Honda เปิดตัว CB1000 Hornet เน็กเก็ตสายสตรีท ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ กลับมาอีกครั้งภายใต้ชื่อ Hornet และ Hornet SP
ผ่านไปเกือบปีแล้วนับตั้งแต่ที่ Honda เปิดตัว CB1000 Hornet ตัวต้นแบบในในงาน EICMA 2023 ที่เมืองมิลาน และล่าสุด บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นได้ประกาศเปิดตัว CB1000 Hornet และรุ่น SP ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปี 2025 โดยถือเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hornet ในยุโรป ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานในสภาพที่หลากหลาย
สำหรับการออกแบบ CB1000 Hornet มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูดุดัน และน่าเกรงขาม โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ปีกข้างบนถังน้ำมันเชื้อเพลิง และไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED คู่ขนาดกะทัดรัด ตัวถังถูกออกแบบให้มีความเฉียบคมแบบสปอร์ต
ด้านขุมพลัง CB1000 Hornet ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ที่ได้รับการอัปเดทมาจาก CBR1000RR Fireblade ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาด 1,000 ซี.ซี. DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 104 นิวตันเมตรที่ 9,000 รอบต่อนาที ส่วนช่วงล่างใช้เป็นโช้คอัพหน้าหัวกลับ SHOWA SFF-BP ขนาด 41มม. และโช้คอัพหลัง SHOWA แบบ Prolink ส่วนระบบเบรก เบรกหน้าแบบมาตรฐานใช้เบรก Nissin 4 พอต ดิสก์เบรกคู่ 310 มม. และด้านหลังเป็น ดิสก์เบรก ขนาด 240มม. คาลิเปอร์ 2 พอต
ส่วนรุ่น SP จะมีพละกำลัง 155.02 แรงม้า และแรงบิด 107 นิวตันเมตร มีเกียร์ควิกชิฟเตอร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยโช้คอัพหน้าหัวกลับหัวกลับสีทอง และโช้คอัพหลัง Ohlins TTX36 ส่วนระบบเบรกใช้คาลิปเปอร์ Brembo Stylema จับคู่วุงล้อสีพิเศษ Desert Gold Metallic
สำหรับฟีเจอร์ใช้งาน เป็นหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Honda Road Sync พอร์ตชาร์จไฟ USB และสัญญาณหยุดฉุกเฉินเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงโหมดการขับขี่ 3 โหมด และระบบควบคุมการยึดเกาะ และ Assist & Slipper Clutch
สำหรับราคาจำหน่าย CB1000 Hornet รุ่น Standard มีให้เลือก 3 สีได้แก่ แดง, เทาด้าน และ ขาว มีราคาจำหน่ายที่ 8,999 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 392,000 บาท ส่วนรุ่น SP จะสีเดียวคือ สีดำด้าน และมาพร้อมกับโช้คอัพหน้าสีทอง และวงล้อสีพิเศษ Desert Gold Metallic โดยจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 9,999 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 435,000 บาท
Source : young-machine.com
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day