หลังจากที่ BYD ส่งแคมเปญโหดลดสูงสุดแสนกว่าบาท สำหรับ BYD Dolphin ได้ไม่นานล่าสุด คู่แข่งอย่าง NETA V-II จัดโปรโหดกระชากใจแฟนๆ
ด้วยการปรับลดราคาจำหน่ายลดสูงสุด 50,000 บาท โดยราคาใหม่มีด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย ดังนี้
- รุ่น LITE ราคา 499,000 บาท (ลดจากเดิม 50,000 บาท)
- รุ่น SMART ราคา 549,000 บาท (ลดจากเดิม 20,000 บาท)
พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จองและรับรถ NETA V-II ตั้งแต่ 22 มิถุนายน-31 กรกฎาคม ไม่ว่าจะเป็น
- รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ ตลอดอายุการใช้งาน สำหรับเจ้าของคนแรกเท่านั้น (ขับไม่เกิน 30,000 กิโลเมตร/ปี)
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- ฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะตามกำหนด รวม 5 ครั้ง ตลอด 40,000 กิโลเมตรแรก
- ฟรี! รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 ก.ม.(อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ดอกเบี้ยพิเศษ 1.28% เงินดาวน์ขั้นต่ำ 25% ผ่อนไม่เกิน 48 เดือน
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถไปแล้ว ระหว่างวันที่ 1-21 มิถุนายนที่ผ่านมา จะได้รับสิทธิ์การรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน รวมไปถึงฟรี! ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะตามคู่มือการบำรุงรักษากำหนด รวม 5 ครั้ง สูงสุด 40,000 กิโลเมตร เพิ่มเติมจากข้อเสนอที่เคยได้รับมาเช่นกัน
NETA V-II ด้วยหน้าตาใหม่ตั้งแต่ส่วนกันชนหน้าออกแบบมีช่องคล้ายช่องระบายอากาศใหญ่ขี้นมีช่องเล็กๆซ้าย-ขวาใหม่ เสริมคิ้วสีเงินใต้กันชนหน้าหล่อด้วยไฟหน้า Projector และไฟ DRL LED ในโคมเดียวกันแบบ Eagle-eye Laser โดมเดิมมีระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างทรงสปูน ด้านท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED ออกแบบใหม่แบบทรูไทป์พร้อมไฟถอยหลังในตัวแบบแนวยาวรับกับฝาท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED จุดสังเกตนอกจากท้ายออกแบบใหม่แล้วยังมีที่ปัดน้ำฝนด้านท้ายติดตั้งมาให้จากโรงงาน กันชนหลังออกแบบใหม่มีแผงสะท้อนแสงสีแดงใหม่กับคิ้วขอบแผงไฟสะท้อนแสง ล้ออัลลอยลายเดิมขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R16 มิติตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,070 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,690 มิลลิเมตร ความสูง 1,540 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,420 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 130 มิลลิเมตร
เวอร์ชันไทยมีสีสันมากขึ้นด้วยโทนสีการตกแต่งทั้งสีขาว-ดำ สีขาว-น้ำเงิน และสีดำล้วน ด้านออปชันคงเดิมทั้งกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ที่มีระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้วล้ำสมัยด้วยระบบการสั่งการระบบการทำงานต่างๆของรถพร้อมเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน IOS และ Android ลำโพง 6 จุด มาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12 นิ้วแนวยาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน และเบาะหลังสามารถพับได้แบบ 100% พื้นที่มากถึง 588 ลิตรและถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 335 ลิตร เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม ระบบกรองอากาศ N95
ขุมพลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 36.1 kWh ชนิด LFP (Lithium-ion Phoshate) กำลังยังเท่าเดิมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุดเท่าเดิม 382 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC ความเร็วสูงสุด 121 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 มีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 ระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM
รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงและการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งแบบ Sport และ Normal
ระบบความปลอดภัยมาครบด้วยระบบช่วยในการขับขี่ ADAS ในรุ่น SMART รวม 8 ระบบ ได้แก่ ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (HBA) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning (FCW) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB) ช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Front Vehicle Start Alert (FSA) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Integrated Cruise Assist (ICA) และ ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Emergency Lane Keeping System (ELKS)
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ควบคุมล็อกประตูอัตโนมัติ เบรกมือไฟฟ้าพร้อม AVH ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อม ABS และ EBD กล้องมองหลังทำงานร่วมกับสัญญาณกระยะการถอยหลัง และไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง ในรุ่น LITE และแบบอัตโนมัติในรุ่น SMART
NETA V-II ประกอบที่โรงงานบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร “พระนครฟรีโซน” ด้วยกำลังการผลิต 20,000 คันต่อปี มีสีมาตรฐานให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว White Storm สีเทา Midnight Gray *สีชานม Milk Tea *สีฟ้า Baby Blue
*เฉพาะรุ่น SMART