รถยนต์อีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กลุ่มรถยนต์เอสยูวี นั่นคือ กลุ่มรถยนต์เอ็มพีวี ที่มีตัวตนชัดเจนด้านการโดยสาร จุคนได้เยอะกว่า นั่งสบายกว่า
ผสมกับความหรูหรา สง่างามจากดีไซน์ที่โดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละค่ายที่ต้องการนำเสนอให้กลุ่มพ่อบ้านกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องการรถยนต์เอ็มพีวีดีๆสักคัน แต่ถ้าจะให้นึกถึงค่ายรถที่ทำตลาดกลุ่มนี้ก็ต้องนึกถึงสองค่ายจากเครือ Hyundai Motor Group ประเทศเกาหลีใต้นั่นคือ KIA และ Hyundai โดยทั้งสองยี่ห้อเข้ามาทำตลาดเมืองไทยมายาวนานผ่านตัวแทนขายในไทยคนละเจ้า ครั้งนี้ Face 2 Face จึงจับเอาสองเอ็มพีวีแดนกิมจิ ที่ไปได้สวยทั้งยอดขายและความเชื่อใจมั่นใจกับลูกค้าชาวไทยมาเทียบกันจุดต่อจุดว่าใครจะเด่น ด้อย และเหนือกว่ากับ KIA Carnival SXL และ Hyundai Staria SEL รุ่นท็อปสุด เริ่มที่
ภายนอก
พ่อบ้านสุดหล่อ อย่าง KIA Carnival เปิดตัวมาตั้งแต่ปีกลาย เป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 เปลี่ยนแปลงตามยุคตามสมัย และล่าสุดกับการปรับปรุงใหม่ หรือ MY2022 เพียงแค่เปลี่ยนโลโก้ KIA ใหม่ จากเดิมเป็นวงกลมและตัวหนังสืออยู่ในกรอบพื้นหลังสีเข้ม งานนี้ดีไซน์โลโก้ใหม่ เป็นสีเงินตัดกรอบทิ้ง โชว์ตัวอักษรอย่างเดียว ดูโมเดิร์นทันสมัยขึ้น แต่อย่างอื่นยังคงเดิม สำหรับรุ่นท็อป SXL ตั้งแต่กระจังหน้าทรงนิยมแบบจมูกเสือ หรือ Tiger Nose โครเมี่ยมทั้งชิ้นประกบกับไฟหน้า LED ที่แยกกันทั้งไฟต่ำไฟสูง พร้อมไฟ LED Daytime ดีไซน์เก๋ใต้ไฟหน้ารับกับกันชนหน้าเสริมไฟตัดหมอกหน้า LED เพิ่มความหรูและช่วยในการส่องสว่างในยามหมอกลงจัด ด้านข้างเส้นสายเหลี่ยม กับคิ้วชายล่างประตูโครเมี่ยม ผสมกับความมนของตัวรถ เสา A ที่หนาขึ้น แถมเเสา C ครอบทับกระจกยาวถึงเสา D ด้วยเส้นโครเมี่ยมด้านสีเงิน ช่วยให้ตัวรถดูน่าเกรงขามขึ้น ล้ออัลลอยลายสีทูโทน เงินดำ Machine Finished ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60R18 ไฟท้าย LED แนวยาวรับดีไซน์ฝาท้ายที่ดูสง่าลงตัวกับไฟตัดหมอกหลัง ฝาปิดท้ายด้วยระบบไฟฟ้ารวมถึงประตูสไลด์สองฝั่งไฟฟ้าก็ทำงานเช่นกัน และยังมีราวหลังคากับหลังคาซันรูฟคู่ไฟฟ้าบานแรกเปิดแบบกระดกบานสองเปิดแบบเลื่อนสไลด์เป็นออพชั่นมาตรฐาน แต่จุดเสียของรุ่นนี้คือกระจกมองข้างทรงสูงแต่แคบในการมองมมุมข้างๆดีไซน์ตัวกระจกมองข้างคล้ายรถตู้ทำให้มีจุดบอดในการมองเห็นและไฟท้ายที่อยู่ในตำแหน่งต่ำเกินไป
ทางด้านพ่อบ้านอวกาศอย่าง Hyundai Staria รุ่นท็อป SEL ได้เปรียบที่ดีไซน์ใหม่หมดสดกว่านิดนึง แต่ภาพรวมล้ำอนาคตไปหน่อย เด่นด้วยทัศวิสัยที่ใหญ่กว่าด้วยกระจกบานใหญ่รอบคัน ชุดไฟหน้าจัดวางในตำแหน่งชายกันชนหน้าระดับแนวขอบยางด้านบนและเหนือขึ้นไปกับไฟ DRLs คาดยาวสองฝั่งคล้ายกับแว่นตาของหุ่นยนต์เพื่อเข้ากับกระจังหน้าลายตาข่าย พร้อมไฟหน้า LED ด้านท้ายติดตั้งไฟ LED แบบ Parametric Pixel ดีไซน์แบบตาราง ๆ กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ได้ง่ายมากขึ้น พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/55R18 ประตูด้านข้างและด้านหลัง เปิด-ปิด อัตโนมัติอัจฉริยะ แต่ดีไซน์ล้ำอนาคตแบบนี้ อาจมีคนกลุ่ม Old School อาจไม่ชอบใจอย่างแน่นอนและที่สำคัญไม่มีไฟตัดหมอกหน้า LED มาให้อีกด้วย
มิติตัวรถ
เมื่อนำมาเทียบกันจะพบว่า Hyundai Staria SEL มีมิติตัวรถใหญ่เกือบทุกส่วนเริ่มที่ความยาว Staria ยาวกว่า Carnival 98 มม. กว้างกว่า Carnival 2 มม. สูงกว่า 250 มม. ฐานล้อยาวกว่า 183 มม. ระยะต่าสุดจากพื้นสูงกว่า 14 มม. ความจุถังน้ำมันมากว่า 3 ลิตร แต่น้ำหนักรถ Staria หนักน้อยกว่า Carnival 57 กก.
ภายในเด่นด้วยเบาะนั่งเยอะกว่าถึง 11 ที่นั่ง
ทั้ง KIA Carnival SXL และ Hyundai Staria SEL ดีไซน์ภายนอกจะต่างกันสไตล์ใครสไตล์มัน แต่ภายในทั้งสองรุ่นตั้งใจให้เป็นบ้านเคลื่อนที่ จุใจถึง 11 ที่นั่ง ส่วนออพชั่นนั้นจะต่างกันอย่างชัดเจนเริ่มที่ KIA Carnival SXL หน้าจอสองจุดที่มีขนาดเท่ากัน 12.3 นิ้ว ตั้งแต่ มาตรวัดดิจิทัล Digital Instrument Cluster และ จอสัมผัสระบบความบันเทิง รองรับระบบนำทาง รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto โดยทั้งมาตรวัดดิจิทัลและจอสัมผัสอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน จอหลังเบาะคู่หน้า Rear Seat Entertainment ขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้งบริเวณหัวหมอนของเบาะโดยสารคู่หน้าจำนวน 2 จอสำหรับผู้โดยสารในแถวที่สอง
ระบบเสียงจาก BOSE® และลำโพง 12 ตำแหน่ง ทั้งยังสะดวกสบายด้วยจุดชาร์จ USB ทั้งหมด 6 จุด และช่องชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สร้างบรรยากาศยามค่ำคืนแสนอบอุ่นไฟ Ambient Light แบบ Mood Light สีขาวทั้ง 4 บานระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคุมแบบสัมผัส พวงมาลัย 3 ก้าน ดีไซน์หรูหรา พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ครบครันยิ่งขึ้น อาทิ ประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door เพียงแค่ยืนใกล้ตัวรถพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะ Smart Key ประตูสไลด์จะเปิดโดยอัตโนมัติ ประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate พร้อมระบบ Away-Auto Close ที่สามารถเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อยืนอยู่ใกล้ตัวรถ และสามารถปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเดินห่างออกจากตัวรถ พร้อมทั้งระบบ One-Touch Remote เพียงแค่กดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองบานและประตูท้ายไฟฟ้าจะเปิดพร้อมกันโดยอัตโนมัติ สะดวกต่อการขึ้น-ลงและขนสัมภาระ เบรกมือไฟฟ้าพร้อม ระบบ Auto Brake Hold
หรูด้วยเบาะหนังสีน้ำตาล Saddle Brown ตัดขอบสีดำ โดยเบาะที่นั่งสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ และรองรับครอบครัวใหญ่ได้ถึง 11 ที่นั่ง เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถปรับพับเรียบได้สนิท Pop-up Sinking Seat ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระได้อย่างลงตัว และยังปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่มากถึง 2,905 ลิตร สามารถหมุนเบาะแบบ 180 องศา แต่ใช้งานจริงๆในชีวิตประจำวันได้แค่ 8 ที่นั่ง 3 ตอน เพราะตอน 4 ค่อนข้างแคบ ตำแหน่งของเบาะนั่งหน้าค่อนข้างสูงมองชัดสบายๆ โดยทั้งคนขับและคนนั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบความจำด้านคนขับ 2 ตำแหน่งและสามารถปรับดุนหลังได้ 4 ทิศทางในฝั่งคนขับ ตอน 2 ถึง ตอน 4 ปรับเอนได้แบบธรรมดา โดยตรงกลางสามารถพับและเป็นที่วางแก้วเฉพาะตอน 2 กับ 3 แถมเลื่อนได้อีกด้วย เบาะตอน 4 ถึงจะนั่งแคบไปแต่ก็พับเรียบได้สนิท Pop-up Sinking Seat ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระได้อย่างลงตัว และยังปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่มากถึง 2,905 ลิตร
ด้าน Hyundai Staria SEL ก็ 11 ที่นั่งเช่นกันกับ KIA Carnival SXL แถมมอบความโปร่งสบายได้อย่างมากเลยทีเดียวด้วยการหุ้มหนังแท้เลือกได้ทั้งแบบสีดำและสีครีม ใหญ่โต โอ่โถ่ง พร้อมเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทางพร้อมดันหลัง ออพชั่นเยอะมากมายไม่แพ้ Carnival ตั้งแต่มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซล หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมลำโพง 6 ตัว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สายและสวิตช์เปลี่ยนเกียร์ระบบไฟฟ้า พร้อมระบบชาร์จมือถือไร้สาย (Wireless Charger) และช่องเสียบ USB 7 ช่อง เบรกมือไฟฟ้าพร้อม ระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Smart Keyless Entry พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจ Remote Engine Start
ขุมพลังเดียวกันจากโรงานเดียวกัน
ทั้ง KIA Carnival SXL และ Hyundai Staria SEL ใช้ขุมพลังเดียวกันนั่นคือเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบแปรผัน CRDI รหัส D4HB ขนาด 2.2 ลิตร ถึงทั้งสองรุ่นใช้ขุมพลังเดียวกันแต่กำลังวังชานั้นแตกต่างกัน โดยทาง KIA Carnival SXL ได้กำลังมากสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 441 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและโหมดแมนวล ส่วนทาง Hyundai Staria SEL ได้กำลังมากถึง 177 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 431 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Paddle Shift ทั้งสองคันนี้ ขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนกัน ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Shift by Wire (SBW) คาดว่าใช้ลูกเดียวกัน เลิกใช้คันเกียร์ดั่งเดิมมาใช้ทั้งแบบปุ่มหมุน Dial Type สำหรับ KIA Carnival SXL ละปุ่มกด สำหรับ Hyundai Staria SEL ตามสมัยนิยม พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมดที่ใจดีให้กันทั้งสองรุ่นไม่ว่าจะโหมด Normal Mode, Sport Mode, Eco Mode และ Smart Mode
ช่วงล่างทั้งสองรุ่นใช้ด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง โช๊คอัพแก็ส และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลงโช๊คอัพแก็ส ส่วนพวงมาลัยพาวเวอร์ทั้งสองรุ่นเป็นแบบไฟฟ้า โดยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.8 เมตรใน Carnival SXL และ 5.97 เมตรใน Staria SEL
ระบบเซฟตี้จัดเต็มจัดหนักทั้งสองรุ่น
ด้านความปลอดภัยต้องเรียกว่าจัดเต็มจัดหนักกันทั้งคู่ เริ่มที่ KIA Carnival SXL ในรุ่นปรับปรุงใหม่ MY2022 เพิ่ม ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor) เพิ่ม ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM) แบบเดียวกับ Hyundai Staria SEL และความปลอดภัยดั้งเดิมเช่น ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอด PDW (Parking Distance Warning) และกล้องรอบคัน SVM (Surround View Monitor) และเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือ DRIVE WiSE ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Smart Cruise Control ระบบเตือนมุมอับที่กระจกมองข้าง Blind-Spot Collision-Avoidance Assist ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยรถ Rear-Cross Traffic Collision Avoidance Assist ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist และ Lane Following Assist และระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision-Avoidance Assist ถุงลมนิรภัยรอบคันที่ให้มากกว่า Hyundai Staria SEL รวม 7 จุด: คู่หน้า ด้านข้างเบาะคู่หน้า บริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ ม่านนิรภัยรอบคัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเบรก (BAS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) และระบบช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC) ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (SEA) ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง Rear Occupant Alert (ROA)
ส่วน Hyundai Staria SEL ติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคันทั้งถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง ทุกที่นั่งติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด รวมทั้งยังมาพร้อมระบบเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ADAS หรือ Hyundai Smart Sense ดังนี้ ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist ระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driving Attention Warning ระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist สัญญาณเตือนจะดังขึ้นเพื่อป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถอีกคันกำลังวิ่งผ่าน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist ระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert กล้องมองรอบทิศทางและจุดอับสายตา แต่สิ่งที่เหนือกว่า KIA Carnival SXL คือมีระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS
ค่าตัวและสีภายนอก
KIA Carnival SXL มาด้วยราคา 2,495,000 บาท พร้อมสีภายนอก 4 สี กับ สีขาวมุก Snow White Pearl, สีดำมุก Aurora Black Pearl, สีเทา Panthera Metal และสีน้ำเงิน Astra Blue แต่ Huyndai Staria SEL ขายในราคา 1,999,000 บาท และมีสีภายนอก 3 สี สีคือ สีดำมุก Abyss Black Pearl, สีเทา Graphite Gray Metallic และสีเงิน Shimmering Silver Metallic ส่วนสีภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ และสีดำ
ด้วยส่วนต่าง 496,000 บาท กับรถยนต์เอ็มพีวีไซสยักษ์จากเกาหลีใต้ มีความได้เปรียบเสียเปรียบที่ต่างกันทั้งหน้าตา อรรถประโยชน์ ถึงแม้ระบบขับเคลื่อนและขุมพลังใช้ร่วมกันโดยสามารถใช้อะไหล่ร่วมกันได้ ถ้าชอบและสนใจคันไหนขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง เพียงได้สัมผัสและทดลองขับก็ามารถตัดสินใจจรดปากกาจองรถที่คุณถูกใจได้เร็วขึ้น ขอให้โชคดีในการตัดสินใจนะครับ