หลังจากที่ MG HS เจนใหม่เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยคราวนี้มาถึงคิวของน้องเล็กอย่าง MG ZS เอสยูวีเจนใหม่ ที่พร้อมจะเปิดตัวให้ทั่วโลกได้ชมกัน
ล่าสุดยังมีการทดสอบพรางตัวทั้งคันเพื่อประเมินผลขั้นสุดท้ายก่อนขึ้นไลน์ผลิตโดยเห็นรถวิ่งทดสอบที่ออสเตรเลียที่เมืองอเล็กซานเดรียทางใต้ของย่าน CBD ซิดนีย์สำหรับ MG ZS เอสยูวีเล็กเจเนอเรชันที่ 2
ภายนอก Exterior
หน้าตาคล้ายกับภาพสิทธิบัตรที่เคยนำเสนอไปด้วยหน้าตาทั้งคันใหญ่กว่าเจนปัจจุบันหล่อหรูด้วยไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านหน้าด้วยช่องระบายอากาศทรงรังผึ้งขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED โลโก้ MG ติดบนกระจังหน้ากริตเตอร์ขอบใหญ่ขอบสีเดียวกับตัวรถ ประกบไฟหน้า LED ทรงสปอร์ต ด้านข้างกลมกลืนด้วยเส้นสายลงตัว พร้อมกระจกมองข้างติดไฟเลี้ยวที่เปิดประตูดึงก้าน ราวหลังคา
ไฟท้าย LED แบ่งเป็นสองฝั่งไม่แนวยาว ย้ายตำแหน่งป้ายทะเบียนท้ายมาอยู่ข้างๆไฟท้าย พร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ ล้ออัลลอยดีไซน์เท่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R17 และขนาดเล็ก 16 นิ้ว นิ้วพร้อมยาง 215/60 R16 ทั้งเวอร์ชันสันดาปและไฟฟ้าตามารายงานอาจใช้แพลตฟอร์มต่างกันโดยเฉพาะ MG ZS EV อาจได้ใช้แพลตฟอร์ม Modular Scalable แบบเดียวกับ MG4 Electric
ภายใน Interior
มีความคล้ายกับรุ่น ZS เจนปัจจุบันในส่วนของช่องแอร์คู่ขอบสีเงินตรงบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้าส่วนกลางกับจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ ถัดลงมาเป็นปุ่มการทำงานของตัวรถแบบเปียโนมีความคล้ายกับ MG3 เจนใหม่และ MG4 Electric พร้อมกิ๊ปเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่ขอบสีเงิน พร้อมปุ่มเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold และ ปุ่มโหมดการขับขี่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์สวยและมาตรวัดดิจิทัลแสดงผลอัจฉริยะ (Digital Multi-function Display)
สมรรถนะ Performance
อาจยกมาจาก MG ZS เจนปัจจุบัน และ MG3 Hybrid+ เข้ามาและปรับเรี่ยวแรงใหม่ทั้งสันดาปล้วน ไฮบริด และอีวีล้วนดังนี้
- เบนซินเทอร์โบหัวฉีด TGI 1.3 ลิตร ให้กำลังมากสุด 156 แรงม้าที่ 5,200-5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,800-4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
- เบนซิน 1.5 ลิตร VTi–TECH รหัส 15S4C ให้กำลัง 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด
- เบนซินไฮบริดก็มีกับรหัส 15S4C 1.5 ลิตร ยกมาจาก MG3 Hybrid+ เจนใหม่ เป็นเบนซิน 1.5 ลิตร Hybrid Atkinson-cycle กำลังสูงถึง 102 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 128 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังถึง 136 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาดความจุ 1.83 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Three-speed พร้อมการขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดได้สามโหมด Eco, Standard และ Sport สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าเพียวๆ 80 กิโลเมตร และยังมีโหมดการขับขี่พิเศษ Hybrid+ เลือกได้แบบอัตโนมัติทั้ง EV, Series, Series and Charge, Drive and Charge และ Parallel
- รุ่น ZS EV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWh ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport
MG ZSเจเนอเรชันใหม่ เตรียมเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคม 2024 ตามแผนเปิดตัวรถใหม่ ครบทุกความต้องการทั้งรถเก๋ง รถเอสยูวี มาทุกขุมพลังทั้งสันดาปและอีวี ทางด้านเมืองไทยถ้าไม่ผิดพลาดปลายปีนี้ได้พบกันเหมือนที่ออสเตรเลีย
ที่มา Carsales