ในขณะที่หลาย ๆ ค่ายผู้ผลิตรถมีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน Lamborghini กลับกำลังเพลิดเพลินกับปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งบริษัทมา
ค่ายผู้ผลิตซูเปอร์คาร์จากอิตาลีมีการขายรถออกไปแล้ว 7,430 คัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 และน่าจะทำยอดขายได้สูงกว่าปี 2021 ที่พวกเขาขายรถเป็นเทน้ำเทท่าได้มากที่สุดเท่าที่เคยขายมาถึง 8,405 คัน โดย Urus เป็นโมเดลยอดฮิตที่ถูกขายออกไปมากที่สุดเป็นจำนวนถึง 4,834 คัน ไปแล้วในปีนี้
“เราทำตัวเลขมากกว่า (สถิติยอดขายมากที่สุดในปี 2021) นี้ได้อย่างแน่นอน” Stephan Winkelmann ผู้บริหารระดับสูงของ Lamborghini กล่าวกับสื่อ ABC News “ยอดขายของเราไม่มีการชะลอตัวลง ทุก ๆ เดือนเราขายรถได้มากกว่าที่เราจะสามารถส่งมอบได้”
“ในตอนนี้เรามีช่วงเวลาที่ต้องรอการส่งมอบรถใหม่ถึง 18 – 19 เดือน เราขายได้มากกว่าที่เราจะสามารถผลิตได้มากทีเดียว”
Winkelmann เชื่อว่า ยอดขายจะเริ่มคงที่ในอีกไม่กี่ปีนับจากปีหน้าเป็นต้นไป ในขณะทื่ทางค่ายจะมีการรีเฟรชกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการแทนที่ Aventador และ Huracan โดยรถที่จะมาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Aventador จะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่รุ่นแรกที่จะมาถึง มันจะใช้เครื่องยนต์ไฮบริด V12 และมีการแสดงตัวอย่างให้กับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มรับชมแล้ว ซึ่งทำให้ทางค่ายผู้ผลิตรถได้รับคำสั่งซื้อเป็นจำนวน 3,000 คัน สำหรับซูเปอร์คาร์คันนี้มาเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนั้น ผู้บริหารระดับสูงของ Lamborghini ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาด้านอุปทานและการขาดแคลนชิปไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการผลิตของบริษัท
“มันเป็นความท้าทายที่มีมาอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ เรายังไม่สูญเสียกำลังการผลิตใด ๆ อันที่จริงเราได้เพิ่มกำลังการผลิตของเราขึ้นเสียด้วยซ้ำ” Winkelmann กล่าว
“นอกจากนี้ สงครามในยูเครนก็ส่งผลกระทบกับเราเล็กน้อยในตอนเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเรามีซัพพลายเออร์รายใหญ่อยู่ในยูเครน แต่ด้วยความกล้าหาญและความทุ่มเทของพวกเขา สิ่งนี้ก็ได้รับการแก้ไข และเรากู้คืนความล่าช้าที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกของสงครามกลับมาได้ทั้งหมด”
“เราไม่มีข้อจำกัดอย่างมีนัยยะสำคัญในแง่ของห่วงโซ่อุปทาน และเราไม่เคยมีปัญหาในเรื่องของการขาดแคลนชิ้นส่วนใด ๆ”
อ้างอิง : carscoops.com
