การดูแลลมยางรถยนต์ เป็นสิ่งที่คนใช้รถยนต์จำเป็นต้องทำความเข้าใจ เนื่องจากรถแต่ละประเภทมีการเติมลมยางที่แตกต่างกัน ซึ่งปกติแล้วการเติมลมยางที่เหมาะสมหรือประเภทนั้นสามารถดูได้ที่สมุดคู่มือที่ติดมากับรถ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเติมลมยางมาก่อน และอยากจะรู้ว่ารถของคุณควรเติมลมยางเท่าไหร่? วันนี้ลองมาดูวิธีที่เหมาะสมกันดูค่ะ
ยาง เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับรถยนต์ที่ต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ เพราะยางเป็นเป็นส่วนประกอบที่ต้องสัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลา นอกจากจะช่วยยึดเกาะถนนแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้กับรถของคุณได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทยาง, ขนาด และการเติมลมยางที่เหมาะสม
ดังนั้นแล้ว เราจึงควรหมั่นตรวจเช็กสภาพดอกยาง, แก้มยาง และลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในกรณีที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ และเดือนละ 1-2 ครั้ง สำหรับรถที่ใช้งานเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้กับตัวรถและตัวคุณนั่นเอง
ปริมาณการเติมลมยางของรถแต่ละประเภท
ปริมาณแรงดันลมยางสามารถดูได้ที่ตำแหน่งข้างประตูคนขับ โดยทางผู้ผลิตจะมีสติกเกอร์แปะเอาไว้เพื่อบอกแรงดันลมยางที่เหมาะสมกับรถคันนั้น ๆ ซึ่งหน่วยของแรงดันลมยางในประเทศไทย จะเรียกว่า PSI หรือ Pound per Square inche (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เป็นหน่วยมาตรฐานในเครื่องปั้มลมทั่วประเทศ
ปัญหาจากการเติมลมยางอ่อนเกินไป
- ลมยางอ่อนเกินไป ผู้ขับอาจรู้สึกว่าช่วงล่างนุ่ม ไม่กระด้าง แต่เมื่อลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าปกติ เปลืองน้ำมันมากขึ้น หากขับในความเร็วสูงและเข้าโค้งจะรู้สึกว่าช่วงล่างย้วย ไม่นิ่ง มีอาการโยนตัว และเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง เนื่องจากเมื่อเกิดความร้อน ลมยางจะขยายตัว
- ลมยางแข็งเกินไป ในกรณีที่เติมลมยางมากหรือแข็งเกินไป รถยนต์จะออกตัวได้ดีกว่าการเติมลมยางอ่อนก็จริง แต่ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง ยางเกาะถนนน้อยลงทั้งบนทางตรงและทางโค้ง การเบรคจะต้องใช้ระยะที่มากขึ้น และดอกยางตรงกลางจะเสื่อมเร็วกว่าบริเวณข้าง ๆ เนื่องจากเป็นส่วนที่สัมผัสพื้นถนนมากกว่า ไม่หมดเพียงเท่านั้น หากลมยางแข็ง ยังเสี่ยงกับการระเบิดของยางเมื่อขับผ่านหลุมและบ่อบนถนนอีกด้วย
วิธีการเติมลมยางที่เหมาะสมของรถแต่ละประเภท
- รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมแรงลมที่ 25 – 30 ปอนด์
- รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมแรงลมที่ 30 – 35 ปอนด์
- รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมแรงลมที่ 35 – 40 ปอนด์
- รถตู้บรรทุก 7 – 10 คน ควรเติมแรงลมที่ 43 – 55 ปอนด์
เติมลมไนโตรเจน ดีอย่างไร?
ลมยางไนโตรเจน คือลมที่เป็นแก๊สเพียงอย่างเดียว (ผ่านการคัดเอาออกซิเจนและความชื้นออกไปทั้งหมด) โดยลมยางไนโตรเจนประกอบด้วยไนโตรเจนมากกว่า 93% และเป็นไนโตรเจนที่มีไอน้ำปนอยู่น้อยหรือแทบไม่มีเลย อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้อย ทำให้เกิดการขยายตัวน้อยกว่า โอกาสการระเบิดของยางจึงน้อยตามลงไป
ข้อดีของลมยางไนโตรเจน
- ขับขี่ได้นุ่มนวลกว่าการเติมลมยางธรรมดา เพราะแรงดันคงที่
- แรงดันลมยางรั่วซึมได้น้อยลงหรือแทบไม่มีเลย
- โอกาสยางระเบิดน้อย
- ไม่ต้องเติมลมยางบ่อย
ทั้งนี้การเติมลมควรขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่บรรทุก และควรเป็นไปตามคู่มือการใช้รถแต่ละรุ่น หรือดูข้อมูลจากด้านข้างประตูรถด้านคนขับ แต่ถ้าเติมแข็งเกินไป ความยืดหยุ่นในการเกาะถนน การเข้าโค้ง และการเบรกก็น้อยลง หรือเติมอ่อนจนเกินไปก็ไม่ดีอีก เพราะจะสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