พระนครออโตโมบิลในเครือ PNA Group ผู้จำหน่าย LEAPMOTOR จากกลุ่ม STELLANTIS อย่างเป็นทางการในไทยเดินหน้าส่งรถใหม่อย่างต่อเนื่อง
หลังจากเปิดตัว LEAPMOTOR C10 ทั้งรุ่น DESIGN รุ่นท็อปและรุ่นเริ่มต้นที่เปิดตัวไปหมาดๆอย่างรุ่น STYLE ราคาเริ่มต้น 9 แสนปลายๆและตลอดทั้งปี 2025 พร้อมแล้วที่จะนำรุ่นใหม่มาอวดโฉมให้ชาวไทยได้สัมผัสถึง 3 รุ่นเริ่มที่
LEAPMOTOR C16 เอสยูวีหรูรุ่นใหญ่พื้นฐาน LEAPMOTOR C10 ขยายความยาวรองรับความสบายแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง 2+2+2 ภายนอกสวยหรูเทียบชั้นคู่แข่งโฉบเฉี่ยวตั้งแต่ไฟหน้าทรงสามเหลี่ยม LED พร้อมแถบไฟส่องสว่าง DRL แบบ LED ลากยาวพร้อม กระจังหน้าทรงทึบ บนขอบฝากระโปรงหน้าติดตราโลโก้ ใต้กันชนหน้ามีระบายอากาศและมีครีบระบายอากาศแนวตั้งข้างๆชุดกันชนหน้าบ่งบอกความสปอร์ตเล็กน้อยด้านข้างมาพร้อม
หลังคาทรงกล่องประดับประดาด้วยคิ้วสีดำเข้มครอบกระจกตั้งแต่เสา A ไปถึง เสา D มีราวหลังคาดีไซน์บางๆไม่เกะกะสายตา หลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง ไฟท้าย LED รมดำซ้าย-ขวา เชื่อมต่อเส้นแนวนอนระหว่างไฟท้าย โดดเด่นดูดี พร้อมกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถพร้อมคิ้วใต้กันชนหลังสีดำ
ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว โดยมีขนาดยางหลากหลายเริ่มที่ขนาดยางหน้า 235/55R20 ยางหลัง 255/50R20 มียางสี่เส้นขนาดเท่ากันคือ 235/55R20 ให้เลือก และขนาดใหญ่ 21 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/45R21 และยางหลัง 255/45R21 มียางสี่เส้นขนาดเท่ากันคือ 245/45R21 ให้เลือก
ตัวรถใหญ่โตสมฐานะด้วยมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,915 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,905 มิลลิเมตร ความสูง 1,770 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,065-2,095 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตรในรุ่น EREV ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน LEAP 3.0 Architecture
ภายในมาพร้อมออปชันมาตรฐานทั้ง จอใหญ่มาตรวัดความเร็ว LCD 10.25 นิ้ว จอกลางขนาด 14.6 นิ้ว แสดงระบบความบันเทิงด้วยระบบปฏิบัติการ LEAP OS ประมวลผลรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 จอด้านหลังบนเพดานมาในขนาด 15.6 นิ้ว พับเก็บได้ และระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ มีจอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้า HUD พร้อมลำโพงรอบคัน 21 จุด มีช่องชาร์จมือถือไร้สาย และช่องเสียบ USB Type C และขนาด 12 V กระจกรถหนาถึง 2 ชั้นป้องกันเสียงรบกวน
3 แถว 6 ที่นั่งที่มีพื้นที่การขนของตั้งแต่ 209 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ และ 1,022 ลิตร กรณีพับเบาะ และโทนสีเลือกได้ 3 สีทั้งสีขาว Malt Rice, สีแดงส้ม Red Cloud Orange และสีม่วง Star Purple
กับขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรหัส TZ220XY008 พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 67.7 kWh เป็นแบต LFP จาก Zenergy ให้กำลัง 292 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วน 520 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 502 กิโลเมตร
ให้ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Silicon Carbide แรงดันสูง 800V ชาร์จ DC จาก 30%–80% ใช้เวลาเพียง 15 นาที ชาร์จ AC 30%–80% ใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.37 วินาที
และขุมพลัง EREV มาพร้อมพลังเบนซิน รหัส H15R 1.5 ลิตรให้กำลัง 95 แรงม้าในการปั่นไฟ พร้อมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 28.4 kWh จาก CALB ใช้ในการขับเคลื่อน เมื่อทำงานร่วมกันสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้า 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC หรือ 193 กิโลเมตร (NEDC) และชาร์จหนึ่งครั้งกับน้ำมัน 1 ถัง วิ่งไกลสุด 1,095 กิโลเมตร ประหยัดน้ำมัน 16.16 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.46 วินาที ชาร์จ AC 30%–80% ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงและชาร์จ DC จาก 30%–80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที ทั้ง 2 ความแรงคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single speed Gearbox พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Easy/Sport/Custom และความปลอดภัย ADAS
อีกหนึ่งรุ่นกับ LEAPMOTOR B10 เอสยูวีคอมแพ็คพลังอีวีล้วนที่มีขนาดใกล้เคียงกับ BYD ATTO 3 ตั้งแต่ความยาว 4,515 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,885 มิลลิเมตร ความสูง 1,655 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,670-1,705 กิโลกรัม สร้างจากสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ LEAP 3.5
เด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้ไฟวิ่งแนวยาววิ่เชื่อมกับไฟหน้า LED กลมกลืนกับกันชนรูปทรงสปอร์ตพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ พร้อมมือเปิดประตูแบบเรียบเนียนกับตัวถัง เซนเซอร์ LiDAR บนหลังคาที่เป็นอุปกรณ์เสริม และล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางหน้า 225/50 R18 และยางหลัง 235/50 R18 ที่ด้านหลังมีชุดไฟท้าย LED แนวยาวและประทับตัวหนังสือว่า LEAPMOTOR
ภายในอย่างหรูด้วยความเรียบง่ายด้วยหน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ตั้งอยู่หลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ช่องแอร์จะเป็นทรงรีมีกรอบช่องแอร์จากวัสดุสีทองเพื่อเพิ่มความหรูหรา ขณะที่คอนโซลกลางจะติดตั้งแท่นชาร์จไร้สาย 2 ช่อง และหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ 1.83 ตารางเมตร
กับขุมพลังไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น TZ180XS101 จาก Zhuzhou CRRC Times Electric ที่มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตรจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออน LFP ขนาด 56.2 kWh วิ่งไกลสุด 510 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 492 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 418 กิโลเมตร (WLTP) ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 9.3 วินาทีในรุ่นเริ่มต้น
รุ่นท็อปสุดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น TZ180XY005 จาก Jinghua Lingsheng Power ที่มีกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตรจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออน LFP ขนาด 67.1 kWh วิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 579 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 492 กิโลเมตร (WLTP) ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.8 วินาที
มาพร้อมกับระบบ ADAS ที่รองรับฟังก์ชันมากมายถึง 26 ฟังก์ชัน พร้อมสีภายนอกสี ม่วง, เทาอ่อน, ขาว, เงิน, ดำ และเทาเข้ม ส่วนภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทาและสีม่วงเริ่มขายจีนเมษายนนี้และส่งไปขายยุโรปปลายปีนี้
และอีกรุ่นกับ LEAPMOTOR T03 ซิตี้คาร์ทรงกล่อง 5 ประตูประกอบที่โรงงาน Tychy ของ STELLANTIS ประเทศโปแลนด์
ด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้า LED โค้งมนมีไฟ DRL LED อยู่ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแบบปิดทึบมีตราโลโก้อยู่ตรงกลางและเป็นตำแหน่งจุดชาร์จไฟด้านข้างดีไซน์เรียบง่าย มือเปิดประตูดึงก้าน ล้อมกรอบกระจกบานข้างด้วยแถบสีดำ มาพร้อมกับหลังคาดำ พร้อมติดตรา EV ไว้ที่มุมเสา A และกระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED
ชุดไฟท้าย LED มาในทรงเดียวกับไฟหน้าเชื่อมต่อไฟท้ายทั้ง 2 ฝั่งด้วยแถบสีดำ โดยมีชื่อแบรนด์ LEAPMOTOR คั่นกลาง และล้อขนาด 14 นิ้วที่มียางขนาด 165/70R14 165/65R14 และ 15 นิ้วพร้อมยาง 165/65R15 ตัวรถขนาดที่เล็กกะทัดรัดเริ่มที่ความยาว 3,620 มิลลิเมตร กว้าง 1,652 มิลลิเมตร สูง 1,577 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,400 มิลลิเมตร
ภายในออกแบบเรียบง่ายสไตล์มินิมอล ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้ากับมาตรวัดความเร็วดิจิทัล TFT ขนาด 8 นิ้ว อยู่ด้านหลังพวลมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว คอนโซลกลางมีเพียงช่องเสียบ USB และ ช่อง Power Outlet และที่วางแก้วน้ำ มาพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ พื้นที่สัมภาระด้านท้าย 508 ลิตร
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 37.3 kWh ชร์จไฟวิ่งไกลสุด 265 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 312 กิโลเมตร (NEDC) รองรับการารฺจไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10–80% ในเวลา 36 นาที และความปลอดภัยด้วย ADAS LEAP Pilot Driver Active Safety Assistance 10 อย่าง ประกอบด้วยกล้อง 3 ตัว เรดาห์ 5 จุด และถุงลมนิรภัย 6 จุด โดยขายที่ยุโรปเริ่ม 18,900 ยูโร หรือประมาณ 715,000 บาท
จับตา 3 รุ่นใหม่จากค่าย LEAPMOTOR ที่จะมาเผยโฉมที่ไทยปลายปีนี้คาดทันเข้างาน Motor Expo 2025 โดย 3 รุ่นนี้รุ่นไหนมีแนวโน้มที่จะขายจริงจังต้องติดตาม
