น้ำมันเครื่อง เป็นส่วนสำคัญในการปกป้องเครื่องยนต์ ให้รถยนต์ของคุณให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีอายุการใช้งานยาวนาน การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ด้วยน้ำมันเครื่องที่มีหลากหลายประเภทในท้องตลาด ทำให้ผู้ใช้รถหลายคนสับสนในการเลือกซื้อ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่า น้ำมันเครื่องมีกี่แบบ? และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับรถของคุณ
น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท
โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันเครื่องสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักตามฐานน้ำมันที่ใช้ในการผลิต ได้แก่
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic)
ผลิตมาจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์มาจากน้ำมันปิโตรเลียม ถือว่าเป็นเกรดน้ำมันเครื่องที่พิเศษที่สุด มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นที่ดีเยี่ยม ทนความร้อนสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถใช้งานได้ถึง 15,000 – 20,000 กิโลเมตร เหมาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง รถยนต์ที่ใช้งานหนัก หรือรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานสูง
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic)
เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำมันสังเคราะห์แท้และน้ำมันธรรมชาติ มีคุณสมบัติที่ดีกว่าน้ำมันธรรมชาติแต่ราคาถูกกว่าน้ำมันสังเคราะห์แท้ สามารถใช้ได้ประมาณ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร ถือเป็นเกรดน้ำมันเครื่องที่ผู้คนนิยมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมากที่สุด เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไปที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน
น้ำมันเครื่องธรรมชาติ (Synthetic)
ผลิตจากน้ำมันดิบ หรือน้ำมันแร่ (Mineral Oils) เป็นน้ำมันจากธรรมชาติล้วน ๆ มีความหนืดสูง ราคาถูกที่สุด และมีอายุการใช้งานสั้นที่สุด ใช้ได้ประมาณ 3,000 – 5,000 กิโลเมตร
น้ำมันเครื่องทั้ง 3 ประเภท มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป การเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมนั้น ควรจะอ้างอิงคำแนะนำจากคู่มือรถยนต์เป็นหลัก นอกจากนี้ก็ควรจะคำนึงถึง สภาพการใช้งาน หากคุณขับรถในเมืองที่มีการจราจรติดขัดบ่อยๆ หรือขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นประจำ ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดี ที่สำคัญควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ เพราะจะช่วยให้รถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และมีอัตราการเร่งเครื่องที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความที่น่าสนใจ
ของเหลวรถยนต์ 6 ชนิด ที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเป็นประจำ มีอะไรบ้าง?
วิธีแก้ “อาการเมารถ” เดินทางไกลสบายหายห่วง