More

    วัยรุ่นญี่ปุ่นสนใจจอง Honda Civic RS 2,000 คันภายใน 1 เดือน

    หลังจากเปิดตัวที่ญี่ปุ่นเมื่อ 13 กันยายนที่ผ่านมาสำหรับ Honda Civic RS และ Honda Civic e:HEV ในร่าง Hatchback รหัส FL จนได้รับการตอบรับดีล่าสุด ฮอนด้า ญี่ปุ่นแจ้งข่าวดีว่ามียอดจองมากถึง 3,000 คันภายในเวลา 1 เดือนกว่าหลังจากเปิดตัว

    Honda

    โดยยอดจอง 3,000 คันนี้ส่วนหนึ่งมาจากรุ่น RS เกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่มียอดจองมากถึง 2,000 คัน มากกว่าเป้ายอดขาย 500 คันต่อเดือนถึง 6 เท่า เมื่อแยกรุ่นออกมาปรากฎว่ารุ่น RS มียอดจองมากถึง 67% รองลงมาเป็นรุ่น EX e:HEV มียอดจอง 19%, รุ่น LX e:HEV 7%, รุ่น EX Turbo 5% และรุ่น LX Turbo 2% จากยอดจองทั้งหมด

    หากพิจารณาจากกลุ่มผู้ซื้อผู้ซื้อส่วนใหญ่มักเป็นผู้ที่ใช้ Civic รุ่นก่อนหน้า และเมื่อพิจารณาจากอายุแล้ววัยรุ่นอายุ 20 ปีให้ความสนใจรุ่น RS มากสุด ส่วนรุ่น e:HEV ลูกค้าในวัย 50 ปีให้ความสนใจอย่างมากส่วนสียอดนิยมมี 3 อันดับแรกได้แก่ “สีขาวมุก Platinum White Pearl” (40%) “สีดำ Crystal Black Pearl” (23%) และ “สีเทา Sonic Gray Pearl” (17%)

    ภายนอก Exterior

    Honda

    ปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี หรูหรามากยิ่งขึ้นชัดเจนด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้าทั้งด้านหน้าและหลัง และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งลายใหม่ กันชนหน้าทรงสปอร์ตออกแบบใหม่เสริมสเกิร์ตสุดหล่อในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งไร้ไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟท้าย LED รูปตัว C แบบรมดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีเดียวกับตัวรถ

    มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยลายใหม่ 5 ก้านคู่ทูโทน Shark Gray Metallic + Matte Cutในรุ่น e:HEV พร้อมยาง 235/40R18

    Honda

    ส่วนรุ่น RS ตกแต่งเข้มด้วย กระจังหน้าและกันชนหน้าสไตล์สปอร์ตออกแบบใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS ล้อลายสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว Berlina Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต ไฟหน้า LED ตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย และ ท่อไอเสีย พร้อมปลอกท่อไอเสีย

    ภายใน Interior

    Hondaออกแบบเน้นที่การสร้างความรู้สึกที่สดใหม่ ส่งมอบความสปอร์ตที่สบายตา สะดวกสบายเมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมในทุกผิวสัมผัส เริ่มที่ วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดพร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและ ผู้โดยสารด้านหน้า กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ

    เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางทุกรุ่นย่อย และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง  พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ 3 ก้านมัลติฟังก์ชัน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ Auto Brake Hold ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย

    ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto และลำโพง 8 ตำแหน่ง เชื่อมต่อชีวิตเหนือระดับ ด้วยหลากหลายฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครันด้วยใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว โดยติดตั้งครั้งแรกอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายเช่น YouTube Music, Spotify

    Hondaระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ช่องเชื่อมต่อ USB Type C จำนวน 4 ช่อง ช่องหน้า 2 ช่องและด้านหลัง 2 ช่อง

    อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และยกระดับชีวิตให้สมาร์ตขึ้นไปอีกขั้นกับ Honda CONNECT เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน ในทุกรุ่น ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC)

    ยกระดับความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร RS เบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต ไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้าและที่เท้าแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวาระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ช่องอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อม Honda Smart Key Card

    สมรรถนะ Performance

    Hondaรุ่น RS กับ EX และ LX เป็นเบนซิน VTEC Turbo 1.5 ลิตร รหัส L15C ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที  จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบทั้ง ECON/Normal/Sport ในรุ่น EX กับ LX และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมดทั้ง ECON/Normal/Sport/INDIVIDUAL ในรุ่น RS

    ปรับตั้งค่าการขับขี่เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะและความต้องการในแต่ละไลฟ์สไตล์ โดยสามารถเลือกรูปแบบการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย และเสียงเครื่องยนต์

    รุ่น RS สามารถเลือกรูปแบบสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ พร้อมระบบ Rev Match ที่จะควบคุมความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติตามการชะลอความเร็วเพื่อรองรับการขับขี่แบบธรรมดาที่นุ่มนวลและช่วงล่างอิสระ 4 ล้อพัฒนาใหม่สำหรับรุ่นนี้

    Honda

    รุ่นปกติยังจำหน่ายต่อไปด้วยเบนซิน Full Hybrid e:HEV รหัส LFB1 พร้อมระบบ i-MMD 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ​72-cell

    เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า อัตราส่วนกำลังอัด 13.9:1 พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบบ Electric Gear Selector

    สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode พร้อมการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode ประหยัด 24.2 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน WLTC

    ความปลอดภัย Safety

    Honda

    • เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
    • เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
    • ช่วยหักเลี้ยวเพื่อหลบคนเดินถนน Pedestrian accident reduction steering
    • เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road departure prevention function
    • ตรวจจับและตีความป้ายจราจร Sign Recognition
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) พร้อม Traffic Jam Following
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
    • ตรวจสอบจุดอับสายตา Blind Spot Monitor (BSM)
    • ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดขณะออกตัว False start prevention function
    • ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดขณะถอยหลัง False Rear prevention function
    • ช่วยเบรกระยะสั้น Short-distance collision mitigation brake
    • เตือนเมื่อมีรถขณะเปิดประตู Backward exit support
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
    • ไฟหน้าอัจฉริยะ Adaptive Driving Beam (ADB)
    • ถุงลมนิรภัย 10 จุดรอบคัน

    Honda

    Honda Civic Hatchback ปรับโฉมขายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมีสีภายนอกทั้งสีดำ Crystal Black Pearl, สีขาว Platinum White Pearl, สีเทา Sonic Gray Pearl, สีน้ำเงิน Seabed Blue Pearl และสีแดง Premium Crystal Red Metallic ในราคาดังนี้

    • e:HEV LX 3,998,500 yen หรือราว 949,000 บาทไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมราคาอยู่ที่ 2,729,000 บาท
    • e:HEV EX 4,307,600 yen หรือราว 1,019,000 บาทไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมราคาอยู่ที่ 2,934,000 บาท
    • LX Turbo CVT 3,448,500 yen หรือราว 815,000 บาทไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมราคาอยู่ที่ 2,345,000 บาท
    • EX Turbo CVT 3,798,300 yen หรือราว 899,000 บาทไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมราคาอยู่ที่ 2,585,000 บาท
    • RS Turbo MT 4,198,700 yen หรือราว 995,000 บาทไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมราคาอยู่ที่ 2,864,000 บาท

    ที่มา Carwatch

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts