MG ต้อนรับปีงูรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าถึง 2 รุ่นนอกจาก MG IM6 ยังมีอีกรุ่นที่อยากแนะนำนั่นคือ MG S5 EV ชื่อใหม่ขายไทยของ MG ES5
https://youtu.be/4rwxlxwJbbM?si=wSiR3bpsTpIHtr8F
MG S5 EV เวอร์ชันไทยมาในร่างเอสยูวีอีวีทรงกล่องขับเคลื่อนล้อหลังมาแทน MG ZS EV ที่อยู่ปลายรุ่นปลายโมเดล
ภายนอกออกแบบคล้าย MG9 EV ด้วยกระจังหน้าทรงทึบแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active grille) ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED ทรงเรียบง่าย ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED กันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศแบ่ง 2 ฝั่งคล้าย MG CYBERSTER ประดับด้วยคิ้วชายล่างสีดำใต้กันชนหน้า
ด้านข้างเท่ด้วยราวหลังคาสีเงินดีไซน์บิ๊วอินน์พร้อมพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ ราวหลังคา กรอบกระจกส่วนบนตกแต่งโครเมียมกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ ที่เปิดประตูดีไซน์หรูแบบดึงก้าน คิ้วชายล่างประตูสีดำกับสีเงินทรงหรู
ไฟท้าย LED แนวยาวคาดด้านท้ายพร้อมตรา MG และยังสามารถเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอยขนาด 17 พร้อมยาง 225/55R17 กับ 215/60R17 ใหญ่สุด 18 นิ้วพร้อมยาง 215/55R18 สร้างจากแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ออกแบบมาโดยเฉพาะกับรถไฟฟ้าโดยมีมิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 4,476 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,849 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,621 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,730 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถคาดว่าอยู่ที่ 1,615-1,740 กิโลกรัม
ภายในทันสมัยไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลหน้าด้วยวัสดุ Soft touch ติดตั้งจอมาตรวัดความเร็วสี TFT 10.25 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Android Auto พร้อมลำโพง 6 จุด ช่องเสียบ USB-C 2 จุดหน้า และ 1 จุดหลัง ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charging
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด D-shape มีช่องแอร์เชื่อมต่อกับชุดคอนโซลหน้าอย่างลงตัวพร้อมหัวเกียร์หุ้มหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมีกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold
เบาะนั่งคู่หน้ามีปรับด้วยไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 6 ทิศทางและด้านคนนั่งปรับ 4 ทิศทางเบาะหลังพับได้ 60/40 มีพื้นที่การขนของมากถึง 1,441 ลิตรกรณีพับเบาะและถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 453 ลิตร และ NVH LUXURY SILENCE SPACE เพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ทั้งหมดหุ้มเบาะเป็นหนังสังเคราะห์ โดยในรุ่น V มาพร้อมกับรูระบายอากาศ ระบบ Intelligent smart access
พร้อมระบบปฏิบัติการ i-SMART 3.0 ที่พัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้นช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ปลอดภัย คล่องตัว และทันสมัย รองรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ครอบคลุม 3 ความอัจฉริยะ ได้แก่ ตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check) สั่งการอัจฉริยะ (Smart Command) และเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
ขุมพลังแบบไฟฟ้าล้วนขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวตัวใหม่ประสิทธิภาพสูง Permanent Magnet Synchronous Motor โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นเริ่มที่รุ่น X ให้กำลังสูงถึง 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 8 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate Battery ขนาดความจุ 50 kWh (LFP) สามารถ วิ่งได้ระยะทาง 416 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
ส่วนรุ่น V ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 6.1 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ Lithium Iron Battery ขนาดความจุ 64 kWh (NMC) สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ถือเป็นยนตรกรรมในรุ่น B-SUV ที่วิ่งได้ไกลที่สุดในคลาส
ทั้งคู่ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที* รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 140 kW และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% ได้ 11.5 ชั่วโมง
ได้รับการออกแบบให้มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ผสานกับการวางตำแหน่งแบตเตอรี่ที่ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำลง (Low Centre of Gravity) ส่งผลให้การยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม เพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้งและการเร่งแซง ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Comfort Normal Sport Snow และ Custom
ลดอาการโคลงตัวเมื่อต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ท้าทาย เสริมความสมบูรณ์แบบของระบบขับเคลื่อนด้วยระบบช่วงล่างอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า และ 5-Link Suspension ด้านหลัง ที่ได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มการเกาะถนน พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท Continental พร้อมช่องระบายความร้อน มอบพลังเบรกที่ทรงพลัง ทนทานต่อการใช้งานหนัก ได้ดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลาของการขับขี่อย่างแท้จริง
ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยนวัตกรรมพวงมาลัย Dual Pinion Steering Wheel ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบการขับขี่ที่แม่นยำและมั่นใจในทุกสถานการณ์ ระบบพวงมาลัยนี้ใช้โครงสร้างแบบ Dual Pinion ที่ช่วยเพิ่มความฉับไวในการตอบสนองและให้การควบคุมที่แม่นยำยิ่งขึ้น ลดความพยายามในการบังคับรถ ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างราบรื่น
ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น หรือการขับขี่ที่ต้องการ ความคล่องตัว ระบบพวงมาลัยนี้ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมเสริมการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมทั้งในทางตรงและทางโค้งเพิ่มความสนุกและความมั่นใจในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่คับคั่งหรือการเดินทางไกล บนทางหลวง
รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW พร้อมคันเร่งแบบ One Pedal ช่วยให้ขับขี่ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System รอบคันได้แก่
- ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ช่วยเบรก AEB (Automatic Emergency Braking)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ช่วยควบคุมรถยนต์ให้ขับเคลื่อนอยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตาที่ทำงานประสานกันทั้ง ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) ช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) และช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
ฟังก์ชันปลดล็อคเกียร์ว่างจากหน้าจอ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะด้านหลัง
เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
MG S5 EV มาแทน MG ZS EV ประกอบด้วย 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น X และรุ่น V โดยมีสีตัวถังให้เลือก 4 สี ได้แก่ สี CHAMPAGNE TITANIUM สี ANDES GREY สี BLACK KNIGHT และ สี ARCTIC WHITE เตรียมบุกตลาดอย่างเป็นทางการวันที่ 25 มีนาคม ในงาน Bangkok Motor Show 2025