ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วสำหรับ MG4 EV อีวีแฮทช์แบ็กที่เตรียมเปิดตัวโดยเมืองจีนเปิดตัวที่แรกของโลกก่อนโกอินเตอร์ไปขายต่างประเทศ
ล่าสุดผู้อ่านเว็บรถยนต์ออสเตรเลีย CarExpert ที่อาศัยในเมืองแคนเบอร์รา แชะภาพรถพรางตัวรุ่นหนึ่งเวอร์ชันพวงมาลัยขวาออกมาทำให้มั่นใจว่านี่คือ MG4 EV
ภายนอกทรงสปอร์ต
- กระจังหน้าทรงทึบแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active grille)
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED และไฟหน้า LED 3 ดวงเล็กในโคมทรงเรียบง่าย
- กันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศแบ่ง 2 ฝั่งทรงสี่เหลี่ยมคางหมูคล้าย MG CYBERSTER ประดับด้วยคิ้วชายล่างสีดำใต้กันชนหน้า
- ด้านข้างมาแบบเสา A ทรงตั้งพร้อมหลังคารถสีดำหรือสีเดียวกับตัวรถให้เลือก
- หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ หรือ เสาหลังคามาแบบสีขาวและสีเดียวกับตัวรถให้เลือก
- พอร์ตชาร์จอยู่ที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดึงก้าน
- สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 LED ไฟท้าย LED แนวยาวโดยไฟท้าย 2 ฝั่งมาในลายธงยูเนียนแจ็คแบบ LED
- กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถและล้ออัลลอยมี 2 ขนาดตั้งแต่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 195/60R16 และขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 205/50R17
สร้างจากแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ออกแบบมาโดยเฉพาะกับรถไฟฟ้าโดยมีมิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 4,395 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,842 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,551 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถคาดว่าอยู่ที่ 1,485 กิโลกรัม
ภายในร่วมกับ OPPO
ครั้งนี้ยังได้ OPPO ค่ายมือถือชื่อดังมาร่วมดีไซน์ฟังก์ชันภายในส่วนระบบจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์อัจฉริยะ ขนาด 15.6 นิ้ว แบบลอยตัว ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 รองรับการเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์ม การสะท้อนหน้าจอมือถือไปยังหน้าจอสัมผัสหรือ Mirroring สั่งงานด้วยเสียง สั่งงานด้วยท่าทางหรือการใช้นิ้วสั่ง Gesture Based Navigation ฟีเจอร์เพิ่มเติมประกอบด้วยการโต้ตอบด้วย AI, การเล่นแอปพลิเคชันมือถือผ่านหน้าจอสัมผัส และการผสานการทำงานแบบไร้สายกับ Apple CarPlay และ Android Auto
พร้อมปุ่มาการทำงานที่เหลือเพียง 5 ปุ่มใต้จอพร้อมช่องแอร์แนวนอน 2 ช่อง แท่นชาร์จไร้สาย 50 วัตต์พร้อมระบบระบายอากาศแบบแอคทีฟติดตั้งอยู่ภายในคอนโซลกลาง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงห้วตัดท้ายตัด 2 ก้านมาพร้อมโทนสีภายใน 2 สีทั้งสีม่วง Rose Purple และ และสีน้ำเงิน Mountain Blue ผสานเข้ากับพื้นผิวสัมผัสที่นุ่มนวล เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการออกแบบเรียกว่า “Swan Wing” มุ่งเน้นความสมดุลระหว่างความสง่างามทางสายตาและความเรียบง่าย
เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบโครงเบาะรองรับกับสรีรศาสตร์ที่ดีขึ้นพร้อมระบบระบายอากาศและระบบทำความร้อนโดยตัวเบาะมีความยาว 503 มิลลิเมตร ออกแบบที่วางเท้าของอุโมงค์วางเท้าสำหรับผู้ขับขี่มีมุมเหยียบแป้นแบน 46.4 องศา เพื่อลดแรงกดตอนเหยียบคันเร่งและเบรกในยามเดินทางไกล พนักพิงเบาะนั่งใช้โครงสร้างแบบชิ้นเดียวเพื่อการรองรับที่มากขึ้นด้านสัมภาระด้านท้ายมีความจุก่อนพับเบาะ 522 ลิตร ปรับเอนได้สุด 27 องศาและยังพับแบบ 60/40 ได้ พร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามามีม่านบังแดดในตัว
จอมาตรวัดความเร็วสี TFT ลอยตัว พร้อมลำโพง 6 จุด ช่องเสียบ USB-C 2 จุดหน้า และ 1 จุดหลัง ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charging ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมีกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold คันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งบนเสา ปุ่มการทำงานฟังก์ชันสีเงินโลหะ และ NVH LUXURY SILENCE SPACE เพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ระบบ Intelligent smart access พร้อมระบบปฏิบัติการ i-SMART 3.0
ขุมพลังเป็นไฟฟ้าล้วน
แบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น TZ180XS1001 ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP จาก Rept Battero Energy ถึง 70 kWh เป็นรุ่นแรกของค่ายที่ใช้แบตเตอรี่แบบกึ่ง Solid-State เป็นมาตรฐานประจำคาดวิ่งไกลสุด 437 และ 537 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 422 กิโลเมตร กับ 518 กิโลเมตร (NEDC)
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบไฟว์ลิงก์ รองรับฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่ L2+ ซึ่งรวมถึงระบบนำทางบนทางหลวงด้วยระบบ Autopilot (NOA)
สำหรับชื่อ MG4 Urban ได้ยื่นขอจดเครื่องหมายการค้ากับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของออสเตรเลีย IP Australia เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (แม้ทางเอ็มจี ออสเตรเลีย ยังไม่หยิบมาใช้) โดยเตรียมขายออสเตรเลียเร็วๆนี้หลังเปิดตัวที่จีน 5 สิงหาคม
ที่มา Carexpert
ขอบคุณภาพจาก Lindsay, Carexpert