More

    Mitsubishi Grandis ชื่อเดิมในร่างใหม่เอสยูวีพื้นฐาน Renault ขายยุโรป

    ในอดีต Mitsubishi Grandis หรือ Space Wagon เอ็มพีวีดีไซน์ล้ำเจาะกลุ่มครอบครัวยุค 2000 จนยุติไปและล่าสุดชื่อ Grandis ได้รับการปัดฝุ่นอีกครั้ง

    Mitsubishiครั้งนี้มาในร่างเอสยูวีไซซ์คอมแพ็คสำหรับตลาดยุโรปและเป็นการนำพื้นฐานของ Renault Symbioz มาแปะตรา Mitsubishi และเป็นรุ่นที่สองต่อจาก Mitsubishi ASX ที่นำพื้นฐาน Renault Captur มาแปะตรานั่นเอง

    แม้ทาง Mitsubishi ยุโรป เผยภาพทีเซอร์อย่างเป็นทางการออกมาแแม้จะเห็นในส่วนของด้านหน้ากับ กระจังหน้าสีดำกึ่งโครเมียมติดตราทรีไดมอนด์ เจาะช่องระบายอากาศใหญ่ขึ้นในชุดกันชนหน้าแบบสีดำพร้อมคิ้วกันกระแทกด้านล่างกันชนสีเงิน

    Mitsubishi

    ชุดดกันชนหน้าทรงสปอร์ตสีทูโทนสีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้า LED โคมใหม่ และไฟ DRL แบบ LED ติดที่มุมกันชนหน้าซ้าย-ขวา ด้านข้างคงเดิมตกแต่งเท่ด้วย กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยวในตัว คิ้วตกแต่งชายล่างประตูโครเมียม มีหลังคาดำ และไฟท้าย LED ทรงสามเหลี่ยม พร้อมตัวหนังสือ Mitsubishi ขนาดใหญ่รับกันชนหลังสีทูโทน

    Mitsubishi

    ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R18 และขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 225/45R19 โดยตัวรถสร้างจากพื้นฐานแพลตฟอร์ม CMF-B พื้นฐานเดียวกับ Renault Symbioz และ Renault Captur II รวมถึง Mitsubishi ASX และ Nissan JUKE ตั้งแต่ ความยาว 4,413 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,797 มิลลิเมตร ความสูง 1,575 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,638 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 169 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,426-1,447 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร 

    Mitsubishiภายในยกมาทั้งกะปิจาก Renault Captur II, Mitsubishi ASX และ Renault Symbioz ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน มาตรวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูล MID จาก 10.25 นิ้ว มาเป็นขนาด 7 นิ้ว ไว้บอกระบบนำทางแบบ 3 มิติ อภิมหาความบันเทิงกับจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Apple CarPlay หรือ Android Auto

    ใต้จอสัมผัสออกแบบสวิตช์เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติใช้งานใหม่แบบปุ่ม Piano ลากยาวมาถึงคอนโซลเกียร์ใหม่ พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold พร้อมไฟสร้างบรรยากาศ ambient lighting เลือกได้ถึง 8 สี เบาะนั่งหุ้มผ้ากับหุ้มหนังให้เลือกแถมเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 โดยมีพื้นที่มากถึง 1,582 ลิตร และถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 492 ลิตร

    ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซินเทอร์โบแบบ E-TECH Hybrid (HEV) ขนาด 1.6 ลิตร รหัส H4M ให้กำลังมากถึง 94 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 149 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 49 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร และด้านหลัง 20 แรงม้า แรงบิด 50 นิวตันเมตร และขนาดความจุแบตเตอรี่ 1.26 kWh (68 Cells 150-285 V) เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า วิ่งไกลสุด 1,014 กิโลเมตรจับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ multimode

    Renault

    และขุมพลังเทอร์โบ Mild Hybrid 12-volt ขนาด 1.3 ลิตร TCe ให้กำลังมากถึง 160 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 1,800-3,750 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด และ 140 แรงม้าที่ 4,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 1,750-3,500 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดขับเคลื่อนล้อหน้า

    ความปลอดภัยเต็มคันพร้อมฟังก์ชันใหม่ระบบเตือนการชนท้ายพร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน และตรวจจับคนเดิน คนปั่นจักรยาน rear-end collision warning system with emergency brake assist and pedestrian and cyclist detection, รักษาช่องทางเดินรถแบบ แอคทีฟ active lane keeping, อ่านป้ายจราจร traffic sign recognition เตือนจุดบอด Blind spot assist, active lane tracking,

    เตือนความเร็ว speed warning, ควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control, เปิดไฟสูงอัตโนมัติ high-beam assist และรุ่นท็อปสุดยังมาพร้อมระบบ MI-PILOT ที่มาทั้งระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบ Stop&Go adaptive cruise control พร้อมควบคุมรถให้อยู่บริเวณกึ่งกลางเลน active lane centering

    RenaultMitsubishi Grandis เตรียมเปิดตัวที่ยุโรปตั้งแต่กรกฎาคมและขายช่วงปลายปีนี้และจะมีเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนออกขายตามหลังการเปิดตัว

    ที่มา Mitsubishi

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts