More

    BYD M6 Extended ช่วงล่างดี ขับดี วิ่งอึดวิ่งไกล 530 กม. 929,900 บาท

    ประเทศไทยเป็นที่ที่ 3 ต่อจาก ฮ่องกงและอินโดนีเซีย เปิดตัว BYD M6 เอ็มพีวีไฟฟ้าเวอร์ชันหรูพวงมาลัยขวาอย่างเป็นทางการในราคาที่จับต้องได้

    BYD

    พื้นเพ BYD M6 ก็คือ BYD SONG MAX จากตระกูล Dynasty ขายจีนตั้งแต่ปี 2017 และยังเป็นรุ่นเดียวกับ BYD e6 เน้นขายองค์กร ราชการ แท็กซี่ ที่ซื้อจำนวนเยอะและการมาของ M6 แยกกลุ่มลูกค้าชัดเจนเน้นกลุ่มคนหนุ่มสาว​ กลุ่มครอบครัว ใช้ส่วนบุคคล ขายโดย RÊVER Automotive

    Design & Exterior

    BYD

    เอ็มพีวีทรงกล่อฝาแฝด BYD e6 มาในรุ่นท็อป Extended ปรับหน้าตาเป็นครั้งที่ 2 และหน้านี้สำหรับตลาดต่างประเทศรวมไทย หรูดูดีคล้ายกับ BYD ATTO 3 เริ่มจากกระจังหน้าแบบปิดทึบขอบกระจังหน้าห่อหุ้มด้วยเส้นโครเมียมทรงวีคว่ำ รับกับชนหน้าออกแบบใหม่ตัดไฟตัดหมอกหน้าออกไป​ ชุดไฟหน้า LED สไตล์ Dragon Eye พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน

    ด้านข้างหรูด้วยกรอบกระจกโครเมียมโดยมีคำว่า Space อยู่ตรงใต้กระจกใกล้เสา D คล้ายรุ่น e6 แต่พิเศษที่ว่าเสริมคิ้วชายล่างโครเมียมใต้ประตูเข้าไปด้วย เพิ่มความหรูอีกขั้นด้วยหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ที่มีม่านบังแดดไฟฟ้าแบบป้องกันรังสียูวี ราวหลังคาสีเงินดีไซน์บิ๊วอินน์กับหลังคารถ กระจกมองข้างทรงสปูนสีเดียวกับตัวรปรับและพับด้วยไฟฟ้า ที่เปิดประตูดึงก้านสีเดียวกับตัวรถ

    ด้านท้ายลักชัวรี่ด้วยไฟท้าย LED แนวยาวติดขอบโครเมียมเรียบเนียนตัวด้วยกันชนหลังทรงหรูเสริมคิ้วโครเมียมชุดไฟเลี้ยวหลังออกแบบวิ่งหรือ Sequential ด้านท้ายติดตรา BYD พิเศษด้วยประตูท้ายระบบไฟฟ้าพร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าระยะไกล  และล้ออัลลอยลายเข้มทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R17

    Dimension

    จากพื้นฐาน e-Platform 3.0 CTP Blade Battery + BYD Intelligent Driving System มาพร้อมขนาดตัวถังเมื่อเทียบกับ BYD e6 พบว่าตัวรถยาวกว่า 15 มิลลิเมตร ความสูงเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้น 25 มิลลิเมตร น้ำหนักรถลดลง 35 มิลลิเมตร แต่ความกว้างและระยะฐานล้อเท่ากัน ดังนี้

    • ความยาว 4,710 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,810 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,690 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร
    • ความสูงใต้ท้องรถ 170 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,895 กิโลกรัม

