อีกหนึ่งรุ่นแรงจากตระกูลดัง Hyundai N ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากขาซิ่งทั่วโลกที่ชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครกับรุ่นปรับโฉมของ Hyundai i20 N เก๋งท้ายตัดทรงพลังจากเกาหลี
ปรับครั้งนี้เป็นปรับเล็กๆน้อยๆในรอบ 4 ปีของการจำหน่าย Hyundai i20 N MY2025 เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม Cascading Grille ติดสัญลักษณ์ N ปรับอารมณ์ใหม่ด้วยโลโก้ ฮุนได สีดำด้านเข้ม ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40R18 จาก Pirelli P-Zero นอกนั้นคงเดิมทั้ง
ไฟหน้า LED ทรงเรียวขึ้นกว่าเดิมพร้อม LED Daytime บนโคมไฟหน้า กันชนหน้าออกแบบดีไซน์ลงตัวมีระบายอากาศที่เท่กว่าเดิมสเกิร์ตใต้กันชนหน้าสีดำขลิบแดง พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำกับสเกิร์ตข้างสีแดง
บั้นท้ายทรงสปอร์ตพร้อมไฟท้าย LED แนวยาว กันชนหลังทรงเท่ติดลิ้นสปอยเลอร์หลังดำขลิบแดงและท่อไอเสีย สปอยเลอร์หลังบนหลังคารถทรงใหญ่ ออกแบบอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ มีคาลิปเปอร์สีแดง N ดัดแปลงจากรุ่น i20 ให้กลายเป็นเก๋งรอบจัดแรงบิดสูงตั้งแต่
- ความยาว 4,075 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,440 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,580 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 170 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,190 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายในคุณจะได้พบกับการตกแต่งที่เข้มข้นด้วยโทนสีดำเกือบทั้งหมดตั้งแต่แผงคอนโซลหน้า แผงประตูผ้าหุ้มหลังคาเด่นด้วยตราโลโก้ ฮุนได สีดำเข้มบริเวณพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านและบนคันเกียร์ เพิ่มบริการเชื่อมต่อ BLUELINK ซึ่งมีฟังก์ชันการโทรฉุกเฉิน SOS การติดตามยานพาหนะจากระยะไกล และการเข้าถึงฟังก์ชันควบคุมสภาพอากาศจากระยะไกล อัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA สำหรับระบบจอสัมผัส และไฟตกแต่งภายใน LED พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง
มาตรวัดดีไซน์พิเศษขนาดแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว เครื่องเสียงพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay and Android Auto ยังสามารถ แสดงข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับตัวรถทั้ง อุณหภูมิน้ำมันและน้ำหล่อเย็น ตลอดจนแรงบิดและแรงดันเทอร์โบแถมจับเวลาต่อรอบได้รวมถึงดีไซน์ช่องแอร์ที่ออกแบบเป็นแนวยาวแบบลงตัว หรูหราด้วยหลังคา Sunroof พร้อมกระจกกันความร้อน Solar Glass
เพลิดเพลินด้วยลำโพงคุณภาพ BOSE 7 จุด ช่องเสียบ USB แบบ Type-C พร้อมชาร์จมือถือไร้สาย กุญแจดิจิทัลคีย์สามารถสั่งงานผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือ สมาร์ทวอชได้ทั้งในการล็อกปลดล็อก ระบบควบคุมความชื้นภายในห้องโดยสารเมื่อต้องออกจากรถกันกลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อราที่เข้ามาภายในได้และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับทรงเรซซิ่งเดินด้ายน้ำเงินพร้อมสัญลักษณ์ N ติดตั้งระบบอุ่นหรือ heated เข้ามา และคู่หน้าแบบระบายอากาศได้ พร้อมเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่มากถึง 1,123 ลิตรกรณีพับเบาะและ 310 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ
ขุมพลังร้อนแรงด้วยเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร Smartstream G1.6 T-GDi ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 275 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดไร้เกียร์อัตโนมัติ ให้อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พรัอมโหมดการขับขี่อัจฉริยะ 6 โหมดทั้ง Eco, Normal, Sport, N, Custom 1, Custom 2
ขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปควบคุมด้วยระบกลไก Mechanical Limited Slip Differential m-LSD มีระบบปรับเสียงท่อไอเสียแบบ Active Variable Exhaust ที่ให้เสียงเร้าใจเสมือนโลดแล่นในสนามแข่ง ด้วยการปรับตั้งค่าเสียงได้ผ่านท่อไอเสียและปรับลดเสียงขณะรอบเดินเบาให้เงียบขึ้น และตามโหมดการขับขี่ทั้ง Normal, Sport, Sport+ และ N Road Sense ตรวจจับป้ายถนนทางโค้ง พร้อมแนะนำโหมดขับขี่แก่ผู้ขับ
ดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยดิสก์เบรกามีขนาดใหญ่ 320×40 มิลลิเมตร เสริมความแข็งแกร่งให้กับแชสซีส์ถึง 12 ตำแหน่ง บนพื้นฐานช่วงล่างออกแบบเฉพาะ และความปลอภัยHyundai SmartSense ที่มีทั้ง
- เตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA (Forward Collision-avoidance Assist)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในบริเวณที่ผู้ขับขี่มองไม่เห็น BCW (Blind-spot Collision Warning)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Following Assist (LFA)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA)
- ควบคุมรถในเลน LKA (Lane Keeping Assist)
- แจ้งเตือนให้เช็คผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert (ROA)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Speed Limit Assist (ISLA)
- ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Warning (DAW)
- เตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA (Rear Cross-traffic Collision-avoidance Assist)
Hyundai i20 N รุ่นปี 2025 เปิดราคาขายที่ออสเตรเลียโดยเพิ่มค่าตัวมาเล็กน้อยเริ่ม $35,500 ไม่รวมค่าใช้จ่ายบนท้องถนน หรือราว 805,000 บาท พร้อมขายเดือนพฤศจิกายน
ที่มา Carexpert