ในขณะที่เมืองไทย Mazda CX-60 เป็น 1 ใน 5 รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในไทยภายใน 3 ปี ซึ่งต้องลุ้นกันว่าจะมาช่วงเวลาไหนแต่มาเลเซียสวมบทเสือปืนไว
เปิดตัวอย่างเป็นทางการตัดหน้าไทย Mazda CX-60 เอสยูวีไซซ์กลางทรงหรูสู่ความสมบูรณ์ของทุกการขับเคลื่อนในทุกการออกแบบ
หน้าตาสวยตามสไตล์ KODO Design
ตั้งแต่กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงแนวเข้ม ไฟหน้า Projector แบบ LED กันชนหน้าทรงเท่คล้ายกับ CX-50 ผสมกับ BT-50 ชุดบังโคลนพร้อมดีไซน์ออกแบบด้วยชุดรังผึ้งส่วนล่างเป็นคิ้วสีดำ กระจกมองข้างทรงสปูน กรอบกระจกโครเมียม หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
ไฟท้าย LED Signature รูปตัวซีแบบแยกคั่นกลางด้วยโลโก้ Mazda ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ท่อไอเสียคราวนี้มาในแบบท่อไอเสียคู่สองฝั่งซ่อนอยู่ใต้กันชนหลังและช่องลมข้างบังโคลนแบบโครเมียม ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20 ตัวรถที่ขยายใหญ่เทียบเท่าคู่แข่งตั้งแต่
- ความยาว 4,740 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,680 มิลลิเมตร
- ฐานล้อยาวขึ้น 2,870 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,770 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร
ภายในหรูเทียบเท่ารถยุโรปพรีเมียม
ด้วยมาตรวัดดิจิทัล TFT-LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect infotainment รองรับ Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE 12 จุด และจอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Display ขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
การตกแต่งมาแบบโทนสีดำเข้มด้วยการติดตั้งวัสดุคุณภาพสูง วัสดุหุ้มหนังแท้ NAPPA สีดำ ตกแต่งโครเมียม โดยเป็นการตกแต่งภายในรูปแบบ “Musubu” โดยได้แรงบันดาลใจจากการเย็บเดินด้ายในชุดแผงมาตรวัดแบบประณีต และ รูปแบบดีไซน์ภายในภายใต้แนวคิด Kaichô หรือ ความกลมกลืนที่มาจากการผสมวัสดุและพื้นผิวที่แตกต่างกัน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมระบบความจำ คนนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งตอนที่ 2 พับได้แบบ 40:20:40 พร้อมพื้นที่การขนของมากถึง 570 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงมีพื้นที่ถึง 1,726 ลิตร
ขุมพลังสำหรับมาเลเซียมาเพียงขนาดเดียว
กับเบนซินล้วน SKYACTIV-G ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ รหัส PY-VPS กำลังสูงสุด 192 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 261 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 8 สปีด พร้อม Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหลัง มีระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราวขณะจอดนิ่ง i-STOP มีการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) ที่เลือกได้ถึง 2 โหมดได้แก่ Normal, Sport
มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง KPC (Kinematic Posture Control) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะช่วยให้รถทำงานผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับตัวรถ พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ จานเบรกหน้ามีขนาด 347 มิลลิเมตร และด้านหลัง 328 มิลลิเมตร ความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE อาทิ
- ไฟหน้าอัจฉริยะ Adaptive LED Headlamps (ALH)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า FCTA (Front Cross Traffic Alert)
- เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System) with Road Keep Assist
- ช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติผ่านด้านหน้า SBS (Smart Brake Support)
- เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
- ควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) พร้อม Stop & Go
- ควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด รวมถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว DSC (Dynamic Stability Control) ช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) กล้องรอบคัน 360 องศา (360 ̊ View Monitor) พร้อมกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง
สัญญาณไฟกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน ESS (Emergency Signal System) เซนเซอร์กะระยะการจอดด้านหน้า 4 จุด เบรก ABS 4 ล้อ กระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรก BA และระบบป้องกันการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
Mazda CX-60 นำเข้าจากญี่ปุ่นขายรุ่นเดียวคือรุ่น HIGH ในราคา RM200,510 เป็นราคารวมค่า on-the-road หรือราว 1,535,000 บาท มาพร้อมสีภายนอก 5 สี ทั้ง
- สีแดง โซลเรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
- สีทอง ซิลคอน แซน (Zircon Sand)
- สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
- สีขาว โรเดียม ไวท์ (Rhodium White)
ด้านเมืองไทยจะเป็นรถใหม่ที่จะเปิดตัวก่อนหรือหลัง Mazda 6e ภายในปีนี้หรือไม่ต้องติดตาม ตามแผนกลยุทธ์ Multi-solution เพื่อสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV 2 รุ่น รถ PHEV 1 รุ่น และรถ HEV 2 รุ่น รวม 5 รุ่น ภายในปี 2025-2028 คาดรุ่นนี้มาไทยมีทั้ง PHEV และ MHEV ดีเซล
ที่มา Paultan