    Interior & Convenience

    BYD

    คอนโซลหน้าดีไซน์คุ้นเคยจาก BYD e6 หรูเล่นลายเกล็ดมีหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว หมุนปรับจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ด้วยระบบไฟฟ้า รองรับระบบ Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อมระบบนำทางในจอ เชื่อมต่อมือถือผ่านบลูทูธ มีช่องเสียบ USB Type A และ Type C อย่างละ 1 จุด รวม 4 จุดทั้งตอนหน้าและตอนที่ 2 พร้อมลำโพงรอบคัน 6 จุด มาตรวัดสี TFT ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว

    BYD

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัดปรับได้​ 4 ทิศทาง แป้นเกียร์ดีไซน์กระชับมือ ระบบปรับอากาศสำหรับห้องโดยสารปรับอุณหภูมิแบบ Single Zone อัตโนมัติ ปรับอุณหภูมิทั่วทั้งห้องโดยสารได้อย่างรวดเร็ว พร้อมตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ให้ความสะอาดและเย็นสบายควบคู่ไปกับการระบายความร้อนของแบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า (EPB-Electrical Park Brake) และช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH-Auto Vehicle Hold)

    BYD

    ระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC (NFC Card) และ Digital Key และมีกุญแจรถเป็นแบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start เพิ่มความสบายมากขึ้นด้วยไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light ที่ชาร์จมือถือไร้สายและชายบันไดกันรอยขีดข่วนสีเงิน

    BYD

    สเปกไทยมาแบบ 3 ตอน 6 ที่นั่งแบบ 2+2+2 พร้อมโทนสีน้ำตาลอ่อนในส่วนของเบาะนั่ง 6 ที่นั่ง เด่นด้วยเบาะนั่งสีน้ำตาลอ่อนคู่หน้าปรับไฟฟ้าฝั่งคนขับ 6 ทิศทางและคนนั่ง 4 ทิศทางพร้อมเบาะเย็นคู่หน้า เบาะนั่งตอนที่ 2 มาแบบอิสระ หรือ Captain Seat พร้อมที่ท้าวแขนปรับเอนได้เลื่อนได้และตอนที่ 3 สามารถพับเก็บได้แบบ 50:50 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ แบบ 580 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะจะมีพื้นที่ 180 ลิตร พร้อมช่องเก็บของคราวนี้ตัดยางอะไหล่ออกไปมาพร้อมชุดอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินมาให้

    Performance

    BYD

    ไฟฟ้าล้วนมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (PMS) มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเทคโนโลยี BYD Blade Battery โดยรุ่นท็อป Extended มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสูงสุด 71.8 kWh ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 530 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 8.6 วินาที

    BYDจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed มีโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง ECO Normal และ Sport รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง DC รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 115 Kw โดยใช้เวลา 40 นาทีในการชาร์จไฟตั้งแต่ SOC 10%-80% และ 28 นาทีในการชาร์จไฟตั้งแต่ SOC 30%-80% รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ AC ที่ 7 kW และรองรับระบบ VTOL

    Handling & Ride

    BYDตัวรถมาในแนวเอ็มพีวีขนาดกะทัดรัดทำให้การขับขี่มองชัดเจนทุกมิติทุกมุมไม่ว่าจะทางซ้ายหรือขวาแม้จะมีกระจกเสา A เล็กๆเข้ามาก็ตามการขับขี่ใช้งานดี เร่งแซงตอบสนองดีกว่ารุ่น e6 กดเป็นมา ตัวแบตใช้อึดทนทายาดเพราะแบตเตอรี่แบตเตอรี่ทรงใบมีดหรือ Blade Battery ออกแบบให้บางและยาว มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดการลุกไหม้และอึดทุกๆการใช้งานจะวิ่งเป็นหมื่นเป็นแสนก็ไม่ต้องกังวล พร้อมระบบชาร์จกลับในตัว​(Regenerative Braking) สามารถปรับกรชาร์จกลับได้ 2 ระดับ

    ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 10.24 วินาที​ ในโหมด​ Normal

    ช่วงล่างอิสระสี่ล้อด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut และด้านหลังแบบ Multi-Link ครั้งนี้ปรับเซตให้ต่างจากรุ่น e6 นุ่มนวลขึ้นทรงตัวดีขึ้นไม่เด้งไม่ดีดช่วงรีบาวนด์หนักแน่นม้วนเดียวจบไม่มีต่อแม้จะเจอสภาพถนนทั้งเรียบและขุรขระ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS (Electronic power steering) พร้อมรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 8.5 เมตร น้ำหนักเบากว่า e6 เลี้ยวง่ายคล่องตัวไม่ว่าจุดกลับรถจะแคบกว้างยังไงคันนี้ชิวๆ

    ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกสี่ล้อ แป้นเบรกทำงานกดไป 15% ให้ความรู้สึกไวไปนิดเพียงกดนิดเดียวเกือบจะหน้าทิ่ม ทางที่ดีควรเราควรให้น้ำหนักในการเหยียบเบรกอย่างดีเพื่อรักษาช่องว่างไม่ให้รถเราไถลไปชนคันหน้า

    ปิดท้ายด้วย EV Save Mode ด้วยการวิ่งเพื่อหาอัตราสิ้นเปลืองครั้งนี้ขับวนๆในเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่ ด้วยระยะทาง 81 กิโลเมตร ชาร์จกลับทั้งหมด 34.500 kWh กินไฟเฉลี่ยทั้งหมด 7.87 กิโลเมตร​ ต่อ​ kWh หรือ 12.7 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร จ่ายค่าชาร์จไป 282.29 บาท (อ้างอิงราคาชาร์จ DC 1kWh = 7.70 (9.00) บาท/kWh จากค่าย PTT) ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 1.06 บาทต่อกิโลเมตร

    Safety & Feature

    BYD

    อัพเกรดจากรุ่น e6 โดยให้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบ ADAS มาครบทั้ง

    • ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (ACC-S&G)
    • ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
    • ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
    • รักษารถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LDA)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW) 
    • ช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA) 
    • ช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) 
    • ช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) 
    • ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) 
    • ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW) 
    • ช่วยควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC) 

    พร้อมออปชันความปลอดภัยมาตรฐานทั้ง

    • ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
    • ป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
    • ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
    • ช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
    • ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HHC)
    • ช่วยทําความสะอาดดิสก์เบรก (BDW)
    • ช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกควํ่า (RMI)
    • ช่วยควบคุมกําลังมอเตอรื เมื่อเหยียบคันเร่ง และเบรกพร้อมกัน (BOS)
    • กล้องมองรอบคัน 360 องศา
    • เซนเซอร์ช่วยจอด 4 ตำแหน่ง
    • ตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
    • ถุงลมนิรภัยคู่หน้าฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านหลังรวม 6 จุด
    • เข็มขัดนิรภัย 6 จุด แบบผ่อนแรงและดึงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบเตือน

    Verdict

    BYD

    BYD M6 รุ่นท็อป Extended มารอบนี้ประทับใจหลายๆอย่างจาก BYD e6 ทั้งหน้าตาภายในที่สง่างามขึ้น 6 ที่นั่ง ออปชันมากกว่าพร้อมพลังเหนือกว่า e6 ถึง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร แบตอึดขึ้นวิ่งไกล 500 กว่ากิโลเมตร แซงตอบสนองฉับไวแม้ไม่ปรู๊ดปร๊าดมากพร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ เซตนุ่มหนึบกว่าเดิมแต่เบรกทำงานฉับไวเกินไป

    สายครอบครัวเน้นการใช้งานแบบสบายๆ แต่จริงจัง อึด ถึก ทน ใช้งานดีแบบ e6 คันนี้เหมาะสมสุด มีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีดำ QUANTUM BLACK กับ สีขาว CRYSTAL WHITE สีเทา HARBOUR GREY และสีน้ำเงิน QUARTZ BLUE ในราคา 929,900 บาท 

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts