นอกจากการเปิดตัว IONIQ 5 N Line แล้วยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอนาคตด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ IONIQ 5 รุ่นปี 2024
ล่าสุด Hyundai Mobility ประเทศไทย ประกาศลดราคา IONIQ 5 รุ่นท็อป Exclusive และรุ่น Premium ต้อนรับงาน Bangkok International Motor Show ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนมีนาคมด้วย
ข้อเสนอที่ 1 ลดราคาโหดสูงสุด 330,000 บาท ดังนี้
- รุ่น Exclusive 1,499,000 บาท (ลดลงจากเดิม 330,000 บาท)
- รุ่น Premium 1,399,000 บาท (ลดลงจากเดิม 300,000 บาท)
พร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรี รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรี เครดิตชาร์จไฟมูลค่า 5,000 บาท
ข้อเสนอที่ 2
- รุ่น Exclusive 1,829,000 บาท
- รุ่น Premium 1,699,000 บาท
พร้อมข้อเสนอพิเศษดังนี้ ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 84 เดือน ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งพร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ รับประกันนานถึง 3 ปี และฟรีค่าแรงติดตั้ง พร้อมรับประกันนาน 1 ปี ฟรี ค่าแรงเช็คระยะครั้งที่ 1-10 ตามตารางบำรุงรักษา 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรี รับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรี เครดิตชาร์จไฟมูลค่า 5,000 บาท
ด้วยหน้าตาหล่อเท่ผสมผสานดีไซน์ยานยนต์คลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เข้ากับ Parametric Pixels Design ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์พร้อมเส้นสายที่สะอาดตาและเฉียบคม เน้นเส้นเหลี่ยมสันสร้างรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง นับเป็นการผสานความล้ำสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว
ด้านหน้ารถออกแบบเป็นรูปตัว V กระจังหน้าทรงปิดทึบ ฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell Bonnet มือเปิดประตูด้านข้างแบบซ่อนเก็บได้ในตัว จากฝีมือการออกแบบของ Giorgetto Giugiaro นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี เพื่อปลุกตำนานอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในวันนี้ด้วยไฟหน้า LED คู่รูปตัว U
พร้อมโลโก้ Hyundai บนฝากระโปรงที่เปิดประตูซ่อนรูป ด้านท้ายแพรวพราวด้วยไฟท้าย LED กับ ตรา IONIQ 5 ล้ออัลลอยเลือกได้หลายลายตั้งแต่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 รถท้ายตัดพัฒนาจากแพลตฟอร์ม Hyundai E-GMP
- ความยาว 4,635 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,605 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,020 กิโลกรัม
ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่งเบาะหลังทำความร้อนได้ สามารถปรับให้ขยับไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ 5 นิ้ว ทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่กว้างขึ้นหรือใช้เก็บสัมภาระที่จำเป็นได้เยอะขึ้นด้วยพื้นที่บรรทุกของท้ายมากถึง 527 ลิตร และพับเบาะมีพื้นที่ขนของมากถึง 1,587 ลิตร
ตกแต่งแบบใสๆสะอาดๆ ช่องแอร์อยู่บนเสา B-pillars กับม่านบังแดดที่หน้าต่าง ประตูประดับด้วยไฟแบบ ambient lighting กระจายรอบทิศทาง ลำโพงที่ติดตั้งตรงที่พักแขน ส่วนคอนโซลตรงกลางมีที่ชาร์จ USB และช่องเสียบปลั๊กไฟสามารถเสียบปลั๊กต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ได้เลย ด้านหน้า มีหลังคาเปิดรับแสงแถมมีแบบ Solar Roof เพิ่มกำลังไฟฟ้าให้วิ่งไกลมากขึ้นได้ ชุดเครื่องหนังใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งวัสดุจากการรีไซเคิลด้วย มาตรวัดดิจิทัล Integrated display ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้วอยู่ในชุดเดียวกับมาตรวัด และ ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจาก BOSE
สเปกไฟฟ้าที่ขายไทยมีสองรูปแบบความแรงเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้า 800V ที่ล้ำสมัย ตั้งแต่รุ่น Standard Range ความจุ 58 kWh กำลังมากสุด 170 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 384 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 452 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 8.5 วินาที
รุ่น Extended Range ความจุ 72.6kWh กำลังมากสุด 217 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 481 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 566 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.4 วินาที
ทุกขนาดความแรงให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับคู่กับเกียร์ 1-Speed Front Dog Clutch พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal, Sport & Snow พร้อมหัวชาร์จแบบ Type 2(AC)/CCS2(DC)
ชาร์จได้ทั้งแบบชาร์จช้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10.5 kW ระยะเวลาในการชาร์จจาก 0-100% ภายในเวลา 4.59 ชั่วโมง และ 6.09 ชั่วโมง ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 17 นาทีเท่านั้น มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Hyundai SmartSense ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติ Stop & Go Smart Cruise Control with Stop & Go Function (SCC w/S&G)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Following Assist (LFA)
- ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist (FCA)
- เตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-avoidance Assist Junction Turning (FCA-JT)
- ช่วยรักษาตำแหน่งในช่องเดินรถ Lane Keeping Assist (LKA)
- เตือนและควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Collision-Avoidance Assist (BCA)
- เตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Warning (SEW)
- กล้องงมองภาพจุดอับสายตา Blind-spot View Monitor (BVM)
- แสดงภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ Surround View Monitor (SVM)
- เตือนอาการเหนื่อยล้าและเมื่อมีรถคันหน้าเคลื่อนที่ Driver Attention Warning (DAW)
- ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA)
IONIQ 5 รุ่นปี 2024 รถไฟฟ้าท้ายตัดมี 3 สีภายนอกทั้งสีทอง Gravity Gold Matte, สีขาว Atlas White และสีดำ Abyss Black Pearl โดยข้อเสนอพิเศษถึงวันที่ 6 เมษายน