ในที่สุด Honda ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Honda Civic e:HEV เก๋งสปอร์ตพลัง Full Hybrid ในร่างเก๋งสี่ประตูซีดาน
Honda Civic e:HEV มีจำหน่ายในไทยเพียง 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น e:HEV RS ราคา 1,259,000 บาท และรุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,129,000 บาท มาพร้อมด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และหรูหรามากยิ่งขึ้นชัดเจนด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต และมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟหน้า Projector ตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟ Daytime แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED สไตล์เอกลักษณ์เฉพาะตัว เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีใหม่ลายเดียวกับรุ่น Turbo RS พร้อมยาง 215/50R17 สำหรับรุ่น e:HEV EL+
ส่วนรุ่น e:HEV RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมเอกซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม และกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้า LED ตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/40ZR18
ภายในห้องโดยสารสำหรับรุ่น e:HEV RS สปอร์ตพรีเมียมมาพร้อมเบาะหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card พกพาสะดวก เพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ช่องปรับอากาศและช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน และเบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ
สำหรับรุ่น e:HEV EL+ มาพร้อมมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว กับเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แต่อย่างอื่นคล้ายรุ่น e:HEV RS ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และเบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ
ด้านขุมพลัง Full Hybrid e:HEV นำขุมพลังยกชุดจาก Honda Accord e:HEV ด้วยรหัส LFB1 2.0 ลิตร พร้อมระบบ i-MMD Direct Injection Atkinson-Cycle 145 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบ/นาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 72-cell ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร
พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode พร้อมการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และSport Mode ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ
มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และAuto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) ช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS) และอุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว (TPRK) เป็นต้น
Honda Civic e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV EL+ และสีภายในของรุ่น e:HEV EL+ มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก โดยรุ่น e:HEV RS สีภายในจะเป็นสีดำเท่านั้นพร้อมรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 8,000 คัน ภายในหนึ่งปีนับจากการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
– สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท