรวมอาจคล้ายรถทรง Fastback 5 ประตูทั้งๆที่ความจริงมันคือ 4 ประตูซีดานแต่ก็ยังคล้ายๆ Honda Accord เจนที่ 10 ตกแต่งเสาอากาศครีบฉลาม หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ กรอบกระจกโครเมียม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอกแบบดึงก้าน
ด้านท้ายเริ่มที่กันชนหลังทรงเดิมแต่เปลี่ยนคิ้วชายล่างใหม่เป็นสีดำเส้นนอน ไฟท้าย LED ทรงเดิมแนวยาวล้อมฝาท้ายที่คล้ายๆรถยุโรปช่วยให้รถคันนี้ดูดีขึ้นมาทันทีพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบบิ๊วอินน์ โดยสเปกจีนได้ล้ออัลลอยลายเดิม 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้วสีดำแบบแมตต์พร้อมยางขนาด 235/45R18 และมีขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R17 และขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/40R19 และสีฟ้าอ่อน Venetian Blue ตัวรถขนาดเท่าเดิมตั้งแต่
- ความยาว 4,990 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,862 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,449 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,830 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,497-1,788 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตรในรุ่น e:PHEV และ 56 ลิตร ในรุ่น Turbo
ภายในคาดยังคงเดิมทั้งระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว มาตรวัดดิจิทัลพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 และขนาด 7 นิ้วรองรับ Android Auto Apple CarPlay รวมถึงอัปเดตออนไลน์ over-the-air มี Google ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์ และลำโพง 8 จุด และ 12 จุดจาก BOSE
ตกแต่งด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ผิวสัมผัสหุ้มหนัง ช่องแอร์ด้านหลัง ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card พกพาสะดวกเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว รวมถึงดีไซน์แผงคอนโซลหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน เบาะนั่งหุ้มหนังฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support ปรับดันหลัง 4 ทิศทางและระบบความจำตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่เลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถพร้อมปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่สัมภาระท้ายมากถึง 473 ลิตร แถมยังขยายพื้นที่วางในส่วนผู้โดยสารด้านหลังมากถึง 1,036 มิลลิเมตร มากกว่า Honda Accord เจนที่แล้วถึง 10 มิลลิเมตร
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ช่องแอร์ด้านหลัง พร้อมระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster ปุ่ม Push Start เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold ที่ชาร์จมือถือไร้สาย และช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง ไฟส่องสว่างภายในแบบ LED Map Lights
ไฟสร้างบรรยากาศภายในแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) สามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ ดังนี้ โหมด Recommended Color จะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือกขึ้นอยู่กับสถานการณ์และโหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
ปุ่ม Experience Selection Dial สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน
มาพร้อมพลังแรงด้วยเบนซิน Di VTEC TURBO 1.5 ลิตร L15BG ให้กำลัง 192 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 1,700-5,000 รอบต่อนาที ไดเรคอินเจคชันฉีดตรง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง โหมด ECON และ Normal
มีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด e:PHEV Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ด้วยเบนซิน I-VTEC 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC รหัส LFB1 ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 335 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าทำได้ 106 กิโลเมตร (NEDC)
และแบตเตอรี่ Lithium-Ionขนาดความจุ 17.7 kWh ให้กำลังรวมเมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน 207 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) โหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดทั้งโหมด ECON, Normal, Sport และ Individual ขับเคลื่อนความเร้าใจทุกการขับขี่
มีสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า เพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นกับความปลอดภัยมาครบด้วยระบบ Honda Sensing 360 ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบรอบคันครบครันด้วย
- แจ้งเตือนรถตัดหน้าก่อนออกรถ (Front Crossing Vehicle Warning)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อจะเปลี่ยนเลนกะทันหัน (Collision Prevention Function When Changing Lanes)
- เตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane Change Support)
- เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS)
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งพุ่งชนสิ่งกีดขวางทั้งเดินหน้าและถอยหลัง False start prevention function Front x Rear
- ช่วยเบรกระยะสั้น Short-distance collision mitigation brake
- ช่วยหักหลบคนเดินถนน Pedestrian Accident Reduction Steering)
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow (ACC with LSF)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA)
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure Notification System (LCDN)
- บอกข้อมูลป้ายสัญญาณจราจร Traffic Sign Recognition System (TSR)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB)
- ไฟสูงปรับแยกอิสระซ้าย-ขวาโดยอัตโนมัติ Adaptive Driving Beam (ADB)
- เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information System (BSI)
- ช่วยจอดรถ Honda Parking Pilot
- เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- เตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Monitor (DAM)
- เตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย ด้วยเสียงและสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอ Cross Traffic Monitor (CTM)
- เบรกอัตโนมัติในความเร็วต่ำ Low-Speed Braking Control
สัญญาณกะระยะการจอดรถ Parking Sensors ช่วยหยุดรถขณะถอยหลัง Reverse Exit Support และถุงลมนิรภัยรอบคัน
ติดตั้ง Honda SENSING 360+ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยฟังก์ชันเสริมความปลอดภัยรอบทิศทางครอบคลุมจุดบอดรอบๆตัวรถ ช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจราจร ได้รับการเพิ่มเข้ามาเพื่อรวมฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่หลักพร้อมฟังก์ชันแฮนด์ฟรี แนะนำการเปลี่ยนเลนที่เหมาะสม หรือ recommendation-type lane change support
การเตือนล่วงหน้าเมื่อออกจากโค้งหรือ early warning for deviation from a curve การเตือนรถเข้าใกล้เมื่อออกจากรถ a vehicle approach warning when getting off the vehicle และตอบสนองความผิดปกติของผู้ขับขี่ driver abnormality response ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ง่าย
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 รุ่นไมเนอร์เชนจ์เตรียมเผยเมืองจีนในวันที่ 20 มีนาคม ผ่านผู้จำหน่าย GAC Honda ส่วนเมืองไทยอาจมีแนวโน้มที่จะเปิดรุ่นปรับโฉม
ที่มา Autohome